ถึงแม้ระบบ Microtransactions จะยังคงเป็นที่ถกเถียงมานานหลายปีแล้ว แต่กระแสการต่อต้านก็ไม่มีทางหยุดยั้งระบบดังกล่าวได้ เพราะว่าทีมงาน Ubisoft ได้เปิดเผยตัวเลขยอดรายได้ทั้งหมดที่ก็ต้องบอกเลยว่าไปได้อย่างสวยหรู เพราะเนื้อหา DLC และ Microstransactions ที่สามารถทำรายได้ให้แก่บริษัทมากถึง 35%
อ้างอิงจาก PCGameN – ทีมงาน Ubisoft ได้ทำการรวบรวมข้อมูลการเงินทั้งหมดในบริษัท โดยทางทีมงานได้มีรายได้ถึง 745 ล้านยูโรในช่วง 6 เดือนที่แล้วจนถึง ในวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งเกมฟอร์มยักษ์ที่ออกจำหน่ายมีเพียงแค่ The Crew 2 เท่านั้น แต่หากรวมถึงสัปดาห์แรกของยอดขายของเกม Far Cry 5 รายได้ดังกล่าวจะยังคงเพิ่มขึ้น 60% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วซึ่งยอดขายที่เพิ่มขึ้นมาจากการค้าขายผ่านดิจิตอลซะส่วนใหญ่
Ubisoft มีรายได้จากระบบซื้อขายแบบดิจิทัลเพิ่มขึ้นถึง 51.5% จากทั้งหมด 69.6% ของรายได้รวมทั้งหมดนับจากวันที่ 30 กันยายน 2018 โดยแบ่งออกเป็น 256 ล้านยูโรจากยอดขายเกมเต็ม กับ 262 ล้านยูโรมาจาก DLC ทุกประเภทรวมถึงการซื้อขายภายไอเท็มด้วยเงินจริง, ระบบสมาชิกและการโฆษณาที่คิดเป็น 35.1% จาก 51.5%
หมายความว่านับจาก 6 เดือนที่ผ่านมา ทางทีมงาน Ubisoft ได้รับรายได้จากตัว DLC และ Microtransactions เป็นจำนวน 35.1% จากรายได้ของ Ubisoft ทั้งหมด ซึ่งในขณะที่ปีแล้วรายได้จาก DLC ทำสถิติไว้อยู่ที่ 27.9% ซึ่งปีนี้ Ubisoft ทำไรได้มากกว่าเดิมจากการขาย DLC ทุกประเภทนั้นเอง
เป็นการแสดงว่าอุตสาหกรรมเกมที่มีการตลาดแบบ Microtransactions และ DLC ยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่าระบบนี้ที่ผู้เล่นทั้งชอบและเกลียดจะต้องอยู่ไปกับผู้เล่นอีกนานครับ
