กระแสเกม Overkill’s The Walking Dead ยังกลิ่นโฉยดราม่าอย่างต่อเนื่อง เพราะหลังจากตัวเกมได้ออกวางจำหน่าย ทำให้ข่าวฉาวเกี่ยวกับ Starbreeze Studios ออกมามากมาย ไม่ว่าจะ ประสบปัญหาภายในจากการเด้ง CEO คนเก่า หรือ มีผู้ร้ายหลงเข้ามาทำงานในบริษัท
และล่าสุด ได้มีการรายงานข่าวเกี่ยวกับเกม Overkill’s The Walking Dead ว่าทำไมถึงผลลัพธ์ตัวเกมถึงออกมาน่าผิดหวังขนาดนี้ ซึ่งก็ต้องบอกว่าไม่ใช่ผู้เล่นกลุ่มเดียวที่รู้สึกแบบนั้น แต่รวมไปถึงผู้พัฒนาเกมเองก็มีความเห็นแบบเดียวกัน
อ้างอิงจาก PCGamer – Eurogamer ได้ขอสัมภาษณ์กับพนักงานคนหนึ่งที่พัฒนาเกม Overkill’s The Walking Dead โดยแหล่งข่าวกล่าวว่าเหล่าทีมงานได้รู้ตัวอยู่แล้วว่าตัวเกมยังคงมีปัญหาต่าง ๆ มากมายก่อนที่จะออกวางจำหน่าย แต่ทีมงานไม่มีมากพอที่จะแก้ไขตัวเกมให้เนี้ยบสมบูรณ์ และพร้อมเตรียมรับแรงกระแทกจากผู้บริโภค
ทุกคนรู้ดีว่าเกมนี้จะต้องโดนสับเละแน่ ๆ ไม่ว่าจะพยายามขัดเกลามาจากขยะมากแค่ไหนมันก็ยังเป็นขยะอยู่ดี มันไม่สามารถพัฒนาเกมให้ดีกว่านี้อีกแล้ว
แหล่งข่าวกล่าวว่า เดิมทีเกม Overkill’s The Walking Dead มีแผนวางจำหน่ายเกมในปี 2016 และใช้เอนจิ้นเกมตัวใหม่ของทีมงาน Starbreeze ที่เรียกว่า Valhalla ในการพัฒนาเกม แต่อย่างไรก็ตาม เอนจิ้นดังกล่าวกลับมีคุณภาพ “ไม่สามารถใช้งานได้” ทำให้ทีมงานใช้เวลาในการสร้างเกมนี้ช้าลงเป็นอย่างมาก จนกระทั่งโละโปรเจกต์แล้วเปลี่ยนมาพัฒนาเกมโดยใช้ Unreal Engine 4 แทน
ถึงอย่างนั้น Starbreeze ยังคงมีแผนพยายามจะวางจำหน่ายเกมให้ทันก่อนที่จะพ้นปี 2018 ทำให้เหล่านักออกแบบเกมโดนบังคับให้พัฒนาเกมใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ต้นโดยมีระยะเวลาเพียง 18 เดือน (1 ปีกับอีก 6 เดือน) และมีเพียงเครื่องมือแค่ 10% เท่านั้นที่ทีมงานคุ้นเคยกับมัน
เกมนี้ (Overkill’s The Walking Dead) เป็นเกม Beta เพราะเรามีเวลาสร้างเกมเพียงแค่หนึ่งปีกับอีกครึ่งเดือนเท่านั้น
แต่เมื่อไม่นานมานี้ อ้างอิงจาก vg247 อดีต Starbeeze CEO คุณ Bo Andersson ที่โดนสั่งไล่ออกหนึ่งเดือนหลังจากผลลัพธ์ยอดขายเกม Overkill’s The Walking Dead ไม่ดี เขาได้เขียนจดหมายอีเมล์ถึง Eurogamer โดยเนื้อหากล่าวว่าสาเหตุที่เกม Overkill’s The Walking Dead ล้มเหลวเป็นความผิดของทีมผู้พัฒนา เพราะไม่เอาใจใส่กับการสร้างเกมมากพอ
“ผมสูญเสียเงินทั้งหมด ครอบครัวหย่าร้างกับผม ผมต้องดูแลลูกพร้อมทำงานหนักมากกว่า 2-3 ปี กับ 100 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ให้กับ Starbreeze เพื่อคุมลูกทีมให้มีกินมีใช้และดูแลคุณภาพเกมให้ดีที่สุด แต่ด้วยคุณภาพของพนักงานที่เอาใจใส่กับตัวเกมน้อยลงในทุก ๆ วัน ทำให้ผลิตภัณฑ์เกมดังกล่าว (Overkill’s The Walking Dead) มีข้อจำกัดมากมาย ในขณะที่ทีมงานมีเวลามากเพียงพอที่จะทำเกมให้มีคุณภาพ”
แน่นอนว่าจดหมายของคุณ Andersson สร้างความไม่พอใจให้แก่พนักงาน Overkill’s เป็นอย่างมาก โดยพนักงานที่ให้สัมภาษณ์กับ Eurogamer โต้กลับว่า “เขาโยนความผิดมาให้พวกเราทุกคนแต่ไม่เคยมองตนเองเลย จดหมายนี้มันไร้สาระมาก”
ตอนนี้ CEO Starbreeze คนใหม่คือคุณ Mikael Nermark มีนโยบายว่าจะปรับปรุงตัวบริษัทเพื่อให้ทีมงานสามารถมุ่งหน้าต่อไปได้ และจะจัดกรอบการงานให้ชัดเจนเพื่อให้ทุกคนสามารถทำงานได้ ซึ่งก็หวังว่า Starbreeze Studios จะฟื้นฟูในเร็ว ๆ นี้ หลังจากเกม PAYDAY 2 ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น