เกมเมอร์หลายคนคงจะต้องมีความฝันหรือคิดในใจอย่างแน่นอนว่า “สักวันหนึ่งจะสร้างเกมเป็นของตัวเอง” ซึ่งหลายคนก็สามารถเดินตามความฝันของตัวเองได้อย่างสำเร็จ บางคนก็เป็นฝ่ายสนับสนุนคนสร้างเกมผ่านการซื้อเกมแทน แต่สำหรับใครที่มีความฝันอย่างแน่วแน่ว่าจะสร้างเกมระดับ AAA อย่างที่ Red Dead Redemption 2 หรือ God of Wars อาจจะสงสัยว่าใช้งบเท่าไหร่ วันนี้เราจะมาหาคำตอบกัน

การสร้างเกมประกอบไปด้วยอะไรบ้าง

การสร้างเกมงบประมาณจะถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วนสำคัญคือ 1.งบสำหรับฝ่ายพัฒนาเกม 2.งบสำหรับฝ่ายการตลาด 3.งบสำหรับ Licence 4.งบสำหรับการจัดจำหน่าย และแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ต่าง ๆ เพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจ

งบสำหรับฝ่ายพัฒนาเกมใช้งบประมาณ 45% ของงบประมาณทั้งหมด

งานสำหรับฝ่ายพัฒนาเกมถือเป็นงบก้อนใหญ่ที่เหล่านายทุนต้องจะจ่ายมากที่สุด ซึ่งรายจ่ายจะแบ่งได้ประมาณดังนี้

เงินเดือนพนักงาน

• Video Game Designer คนออกแบบเกมให้เกมต่าง ๆ ออกมาในรูปแบบไหนอยากให้รูปแบบภาพในเกมออกมาเป็นอย่างไรก็อยู่ที่คน ๆ นี้ สำหรับเงินเดือนนั้นแล้วแต่บริษัทซึ่งจากการสืบค้นข้อมูล Ubisoft จ่ายเงินเดือนให้พนักงานตำแหน่งนี้มากถึงปีละ 61,508 เหรียญสหรัฐหรือประมาณปีละ 2 ล้านบาทต่อคน
• Software Engineer / Developer / Programmer กลุ่มคนสร้างเกมที่เป็นเหมือนกับคนเชื่อมส่วนต่าง ๆ ของเกมเข้าด้วยกัน อีกทั้งยังเป็นคนที่พัฒนาเกมให้มีความก้าวหน้ารวมถึงแก้ BUG และปัญหาของคนเล่นเกมอีกด้วย ซึ่งเงินเดือนของพนักงานตำแหน่งนี้บริษัท Ubisoft จ่ายปีละเฉลี่ยที่ 101,137 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 3 ล้านบาทต่อพนักงานตำแหน่งนี้ 1 คน แต่ถ้าเป็นระดับ Senior  ก็จะมีรายได้เฉลี่ยต่อปีที่ 133,731 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 4.3 ล้านบาท
• Organizational Development Manager ในบริษัทใหญ่ ๆ ที่มีพนักงานทำเกมหลายร้อยคนอย่าง Activision, Ubisoft, EA ทำให้การดูแลให้ทั่วถึงนั้นยากลำบากจึงต้องมีตำแหน่งจัดการองค์กรเพื่อให้การทำงานในภาคส่วนต่าง ๆ มีประสิทธิภาพซึ่งบริษัทอย่าง Ubisoft จ่ายปีละเฉลี่ยที่ 86,475 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 2 ล้านบาท
• Artist ฝ่ายศิลป์ประจำทีมสร้างเกม รับหน้าที่ออกแบบตัวละคร ฉาก ซึ่งรายได้ของตำแหน่งนี้ จากการสืบค้นทางทีมงาน Blizzard จ่ายเงินเดือนปีละ 62,450 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2 ล้านบาท หากเป็นระดับ Senior ก็จะมีรายได้ประจำปีเฉลี่ย 93,328 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3 ล้านบาท
• และตำแหน่งอื่น ๆ อีกมากมาย ตามแนวทางของเกมที่พัฒนา

ค่าอุปกรณ์ Hardware /Software

อุปกรณ์การทำเกมนั้นมีมากมาย นับตั้งแต่ Hardware ที่หลาย ๆ ทางเว็บไซต์ pcgamer ได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับระดับของเครื่อง Computer ที่ใช้ในการพัฒนาเกมที่หากจะพัฒนาเกมในรูปแบบ 3D ขึ้นไปผ่าน Unreal Engine 4 จะต้องใช้ Computer ระดับ High-end ขึ้นไปซึ่งมีราคาประมาณ 65,000 บาท เป็นอย่างต่ำ ลองคิดดูว่าหากคุณมีทีมโปรแกรมเมอร์ 200 กว่าคน ทุกคนต้องใช้คอมที่ระดับนี้ก็ต้องใช้เงินมากถึง 130,000,000 บาท ยังไม่รวมกับซอร์ฟแวร์และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ อีกมากมาย

ค่า Engine พัฒนาเกม

Engine สำหรับการพัฒนาเกมก็แล้วแต่ความสะดวกของทีมงานที่บางทีมเลือกที่จะสร้าง Engine ขึ้นมาเองหรือบางทีมเลือกที่จะซื้อ Engine ของคนอื่นมาใช้ นอกจากนี้ยังมี Engine ที่ให้เหล่าทีมผู้พัฒนาไปใช้ฟรี แต่ต้องแบ่งเปอร์เซ็นตามยอดขายของเกมเช่น Unreal Engine ของ Epic Games เป็นต้น

งบสำหรับฝ่ายการตลาดใช้งบประมาณ 45% ของงบประมาณทั้งหมด

เกมนั้นจะสร้างอย่างเดียวไม่ได้คุณต้องมีการโปรโมทที่ดีด้วย โดยงบสำหรับสำหรับฝ่ายการตลาดนั้นส่วนมากแทบจะเทียบเท่ากับงบพัฒนาเกมเลยทีเดียว  หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าการซื้อบูทในงาน E3 ปี 2018 สำหรับบูทขนาดเล็กมีราคาตั้งแต่ 50,000 เหรียญสหรัฐถึง 75,000 เหรียญสหรัฐ ในขณะที่บูทขนาดใหญ่มีค่าเช่ามากถึง 500,000 – 750,000 เหรียญสหรัฐ ทำให้งานประเภทนี้เรามักจะเห็นเกมหลาย ๆ เกมอยู่ในบูทเดียวกัน นอกจากนี้ยังไม่รวบงบอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาในช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งหากเกมระดับธรรมดาจะใช้งบประมาณปีละ 1 ล้านเหรียญ แต่หากเป็นเกม AAA อาจจะใช้งบประมาณมากถึง 20 ล้านเหรียญต่อปี

งบสำหรับ Licence ใช้งบประมาณ 5% ของงบประมาณทั้งหมด

Licence หรือลิขสิทธิ์สำหรับการทำเกมนั้นหากว่าทีมพัฒนาไม่สามารถแต่งเนื้อเรื่องเอง ประพันธ์เพลงไม่เก่ง การซื้อลิขสิทธิ์ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีและประหยัดเวลาในการพัฒนาอย่างมาก โดยการซื้อลิขสิทธิ์มีให้เห็นหลากครั้งในการสร้างเกมเช่นการซือนิยาย The Witcher ของ  Andrzej Sapkowski มาทำเกมของทีมงาน CD Projeck Red ในราคา 9,500 เหรียญสหรัฐ มาเป็นเนื้อเรื่องของเกม อีกทั้งในบางเกมอย่างเกมตระกูลกีฬาที่หากขาดลิขสิทธิ์เช่นตัวนักกีฬา ทีมกีฬา สนามแข่งขัน  ไปเกมแทบจะไม่สามารถขายได้เลย เนื่องจากสิ่งเหล่าเป็นหนึ่งในแรงดึงดูดให้คนเล่นเกม

งบสำหรับการจัดจำหน่ายใช้งบประมาณ 5% ของงบประมาณทั้งหมด

งบประมาณการจัดจำหน่ายนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับด้านการขายเกมล้วน ๆ ไม่ว่าจะเป็นการผลิตแผ่นเกม การจัดส่งเกม การเช่าร้านค้าขายเกมแบบ Digital (Steam) รวมถึงการผลิตในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Special Edition ของเกมและสิ่งของประเภท merchandise ต่าง ๆ

ค่าเฉลี่ยของงบประมาณในการสร้างเกม AAA ในยุคปัจจุบัน

ในปัจจุบันการทำเกมระดับ AAA จะใช้งบประมาณเฉลี่ยอยู่ที่ 100 ล้านเหรียญสหรัฐถึง 200 ล้านเหรียญ โดยเกมอย่าง Grand Theft Auto V ใช้งบประมาณสูงถึง 265 ล้านเหรียญสหรัฐทำให้หรือเกมอย่าง Call of Duty Modern Warfare 3 ก็ใช้งบประมาณมากถึง 250 ล้านเหรียญ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเกมที่ไม่เปิดเผยงบประมาณอย่าง God of War ,Detroit: Become Human, Red Dead Redemption 2 แต่หากดูจากเวลาในการพัฒนาแล้ว แต่ละเกมน่าจะใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐสำหรับเกม Single Player และหากเป็นเกมที่มีระบบ  Multiplayer งบประมาณในการทำเกมน่าจะเกิน 200 ล้านเหรียญอย่างแน่นอน เนื่องจากมีค่าเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องดูและและต้องพัฒนาเกมอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เกมออกจนหมดความนิยม

สรุป

หากอยากมีเกม AAA สักเกมเป็นของตัวเองน่าจะต้องมีเงินในบัญชีอย่างต่ำที่สุด 3,000 ล้านบาทในการสร้างเกมหนึ่งเกม ซึ่งสำหรับเกมเมอร์อย่างเราเรียกได้ว่าเป็นเงินที่มากมายมหาศาลเลยทีเดียว แต่สำหรับบริษัทอย่าง EA , Ubisoft, Sony ที่มีเงินมามายมหาศาล การทำเกมนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่ว่าจะทำหรือไม่เท่านั้นเอง เห็นอย่างนี้แล้วอยากจะฝากบอกไปถึงหลาย ๆ คนว่าเลิกเล่นเกมละเมิดลิขสิทธิ์เพราะนอกจากจะเสี่ยงต่อไวรัสในเครื่องแล้ว ยังทำให้วงการเกมไม่พัฒนาอีกด้วย ดังนั้นอย่างที่ Xter ได้กล่าวไว้ “อย่างน้อยก็ขอน้ำใจสักหน่อยให้แก่ผู้สร้างผลงานที่เรารัก”