กลุ่มนักวิเคราะห์ NPD Group เผยว่าเกมเมอร์สหรัฐฯ ใช้จ่ายเงินกับวิดีโอเกมไปแล้ว 27.9 พันล้านเหรียญฯ ภายในปี 2019
เจ้าสำนัก Games Industry อ้างอิงจาก NPD Group หรือบริษัทวิจัยทางด้านการตลาดและเก็บข้อมูลสถิติเกี่ยวกับยอดขายสินค้าในสหรัฐอเมริกา รายงานว่าประชากรสหรัฐฯ ใช้จ่ายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับวิดีโอเกมภายในปี 2019 ซึ่งประกอบด้วยแผ่นเกม, ฮาร์ดแวร์เกม, ระบบบริการรายเดือน, Microtransaction, DLC และอื่น ๆ ไปแล้วถึง 27.9 พันล้านเหรียญฯ ซึ่งเป็นตัวเลขเพิ่มขึ้นจากปี 2018 ราวประมาณ 1% (ยังไม่เปิดเผยตัวเลขชัดเจน) โดยสถิติดังกล่าว เริ่มนับสถิติตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 1 กันยายน 2019
NPD Group ชี้ว่าเกมเมอร์สหรัฐฯ ส่วนใหญ่ ใช้จ่ายเงินผ่านเกมมือถือ, ระบบสมาชิกรายเดือน และซื้อคอนเทนต์ดิจิทัลสำหรับเครื่องคอนโซลเพิ่มขึ้นเป็นร้อยล่ะสองเปอร์เซ็นต์ โดยมีช่วงไตรมาสที่ 3 (วันที่ 1 กรกฎาคม ถึง 30 กันยายน) คือช่วงเดือนที่เกมเมอร์จ่ายเงินให้เกมสูงถึง 9.18 พันล้านเหรียญฯ ซึ่งเพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบเป็นรายปี
มาทางด้านเกมที่ผู้เล่นใช้จ่ายเงินมากที่สุดสำหรับช่วงเดือนไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา ก็มีเกม Borderlands 3, Candy Crush Saga, Fortnite, Grand Theft Auto V, Madden NFL 20, Minecraft, NBA 2K20 และ Pokémon Go ซึ่งแหล่งข่าวยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขที่ชัดเจนเช่นเคย
นอกจากนี้ เกมเมอร์สหรัฐฯ ใช้จ่ายเงินกับคอนเทนต์วิดีโอเกมทุกประเภทของปี 2019 มากถึง 24.7 พันล้านเหรียญฯ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2018 ราวประมาณ 3% แต่อย่างไรก็ตาม เกมเมอร์สหรัฐฯ ใช้จ่ายกับฮาร์ดแวร์ประเภทเกมลดลงถึง 23 % หากเทียบจากปี 2018 ที่เคยทำสถิติรายจ่ายไว้ที่ 1.9 พันล้านเหรียญฯ
แน่นอนว่าสถิติดังกล่าว ยังไม่นับรวมช่วงเวลาของไตรมาสที่ 4 จึงคาดว่าจะมีการสรุปยอดใช้จ่ายวิดีโอเกมโดยรวมอีกครั้งในวันที่ 31 ธันวาคมนี้