เกมเมอร์จำ PS Vita ได้ไหม? ทำไมงานอีเว้นท์ PSX 2018 ถึงไม่มีโชว์? ตอนนี้หายไปไหนแล้ว? ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่เกมเมอร์เราจะลืมเลือนเจ้าเครื่องเกมนี้ไปแล้ว เพราะว่าทาง Sony พยายามขุดหลุม PS Vita แบบเงียบ ๆ

นี่คือบทความ “เปิดตำนาน PS Vita เครื่องพกพาที่ Sony (ไม่) เคยต้องการ” เรื่องราวของ Sony ที่พยายามที่จะสานต่อตำนานจากเครื่องเล่นเกม PSP ที่โด่งดังแต่มันไม่ประสบความสำเร็จที่ยังห่างไกลจากคำว่าตำนานและถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา

PS Vita กำเนิดอย่างไร ?

หลังจากที่ Sony ได้ทำยอดจำหน่ายเครื่องเกมพกพา PlayStation Portable (PSP) ได้ถึง 76.3 ล้านเครื่องทั่วโลก รวมไปถึงนักวิเคราะห์หลายคนได้ลงความเห็นว่า PSP เป็นเครื่องเกมพกพาที่ทรงพลังที่สุด เทียบเท่าคู่แข่งที่สูสีอย่าง Nintendo DS ในช่วงปี 2004 หลังจากที่ Nintendo ได้ครองแชมป์เจ้าแห่งเครื่องเกมพกพามาโดยตลอดยังต้องหนาวสั่น

ถึงแม้ว่ายอดขาย PSP ทุกรุ่นจะยังห่างไกลจากคำว่า “ชัยชนะ” Nintendo DS ทุกรุ่น แต่เครื่องเกม PSP ได้จัดว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก ผู้เล่นจะพกเครื่องเล่นเกมให้เห็นตามสวนสาธารณะจะมีเพียงแค่ Nindendo DS กับ PSP เท่านั้น

ต่อมา ในปี 2011ทาง Sony ได้สืบสานตำนาน PSP ด้วยการผลิตเครื่องเล่นเกมพกพาในรูปแบบเจเนอเรชั่นใหม่ที่โปรโมทไว้ว่า “เครื่องคอนโซลบ้านที่พกพาได้ทุกที่” หรือนั้นก็คือ PlayStation Vita หรือ PS Vita นั้นเอง ด้วยลักษณะเครื่องยังคงน่าดึงดูดคล้าย PSP แต่เพิ่มฟีเจอร์มากมายให้ล้ำสมัยไปตามกาลเวลา พร้อมที่จะซัดกับคู่แข่งกับ Nintendo (เครื่อง Nintendo 3DS) อีกครั้ง เพื่อเอาตำแหน่งสุดยอดเครื่องเกมพกพาให้จงได้ !

ดื่มวีต้าแล้วไปนอนซะ !

แต่ผลลัพธ์ตาลปัตร เครื่อง Nintendo 3DS สามารถทำยอดขายประสบความสำเร็จด้วยยอดขาย 72.43 ล้านเครื่อง แต่ไม่ใช่สำหรับ PS Vita ที่ยอดขายตกต่ำตามกาลเวลา

PSVita สามารถขายได้เพียงแค่ 16.03 ล้านเครื่องเท่านั้นนับจากวันที่เปิดตัวมาในปี 2011 รวมไปถึง Sony ได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์ไม่ดีเท่าไหร่นักจากหมู่เกมเมอร์ ในขณะที่ฝั่ง Nintendo ยังคงรู้สึกแฮปปี้และรักษาฐานทั้งลูกค้า ทีมผู้พัฒนาหรือแม้แต่บริษัทเอง ถือว่าเป็นการปล่อยหมัดหนักใส่ Sony อย่างจัง ๆ เข้าหน้า

เปรียบเทียบยอดขายระหว่าง Nintendo 3DS กับ PS Vita ทั้งโซนยุโรป และญี่ปุ่น *ภาพอ้างอิงจากเว็บไซต์ Nintendo

ทำไม PS Vita ถึงเฟลในยอดขาย ?

ทั้ง ๆ ที่ประสิทธิภาพของของเครื่อง PS Vita มีสเปกเครื่องที่น่าสนใจกับการออกแบบอย่างพิถีพิธันสวยงาม แต่ทำไมถึงเฟล? ทำไม Sony ได้พยายามที่ฝังกลบให้กลืนหายไปตามกาลเวลา เพื่อให้เกมเมอร์อย่างเราไม่สามารถรื้อฟื้นความอัปยศของเครื่องเกมชนิดนี้? ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดเป็นเพราะ “การตลาดหน้าเลือดของ Sony”

เครื่องเกม PS Vita ไม่ได้แสดงถึงความล้มเหลวของยอดขายเครื่องเกมนี้อย่างเดียว แต่เป็นการแสดงถึงความหลงผิดของ Sony ที่หน้าเงินมากเกินไปจนทำให้บริษัทมีภาพลักษณ์แย่ในหมู่เกมเมอร์ช่วงหนึ่งเลยทีเดียว

ว่าแต่เพราะเหตุผลอะไรบ้างละ ? นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้เครื่อง PS Vita ล้มเหลวไม่เป็นท่า ในขณะที่ Nintendo 3DS ได้อยู่ต่อไป และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยเครื่องเล่นเกมไฮบริดคอนโซลในชื่อเครื่อง Nintendo Switch

บังคับใช้เมมโมรี่การ์ดของ PS ด้วยราคาสุดเถื่อน

ราคา PS Vita เทียบเท่ากับเครื่องคอนโซลบ้านเครื่องหนึ่ง มันอาจจะมองว่ามีราคาแพงในสายตาเกมเมอร์บางคน แต่เมมโมรี่การ์ดของ PS Vita ต่างหากที่เป็นตัวสร้างประเด็นเดือดในครั้งนี้

เป็นหนึ่งในปัญหาหลักของ PS Vita ที่ได้โดนวิพากวิจารณ์เป็นอย่างหนักตั้งแต่วันเปิดตัวครั้งแรก เพราะว่าตัวเครื่องเกมพกพาได้ บังคับให้ใช้เมมโมรี่การ์ดของแบรนด์ PlayStation เท่านั้น ซึ่งอาจจะเรื่องไม่ใช่ปัญหาอะไรมากนัก เพราะว่าสามารถหาซื้อได้ตามศูนย์ PlayStation ทั่วไป แต่ด้วยราคาเมมโมรี่การ์ดของ PS มีราคาแพงกว่า SD Card ทั่วไปถึงเกือบ 10 เท่าตัว ทำให้เกมเมอร์หลายคนไม่พอใจเป็นอย่างมาก

คุณ Muneki Shimada ผู้บริหาร Sony ได้อ้างว่า เหตุผลที่บังคับใช้เมมโมรี่การ์ดของ PS เพราะว่าคุณภาพของ SD Card ค่ายอื่นไม่สมประกอบที่จะมีคุณภาพแย่กับดีปะปนกันไป พร้อมต้องการแก้ปัญหาเกมละเมิดลิขสิทธิ์และป้องกันเฟิร์มแวร์ดัดแปลงเหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับ PSP

ทาง Sony จึงได้ตัดสินใจให้ใช้เมมโมรี่การ์ดเฉพาะของ PlayStation เพราะต้องการป้องกีนแก้ปัญหาจุดนี้ ต่อมาแม้ว่า  Sony จะปล่อยขายตัว Adapter แยกออกมาเพื่อให้สามารถใช้งานกับ SD Card ทั่วไปแต่การประมวลผลก็ไม่เร็วเทียบเท่ากับเมมโมรี่การ์ดของ PS Vita อยู่ดี

แต่คำพูดที่ไม่น่าให้อภัยที่สุด อีกสาเหตุหนึ่งที่มีสินค้าแบรนด์ PS โดยเฉพาะ เพราะเป็น “วิถี Sony” เหมือนเป็นการแอบตอกย้ำว่า “ต่อให้แพงแค่ไหน คุณก็ยอมจ่ายอยู่ดี” ซึ่งก็เป็นการพิสูจน์แล้วว่าทฤษฎีนี้มันใช้ไม่ได้ผลเสมอไป

เกม AAA ทยอยแอบยกเลิกการพัฒนาเกมสำหรับ PS Vita เหลือที่ยืนให้กับเกมอินดี้

“เกมคอนโซลบ้านที่พกพาได้ทุกที่” เป็นสโลแกนที่ฟังดูสวยหรู และมันก็สามารถทำได้จริง ๆ เพราะเกมระดับ AAA อย่าง Uncharted: Golden Abyss ได้พิสูจน์ออกมาแล้วด้วยพลังกราฟิกที่สวยงามไม่ธรรมดาสำหรับเครื่องเกมพกพา (เกมเพลย์ก็สนุกใช้ได้ด้วย) แต่ก็มีเพียงแค่เกมเดียวเท่านั้นแหละ

ได้ช่วงวันปล่อยตัวเครื่องเกม PS Vita – เกมระดับ AAA กับ Exclusive กลับไม่น่าดูดดึงที่เท่าควร และเกม AAA ส่วนใหญ่เหมือนโดยยัดเยียดให้ลง PS Vita กับ Sony เร่งให้ปล่อยเกมก่อนวันเปิดตัว ไม่ว่าจะเป็นเกม Call of Duty: Black Ops Declassified กับ Resistance: Burning Skies ที่เป็นเกมแย่ที่สุดของซีรี่ส์ หรือกระทั่ง FIFA Soccer 13 ที่พอร์ทออกมาแย่มากเกินทน

แย่ยิ่งกว่านั้น เกมระดับ AAA หลายเกมเริ่มทยอยแอบยกเลิกพัฒนาสำหรับ PS Vita แบบเงียบ ๆ ไม่ว่าจะเป็น BioShock Vita หรือ Resident Evil ภาคใหม่สำหรับเครื่องเกมตัวนี้ จนทำร้านค้า PlayStation Store เหลือแต่รายชื่อเกมอินดี้ต่าง ๆ ไม่ว่าประเภทเกมจีบสาว, JRPG, Platformers ที่เป็นมิตรต่อเครื่อง PS Vita และไม่มีเกมคุณภาพ AAA เกมไหนลงให้กับเครื่องเกมคอนโซลอีกต่อไป

เกม PS Vita มีเกมที่ลงให้กับแพลตฟอร์มนี้มีเพียงแค่ 1550 เกมเท่านั้น นับตั้งแต่เปิดตัวเครื่องในปี 2011

Sony พยายามขุดหลุมเกมนี้แบบเงียบ ๆ และเกมเมอร์ไม่แยแส

เวลาผ่านไปจนถึงปี 2018 เกมเมอร์แทบจะไม่ได้สังเกตเลยว่า PS Vita มีเกมอะไรออกใหม่หรือมีอัปเดตฟังก์ชั่นอะไรเพิ่มเติม จนกระทั่งได้มีข่าวประกาศออกมาว่า PS Vita ยกเลิกผลิตเกมรูปแบบ Physical ตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นไป ได้สร้างความตะลึงให้แก่เกมเมอร์ และดูเหมือนว่าผู้เล่นจะไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่

การสัมภาษณ์ของเว็บไซต์ Polygon ได้สอบถาม Layden ประธาน Sony Interactive Entertainment ในโซนยุโรป และ Jim Ryan ประธานฝ่ายการขายและการตลาดทั่วโลกของ SIE ได้พูดถึงความนิยมของเกมพกพาในโซนยุโรป พวกเขาได้กล่าวว่าเกมเมอร์ไม่ต้องการ PS Vita อีกต่อไป ยกเว้นแต่โซนเอเชียและญี่ปุ่นที่ยังคงได้รับความนิยม

Polygon: เมื่อคุณได้เห็น Nintendo Switch ซึ่งผู้เล่นให้สนใจกับเครื่องเล่นเกมตัวนี้เป็นอย่างมาก คุณรู้สึกคิดว่า “ไม่แน่ พวกเราควรจะผลิต PlayStation Vita 2 ?”

Ryan: ผมได้ทำแบบสอบถามแล้วในยุโรปแล้ว และผู้คนไม่ต้องการสิ่งนี้

Polygon: จริงเหรอครับ ?

Ryan: ใช่ครับ

Layden: ไม่ว่าจะเหตุผลใดก็ตาม มีคนอีกมากมายและมีเหตุผลอีกร้อยแปดที่พวกเราเลือกที่จะดื่มเบียร์ ตัวเครื่อง Vita ไม่เป็นที่รู้จักหรือเป็นกระแสโด่งดังในสายตาผู้ชมเท่าที่ควร แม้แต่ทีมผู้พัฒนาไม่ได้ให้ความสำคัญกับ PS Vita เลย ในเมื่อไม่มีผู้ใครสนใจ กระแสตอบรับก็ไม่ดีก็ยังคงวนเวียนอยู่อย่างนั้น

Layden: คุณยังสามารถเห็นเครื่องเล่นเกม Vita และยังคงขายดีอยู่ในประเทศญี่ปุ่นกับทวีปเอเชีย ซึ่งทีมผู้พัฒนาก็ยังคงสร้างเกมให้กับแพลตฟอร์มนี้กันอย่างอย่างต่อเนื่อง

ก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ Sony ได้พยายามที่จะเขี่ยทิ้ง PS Vita เพราะเชื่อว่าเป็นตราบาปของบริษัทกับเป็นเครื่องเกมที่ไม่มีใครให้ความสนใจ มันอาจจะไม่ใช่เครื่องเกมที่แย่สุดตลอดกาล แต่เพราะการตลาดที่หน้าเลือดของ Sony จึงทำให้เครื่องเกมนี้ได้ตายจากไปเองจากสารระบบ

ความไว้เนื้อเชื่อใจของ Sony ได้เริ่ม Comeback ในภายหลังจากการประกาศเครื่องเกม PlayStation 4 ด้วยราคาที่สมเหตุสมผล พร้อมกับงัดเกม Exclusive ที่น่าสนใจออกมามากมาย ก็หวังว่าทาง Sony จะนำข้อผิดพลาดจากเครื่องเล่นเกม PS Vita มาไว้เป็นบทเรียนเตือนใจเพื่อใช้พัฒนาเครื่องเล่นเกมในรุ่นต่อไป