CO-OP เป็นหนึ่งในประเภทเกม Multiplayer ที่ได้รับนิยมตลอดกาล ด้วยลักษณะเกมการเล่นเกมที่ต้องร่วมมือ วางแผน และติดต่อสื่อสารกับเพื่อนซึ่งกันและกันเพื่อฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ไปให้ได้ แต่เกมเมอร์หลายคนอาจจะสังเกตมาสักพักแล้วว่าเกม CO-OP ส่วนใหญ่มักจะรอบรับผู้เล่นสูงสุดเพียงแค่ 4 คนอยู่เสมอ แล้วมีสาเหตุอะไรนั้น มาพบคำตอบกับบทความนี้ได้เลย
Nintendo 64 สร้างมาตรฐานใหม่ ด้วยระบบ Split Screen แบบ 4 คน
ย้อนกลับไปสมัยเครื่องเกมคอนโซล Nintendo 64 ของปี 1996 เครื่องเกมดังกล่าวมีคุณสมบัติสามารถเชื่อมต่อจอยคอนโทรลเลอร์ได้ 4 Slot รวมถึงเกม Nintendo ส่วนใหญ่มีระบบ Split Screen แบ่งหน้าจอเล่นเกมพร้อมกันได้ 4 คน ไม่ว่าเป็นเกม Mario Kart 64, GoldenEyes 64 และอีกหลายเกมสามารถเล่นเกม Local Multiplayer พร้อมกัน 4 คน
การถือกำเนิดของ Nintendo 64 และมีเกม Split Screen 4 คนเพิ่มขึ้น ทำให้ทีมพัฒนาเกมหลายแห่งเริ่มสร้างเกมโดยมาพร้อมกับโหมด 2-4 Players ซึ่งช่วงเวลานั้น อินเทอร์เน็ตยังไม่สามารถเข้าถึงได้ทุกคน ทำให้โหมดดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างสูงมาก ถ้าหากเกมเมอร์เติบโตในยุคปี 90’s จะต้องมีครั้งหนึ่งบ้างแหละ ที่คุณชักชวนเพื่อน ๆ มาเล่นเกม 4 คนที่บ้านของคุณ
ระบบ Split Screen 2-4 คน ได้ดำรงอยู่คู่กับเกมเมอร์มานานเกือบหนึ่งทศวรรษ จึงทำให้ผู้เล่น 4 คนกลายเป็นมาตรฐานสำหรับเกม CO-OP ไปโดยปริยาย แม้ช่วงกลางปี 00’s เป็นสมัยที่เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเริ่มสามารถเข้าถึงเกมเมอร์ทุกคน รวมถึงเริ่มเข้าสู่ยุครุ่งเรืองของโหมด Multiplayer โดย Split Screen มีความนิยมลดลง แต่ดูเหมือนว่าการสร้างเกม CO-OP โดยรองรับผู้เล่นสูงสุด 4 คนจะยังคงเป็นมาตรฐานจนถึงทุกวันนี้
4 คน สามารถรักษาความบาลานซ์ได้ดีที่สุด
โหมด CO-OP แต่ละเกมจะมี Dynamic Difficulty หรือระบบปรับความยากแบบเรียลไทม์ ซึ่งระบบดังกล่าวมีหน้าที่ช่วยปรับความสมดุลของเกมให้มีความยากท้าทายแบบ “แฟร์ ๆ” กับผู้เล่นทุกคน ไม่ว่าจะเล่นเกมแบบ Solo ลุยเดี่ยว หรือเล่นกับเพื่อนครบ 4 คนก็ตาม
ซึ่งแน่นอนว่าการเล่นเกม CO-OP แบบ 4 คน นอกจากเป็นการมอบประสบการณ์การเล่น CO-OP ได้ดีที่สุดแล้ว ทีมพัฒนาเกมหลายแห่งตัดสินใจออกแบบโหมดให้รองรับผู้เล่นสูงสุด 4 คน เพราะต้องการรักษาบาลานซ์ของเกมการเล่นไว้
ก็จริงอยู่ที่ทีมพัฒนาเกมสามารถสร้างโหมด CO-OP ให้รองรับผู้เล่นมากกว่า 4 คนขึ้นไป แต่การพัฒนาเกมให้รองรับผู้เล่นมากกว่า 4 คนอย่างไรให้สนุกสนาน ท้าทาย และมีความแฟร์ต่อเกมเมอร์ทุกคนนั้น ถือเป็นโจทย์ที่ทีมงานตอบค่อนข้างยากพอสมควร เพราะโหมดเกม CO-OP ส่วนใหญ่จะเน้นระบบเกมเพลย์เน้นวางแผน และการติดต่อสื่อสารกับเพื่อน ๆ เป็นหลัก นั้นหมายความว่ายิ่งมีผู้เล่นเยอะเท่าไหร่ ตัวเกมต้องมีโครงสร้างที่ซับซ้อน และมีการคิดไตร่ตรองเยอะขึ้นเท่านั้น
ยกตัวอย่างเช่น สร้างบอสไฟท์อย่างไรไม่ให้ Bullet Sponge, ต้องใส่ปริมาณจำนวนศัตรูเยอะแค่ไหน จึงไม่ให้เกมการเล่นง่ายจนเกินไป, ถ้าหากเพิ่มเพลเยอร์อีก 1-2 คน ต้องปรับบาลานซ์อย่างไรบ้าง หรือออกแบบด่านอย่างไร ให้ผู้เล่นทุกคนมีหน้าที่บทบาทชัดเจน เป็นต้น
หรือหมายความว่าการสร้างเกม CO-OP ให้รองรับผู้เล่นเยอะ โอกาสสูญเสียบาลานซ์ของเกมเพลย์ก็ง่ายขึ้นเช่นกัน ทีมพัฒนาเกมจึงยังคงสร้างโหมด CO-OP ให้รองรับผู้เล่น 4 คนต่อไป เพราะถือเป็นจำนวนผู้เล่นที่สมเหตุสมผล รวมถึงควบคุมความบาลานซ์ของเกมเพลย์ได้ง่าย
ยิ่งคนเยอะ Performance ยิ่งไม่เป็นใจ
ต่อเนื่องจากหัวข้อที่กล่าวไว้ด้านบน อีกหนึ่งสาเหตุหลักที่ทีมพัฒนาออกแบบเกม CO-OP ให้มีผู้เล่นสูงสุด 4 คน เพราะมีเรื่อง Performance เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
เกมเมอร์หลายคนอาจนึกในใจอยู่แล้วว่าหากเกม CO-OP สามารถรองรับผู้เล่นมากกว่า 4 คน สิ่งแรกที่เกมต้องปรับบาลานซ์ใหม่ คือ เพิ่มจำนวนการเกิดของศัตรูมากขึ้น แต่เนื่องจาก PC และเครื่องเกมคอนโซลแต่ละเครื่องมีประสิทธิภาพความทรงพลังแตกต่างกัน หรือรวมถึงเทคโนโลยียังมีข้อจำกัดบางอย่าง หรือแม้ตอนนี้เครื่องมือการสร้างเกมจะก้าวกระโดดไปไกลมากจากอดีต ก็ยังคงเป็นเรื่องท้าทายอย่างมากสำหรับทีมพัฒนาเกม CO-OP ที่ต้องคิดว่าทำอย่างไรให้เกมมีพลัง Performance ในระดับเพอร์เฟค เพราะจำนวนศัตรูที่เยอะขึ้น ก็เท่ากับว่าประสิทธิภาพของเครื่องเกมต้องใช้มากขึ้นตามมา
อย่างไรก็ตาม เกม Serious Sam 3: BFE ของปี 2011 พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการออกแบบโหมด CO-OP ให้รองรับผู้เล่นมากกว่า 4 คนก็ทำให้เกมสนุกสนานได้ เพราะเกมดังกล่าวสามารถรองรับผู้เล่นสูงสุด 16 คน รวมถึงสามารถงัดประสิทธิภาพ Performance อย่างเต็มที่ ด้วยการแสดงผลจำนวนศัตรูบนหน้าจอเป็นจำนวนมาก แม้จะส่งผลลัพธ์ทำให้เกมมีปัญหาด้านเฟรมเรตสะดุดหรือตกจนถึง 60FPS ตามมาก็ตาม
ถึงอย่างนั้น เนื่องจากปัจจุบัน มาตรฐานการสร้างเกมที่เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ทีมพัฒนาต้องเอาใจใส่ในองค์ประกอบเกมทุกด้านตั้งแต่ระบบเกมเพลย์, ความใส่ใจในรายละเอียดของฉาก, เนื้อเรื่อง, ภาพกราฟิก, ปริมาณคอนเทนต์สมกับราคา, แอนิเมชันการเคลื่อนไหว และรวมถึงประสิทธิภาพการรันเกม ซึ่งเกือบทุกองค์ประกอบ (ยกเว้นเนื้อเรื่องกับปริมาณคอนเทนต์) ได้ส่งผลต่อ Performance ทั้งสิ้น ทำให้ไอเดียการสร้างเกม CO-OP มากกว่า 4 คน เป็นสิ่งที่ทำยากขึ้น เนื่องจากมีข้อจำกัดของพลังฮาร์ดแวร์
แต่ไม่แน่ว่าหลังจากการวางจำหน่ายเครื่องเกมคอนโซลยุคหน้าอย่าง PlayStation 5 และ Xbox Series X/S ซึ่งทั้งสองเครื่องมีการผลักดันเทคโนโลยี SSD ทำให้เกมสามารถโหลดฉากอย่างรวดเร็ว ก็อาจจะเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ส่งผลลัพธ์ทำให้เกมแนว CO-OP สามารถเพิ่มจำนวนการเกิดศัตรูบนหน้าจอ รวมถึงปรับปรุง Performance ดีขึ้นไม่มากก็น้อย