MIDiA Research ได้เผยผลสำรวจพฤติกรรม และการเลือกเล่นเกมของคนแต่ช่วงวัย พบว่าเกมเมอร์จำนวน 53% จากที่ทำแบบสอบถามประมาณ 9,000 คน ชื่นชอบการเล่นเกม Singleplayer (เกมเล่นคนเดียว เกมออฟไลน์) และเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ที่จะหยิบมาเล่น
อย่างไรก็ตาม เกมเมอร์ช่วงวัย 16-19 ปี และ 20-24 ปี จะเลือกเล่นเกมออนไลน์ที่เน้นการแข่งขันกับคนอื่น เช่น Fortnite และ Call of Duty มากกว่าเกม Singleplayer ในขณะที่เกมเมอร์ช่วงวัย 25-34 ปี จะชอบเล่นเกม Multiplayer กับ Singleplayer เท่ากัน แต่เกมเมอร์ช่วงวัย 35-44 ปี, 45-54 ปี และ 55 ปีขึ้นไป จะชอบเล่นเกม Singleplayer มากกว่า
นักวิจัยระบุว่าคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับการเล่นทางสังคม (Social Play) จึงทำให้วัยเด็กโต วัยรุ่น และวัยเพิ่งเข้าสู่ผู้ใหญ่จะชอบการเล่นเกม Multiplayer แต่เมื่อเข้าสู่วัยทำงาน (ประมาณช่วงกลางอายุ 20 ปี) เกมเมอร์จะเริ่มไม่ว่างกับการเล่นเกม ส่งผลให้มีโอกาสเล่นเกมกับเพื่อนน้อยลง และไล่ตามเก็บคอนเทนต์ใหม่ในเกม Live-Service ยากขึ้น
จนสุดท้าย ทำให้คนอายุ 25 ปีขึ้นไป จึงหันมาเล่นเกม Singleplayer เพื่อความผ่อนคลาย และสามารถกลับมาเล่นต่อไหนก็ได้
สุดท้าย นักวิจัยเชื่อว่าเกม Singleplayer AAA และเกม Live Service จะมีความเสี่ยงเท่ากัน เพราะแม้เกม Live Service ใช้ทุนสร้างต่ำกว่าเกม Singleplayer AAA แต่เนื่องจากเกมประเภทนั้นต้องคอยสร้างคอนเทนต์ ฟีเจอร์ และการปรับปรุงใหม่ในทุกอัปเดต ค่าใช้จ่ายจึงจะมีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่ Singleplayer AAA จะมีการเดิมพันที่ปลอดภัยกว่า
