ระบบ Gunsmith ในภาค Modern Warfare II นั้น ได้รับการอัปเดตปรับปรุงจากภาค 2019 ทำให้เราสามารถปรับแต่งอาวุธได้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นสามารถปรับปรุง หรือเปลี่ยนแปลงอาวุธปืนทุกประเภท ให้กลายไปเป็นประเภทใหม่ได้ ด้วยการสลับตัวปืน หรือ Receiver แต่จะยังสามารถใช้งานอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ของเดิมได้อย่างเต็มรูปแบบ
สำหรับ Progression ของอาวุธแต่ละกระบอกจะแยกกัน แต่อุปกรณ์แต่งปืนบางชิ้นจะสามารถใช้ร่วมกันได้ระหว่างแพลตฟอร์มอาวธ ซึ่งขึ้นอยู่กับอุปกรณ์เสริมชิ้นนั้น ๆ โดยทีมพัฒนาตั้งเป้าจะให้มันช่วยลดความน่าเบื่อในการเก็บเลเวล รวมไปถึงทำให้มันใช้เวลาน้อยลงด้วย ในการไต่ระดับเก็บเลเวล
สำหรับภาคนี้ อาวุธทุกชิ้นจะแยกจากกัน และทุกกระบอกจะมาพร้อม Attachment หรืออุปกรณ์แต่งปืนของตัวเอง ในขณะที่บางอุปกรณ์ สามารถนำไปใช้กับอาวุธอื่นร่วมกันได้ แม้ว่าจะมีอาวุธบางอย่างที่ยังคงมีแบบเดียว เช่น RPG-7, Lockwood MK2 แต่ส่วนมากแล้ว อาวุธภายในเกมนี้จะมีรูปแบบที่ต่างกัน 3-5 แบบขึ้นไป
สำหรับอาวุธพื้นฐานจะปลดล็อคจากเลเวลของเรา หรือ Military Rank (เลเวล 1-55) อาวุธแรกที่ปลดล็อคมาจะเป็นอาวุธพื้นฐาน ที่เหลือผู้เล่นก็ต้องไปเล่นเพื่อปลดล็อค Receiver หรือประเภทปืน และเมื่อเลเวลปืนเพิ่มขึ้น เราก็จะปลดล็อคของแต่งปืนและประเภท Receiver ด้วย โดยในภาคนี้การเปลี่ยน Receiver ปืน จะทำให้ประเภทปืนเปลี่ยนไป และถือว่าเป็นอาวุธใหม่เลย แต่มันจะยังอยู่ใน Platform เดียวกัน
ยกตัวอย่างเช่นปืน M4 ที่เมื่อเก็บเลเวลจนถึงระดับที่กำหนด ก็จะปลดล็อค FTAC Recon, 556 Icarus เพิ่ม และเมื่อนำเอา FTAC Recon และ 556 Icarus ไปเล่นเก็บเลเวล ก็จะปลดล็อคเป็น M16, FSS Hurricane เพิ่มอีกด้วย แต่มันจะยังอยู่ในหมวดของปืน M4 นั่นเอง
ในการเลเวลอัปแพลตฟอร์มอาวุธ จะต้องปลดล็อค 2 อย่าง อย่างแรกคือแพลตฟอร์มอาวุธเฉพาะ หรือของแต่งปืนทั่วไป พวก Barrels, Stocks, Rear Grips, Magazines หรือแม้แต่ตัว Receiver เอง สำหรับของแต่งปืนเหล่านี้จะใ้ชงานได้ในหมวดหมู๋ปืนแพลตฟอร์มเดียวกัน และอีกอย่างหนึ่งคือ ของที่สามารถใช้รวมกันได้ทั้งหมด ซึ่งส่วนมากจะเป็นลำกล้อง ประเภทกระสุน Underbarrel และ Foregrips กับ Muzzles ของเหล่านี้ เมื่อปลดล็อคแล้วสามารถนำไปใช้ร่วมกันกับปืนกระบอกอื่นได้ แต่ปืนกระบอกนั้น ๆ ต้องรองรับด้วย เช่น หากคุณใช้ M4 ไปเก็บเลเวลจนปลดล็อคลำกล้อง SZ Reflex Optic มาแล้ว ปืนไหนก็ตามที่สามารถติดตั้งลำกล้องนี้ได้ ก็จะใช้ได้เลย ไม่ต้องไปเล่นปืนนั้นเพื่อเก็บใหม่
ในภาคนี้ยังมีระบบ Weapon Vault ที่ทำหน้าที่คล้าย ๆ กับ Blueprint ที่จะเป็น Ultimate Weapon หรืออาวุธที่ปลดล็อคทุกอย่างมาให้พร้อมใช้งานแล้ว และยังเป็ฯการปลดล็อคอาวุธใน Platform นั้น ๆ มาให้ด้วยทั้งหมดโดยที่เราไม่ต้องไปเล่นเก็บเอง ตอนนี้ภายในเกมมี Weapon Vault เพียงชนิดเดียวคือ M4 Weapon Vault ที่ได้จากการซื้อตัวเกม Vault Edition และคาดว่าในอนาคตจะมี Weapon Vault แบบนี้เข้ามาอีก แต่ระบบ Blueprint เองก็ยังคงอยู่ด้วย แต่ Weapon Vault นั้นถูกออกแบบมาสำหรับคนที่ชอบอวดโดยเฉพาะ เพราะมีการออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกที่เหมาะสมและพิถีพิถันกว่า สำหรับคนที่ไม่ชอบการเปลี่ยนโมเดลปืน แต่อยากเล่นปืนที่ต้องการนั่นเอง
นอกเหนือไปจากระบบเหล่านี้แล้ว ภาคนี้ยังเพิ่มระบบจูนอาวุธ หรือ Tuning System เพิ่มเข้ามา ซึ่งทำให้เราสามารถจูนอุปกรณ์ต่าง ๆ เพิ่มขึ้นได้อีก ถือเป็นอีกระบบใหม่ของภาคนี้ โดยการจูนอุปกรณ์จำเป็นจะต้องเก็บเลเวลปืนนั้น ๆ ให้ตันเสียก่อน
กล่าวโดยรวมแล้ว ใน Call of Duty: Modern Warfare II เป็นการปรับปรุงระบบ Gunsmith ให้ใช้เวลาในการเล่นเก็บเลเวลปืนน้อยลง แต่จำนวนปืนที่สามารถเก็บเลเวลเพื่้อปลดล็อคได้นั้นก็ถือว่าเยอะมาก ๆ และเป็นเหมือนกับ Call of Duty ทุกภาคที่คอนเทนต์ Multiplayer ของเกมนั้น สามารถเล่นได้ยาว ๆ จนกว่าภาคใหม่จะมาถึงอย่างแน่นอน