เลือกจอสำหรับเล่นเกม ดูอะไรก่อนหลัง สำคัญอย่างไร
ในปัจจุบันนี้เหล่าเกมเมอร์ส่วนใหญ่เริ่มให้ความสำคัญกับจอสำหรับเล่นเกมกันมากขึ้นเรื่อย ๆ อันเนื่องมาจากราคาที่ถูกลงจนสามารถซื้อหาจับต้องได้ ทุกวันนี้เราสามารถซื้อจอความละเอียด 1080p ขนาด 25 นิ้วได้ ในราคาแค่ห้าพันกว่าบาทเท่านั้นเอง แถมยังมีการตอบสนองที่ไวในระกับ 1ms อีกต่างหาก และเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้ราคาจะถูกลงไปอีกแน่นอน
กระนั้นผู้เขียนก็เชื่อว่าน่าจะยังมีอีกหลายคนที่ยังสงสัยอยู่ การที่เราจะเลือกสำหรับเอาไว้เล่นเกมนั้นควรดูที่ตรงไหนอย่างไรบ้าง วันนี้ผู้เขียนขอแนะนำสิ่งที่ควรทราบเกี่ยวกับการเลือกดูจอสำหรับเล่นเกมว่า ควรให้ความสำคัญกับอะไรบ้างครับ
อนึ่ง บทความนี้อ้างอิงข้อมูลบางส่วนมากจากเวปไซด์ gamingscan.com เกี่ยวกับการเลือกจอสำหรับเล่นเกม รวมกับประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียน ซึ่งถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
Resolution
สิ่งแรกที่สุดสำคัญที่สุดในการเลือกซื้อจอสำหรับเล่นเกมก็คือความละเอียดของหน้าจอหรือ Resolution นั้นเอง ยิ่งความละเอียดยิ่งสูง จำนวน Pixel ในหน้าจอจะมากขึ้นตามไปด้วย และนั้นหมายถึงรายละเอียดและความคมชัดของภาพในหน้าจอ คุณภาพของกราฟฟิกในเกมจะดูดีแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับความละเอียดของหน้าจอเป็นส่วนประกอบหลัก แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า ยิ่งความละเอียดของภาพยิ่งสูง ก็ยิ่งเป็นการฉุดเฟรมเรทของเกมให้ลดลงตามไปด้วย ดังนั้นถ้าถ้าเล่นเกมและใช้จอที่มีความละเอียดขนาด 4K หรือสูงกว่านั้น และอยากได้เฟรมเรทที่สูงกว่า 60 เฟรม ก็ต้องมีเครื่อง PC ที่ทรงพลังในการรันด้วย ไม่อย่างงั้นต่อให้จอรับได้แต่เล่นไปกระตุกไปก็คงไม่ดีแน่นอน
Refresh rate
หนึ่งในหัวข้อที่มีการถกเถียงและเป็นประเด็นกันมากที่สุดในโลกออนไลน์ ว่าจอที่มี Refresh Rate ขึ้นไปแตะระดับ 144Hz นั้นจำเป็นสำหรับการเล่นเกมหรือไม่ ซึ่งถ้าว่ากันตามตรงแล้วมันก็อยู่ที่เกมไหนจะรองรับการปรับค่าเฟรมเรทที่สูงกว่า 120 ขึ้นไปหรือไม่มากกว่า แต่ผลพลอยได้ที่มาจากค่า Refresh Rate ที่สูงขึ้นก็คือความลื่นไหลและสบายตาในการใช้งานแบบปกติมากขึ้น เกมเมอร์บางคนถึงกับเอ่ยปากเลยว่า ถ้าหากได้สัมผัสกับความลื่นไหลของจอแบบ 144Hz แล้วสักครั้งหนึ่ง จะกลับไปใช้จอแบบ 60Hz ไม่ได้กันเลย แต่ก็เป็นกรณีเดียวกันกับเรื่องของ Resolution ที่ถ้าหากเครื่อง PC ประสิทธิภาพไม่สูง และไม่สามารถทำเฟรมเรทไปถึง 120 เฟรมมันก็ดูจะไม่ได้รับผลประโยชน์ตรงจุดนี้เท่าไหร่นัก ถ้าหากคุณเป็นเกมเมอร์ที่เน้นเล่นเกมแบบ FPS และแอคชั่นที่ต้องใช้การรีดเฟรมเรทขั้นสูง ก็จะเหมาะกับการใช้งานจอแบบที่ Refresh Rate สูง ๆ หรือถ้าหากงบไม่เอื้ออำนวย ก็อาจจะเลือกจอที่ไม่ต้องมี Refresh Rate สูงมากเพื่อประหยัดเงินก็ได้ แต่ถ้าหากคุณเป็นคนที่ซีเรียสกับความลื่น ก็อาจจะต้องยอมจ่ายกันหน่อย
Adaptive Sync
เป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่หลาย ๆ คนคงงงว่า ถ้ามีหรือไม่มีแล้วมันจะใช้งานได้หรือเปล่า ? ซึ่งเจ้า Adaptive Sync ที่เราเห็นกันบ่อย ๆ ก็คือ FreeSync จาก AMD และ G-Sync จาก Nvidia ซึ่งตัว Sync ทั้งสองแบบจะช่วยให้การฉีกขาดของภาพเวลาเคลื่อนไหวเร็ว ๆ นั้นลดลงหรือหายไป ทำให้ภาพที่ได้นั้นดูสบายตาขึ้น สำหรับ FreeSync นั้นจะมีมาให้กับจอเล่นเกมเป็นส่วนใหญ่และไม่ต้องจ่ายค่าตัวเพิ่ม แต่สำหรับ G-Sync นั้นจะไปอยู่กับจอตัวท็อประดับแพง ๆ เสียมากกว่า โดยสำหรับจอที่มีฟังก์ชั่น G-Sync นั้นจะแพงกว่าถึง 3 – 4 พันบาทเลยทีเดียว แต่ถ้าใครไม่กังวลเรื่องเงินอยู่แล้วและใช้การ์ดจอ Nvidia ก็อาจจะยอมจ่ายเพื่อใช้งานฟังก์ชั้นนี้ก็ย่อมได้ ส่วนผู้ใช้ AMD ก็จะประหยัดเงินไปได้หน่อย เพราะจอเล่นเกมที่ FreeSync นั้นมีราคาไม่แพงและหาได้ง่ายดายกว่ามากครับ
ส่วนคำตอบที่ว่าจำเป็นหรือไม่ ? ก็อยู่ที่เพื่อน ๆ ว่าจะรับได้กับภาพฉีกขาดที่เคลื่อนไหวเร็ว ๆ ได้มากน้อยแค่ไหน และมีเงินเหลือพอหรือเปล่า เพราะจอที่ใช้ G-Sync นั้นราคาก็สูงเอาเรื่องตามที่ว่าไป แต่ถ้าใช้การ์ดจอ AMD การเลือกจอที่มี FreeSync มาใช้งานก็ถือว่าพอเเหมาะพอดีแบบไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มเยอะมากเท่าไหร่ครับ
คลิปเปรียบเทียบระหว่างจอแบบ TN กับ IPS ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร
Panel แบบ TN และ IPS
ในปัจจุบันนี้จอมอนิเตอร์จะมี Panel อยู่สองแบบ คือ IPS และ TN เราลองมาทำความรู้จักกับจอทั้งสองประเภทนี้กันก่อนครับ
TN หรือ Twisted Nematic จะเป็นจอที่มีอัตราการตอบสนองหรือ Response Time ที่ดี แต่จะมีปัญหาในเรื่องของการแยกเม็ดสีที่จะไม่เที่ยงตรงมากนัก ซึ่งเหมาะกับการเล่นเกมและมีราคาที่ไม่แพง
IPS หรือ In-plane Switching จะมีจุดเด่นในเรื่องของความคมชัดและสวยงามกว่าแบบ TN และสีที่ได้จะเพี้ยนน้อยกว่าแบบ TN อยู่พอสมควร แต่ก็แลกมาด้วยความไวในการตอบสนองที่จะด้อยกว่านิดหน่อย
ถ้าหากคุณเป็นผู้เล่นที่ซีเรียสกับการตอบสนอง เล่นเกมแบบ Competitive ค่อนข้างบ่อย(เช่น FPS หรือเกมต่อสู้) การเลือกใช้จอแบบ TN ก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่สำหรับคนที่เน้นสีสันและความเที่ยงตรงของสี รวมไปถึงอยากได้จอที่เอาไว้ใช้ทำงานกราฟฟิกด้วย ก็ควรเลือกใช้จอแบบ IPS จะดีกว่า
Response Time
ข้อนี้เป็นอะไรที่สำคัญมากสำหรับคนที่เล่นเกมแนวต่อสู้หรือ FPS เพราะถ้าหากจอมีการตอบสนองช้าหรือหน่วงไปแม้แต่นิดเดียวก็สามารถพลิกผลแพ้ชนะได้เลย แต่ถ้าหากคุณเป็นคนที่ชอบเสพย์บรรยากาศในการเล่นเกมมากกว่าจะมาซีเรียสเรื่องการตอบสนอง ก็อาจจะมองข้ามในส่วนนี้ไปได้บ้าง(แต่ก็ไม่ควรให้ห่างมาก เพราะถ้าดีเลย์ถึงขั้นสิสองวินี่ได้หงุดหงิดกันแน่นอนไม่ว่าจะเกมแนวไหน)
และข้อนี้ก็จะเกี่ยวข้องกับการเลือก Panel ของจอในหัวข้อที่แล้ว ถ้าใครซีเรียสเรื่องเฟรมเรทก็เลือก TN แต่ถ้าใครเน้นภาพแบบสวยไว้ก่อนและเอาจอไว้ทำงานกราฟฟิก ก็อาจจะเลือกจอแบบ IPS แทนก็ได้ครับ
ขนาดของจอ
ทุกวันนี้เราสามารถเลือกซื้อจอสำหรับเล่นเกมที่ขนาด 21 – 27 นิ้วได้โดยที่ไม่ต้องเสียเงินมากเท่าสมัยก่อน ในยุคนี้การหาจอเพื่อเล่นเกมขนาด 25 นิ้วในราคาแค่ห้าพันกว่า ๆ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แต่สิ่งที่ควรคำนึงถึงในการเลือกขนาดของจอก็คือขนาดของโต๊ะคอม ระยะห่างระหว่างผู้ใช้งานและตำแหน่งของจอ อย่าลืมว่าจอยิ่งใหญ่ก็ต้องยิ่งนั่งให้ห่างกว่าเดิม ถ้าหากโต๊ะของเราเล็ก และขนาดห้องไม่ใหญ่มาก ก็ควรเลือกจอที่ขนาดพอดีกับระยะสายตาและตำแหน่งที่นั่งให้เหมาะสมด้วย
พอร์ทการเชื่อมต่อ
ในปัจจุบันจอสำหรับเล่นเกมมีพอร์ทการเชื่อมต่ออยู่หลายแบบ โดยหลัก ๆ มีดังต่อไปนี้
- Display Port 1.4 เป็นการเชื่อมต่อที่ดีที่สุด ให้ความคมชัดทั้งภาพและเสียงอย่างครบถ้วน แถมยังรองรับ Refresh Rate ได้สูงอีกด้วย
- HDMI 1.4/2.0 การเชื่อมต่อแบบมาตรฐานของเครื่องคอนโซลและ PC ส่วนใหญ่ ให้ความคมชัดและเสียงอยู่ในระดับที่ดี แต่จะไม่รองรับ Refresh Rate ในระดับสูง ๆ เหมือนกับ Display Port
ซึ่งถ้าหากคุณผู้อ่านอยากจะให้จอใช้งานในโหมด 144Hz ก็ต้องใช้การเชื่อมต่อแบบ Display Port และขอให้สังเกตดูตรงหัวสำหรับเชื่อมต่อให้ดีด้วย เพราะ Display Port และ HDMI Port นั้นมีลักษณะคล้ายกันมาก ดูให้ดีก่อนเสียบและเลือกใช้งานให้เหมาะสมนะครับ
*อย่าลืมดูด้วยว่า การ์ดจอของเครื่อง PC มี Display Port ให้เสียบใช้งานด้วยรึเปล่านะครับ ไม่อย่างงั้นเสียบไม่เข้าต้องลำบากหาหัวแปลงมาใช้งานวุ่นวายไปอีก*
สุดท้ายนี้ หลังจากที่เรารู้ว่าการเลือกซื้อจอสำหรับเล่นเกมนั้นต้องดูสิ่งใดเป็นอันดับต้น ๆ อีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือจอตัวนั้น ต้องอยู่ในงบประมาณที่เราตั้งเอาไว้และสอดคล้องกับการใช้งานใหญ่ของเรา ถ้าเน้นเล่นเกมแนว Competitive และมีเงินไม่อั้น ก็ควรเลือกซื้อจอแบบ 144Hz TN มาใช้งานเพื่อความบันเทิงสูงสุด แต่ถ้าหากเราทำงานด้านกราฟฟิกที่ต้องการให้สีแสดงผลอย่างถูกต้อง ก็ควรดูจอแบบ IPS ที่ให้ความคมชัดของสีมากกว่าแบบนี้เป็นต้น อย่าละเลยการเลือกจอภาพสำหรับใช้งาน เพราะมันคือสิ่งที่เราเหล่าเกมเมอร์จะต้องจ้องมองมันทุกครั้งเพื่อรับความบันเทิงจากเกมที่แล่นและสิ่งที่ทำ ขอให้ทุกคนพอกับจอที่ตัวเองต้องการและพอดีกับงบประมาณในกระเป๋ากันนะครับ