หลุดออกมาแล้วสำหรับข้อมูลชุดแรกของเกมโหดโคตร Hardcore ตายแล้วตายอีกของค่าย Namco Bandai ไปดูกันว่าภาคใหม่นี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง
– เนื้อหาหลักจะเกี่ยวกับเหล่าเจ้าแห่งเถ้าถ่าน “Lords of Cinder” โดยผู้เล่นต้องออกเดินทางและพยายามหาทางกำจัดเหล่า “Lords of Cinder” เหล่านี้
– Estus flasks กลับมาอีกครั้ง รวมไปถึง Bonfire
– โล่ ดาบยักษ์ ดาบคู่ และธนูเป็นอาวุธที่ได้รับการยืนยันว่ามีอยู่ในเกม
– คบเพลิงก็ยังมีอยู่อีกเช่นกัน
– ระบบใหม่ Weapon Art โดยนอกจากท่าทางการโจมตีแบบปกติแล้วอาวุธแต่ล่ะชนิดยังสามารถปรับเปลี่ยน “ท่าร่าง” เพื่อเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีออกไปโดยในงานมีการแสดงตัวอย่างเป็นดาบยาวที่มีท่าร่าง “เตรียมพร้อม” ยกดาบขึ้นเหนือหัวและสามารถโจมตีทำลายโล่ป้องกันของศัตรูและดาบยักษ์ซึ่งมีท่ากระโจนพุ่งเข้าโจมตีและท่าหวดศัตรูให้ลอยขึ้นฟ้า
– ตัวเกมปรับปรุงการเคลื่อนไหวให้รวดเร็วมากกว่าภาคเก่าแต่ไม่เร็วเท่าเกมใหม่อย่าง Bloodborne
– ค่าพลัง Agility ถูกเอาออกจากเกม ทีมงานค้นพบว่าการจำกัดการเคลื่อนไหวและการหลบหลีกของผู้เล่นโดยใช้ค่า Stat เป็นเรื่องที่ไม่ “เข้าท่า”
– ธนูได้รับการปรับปรุงให้สามารถใช้งานต่อสู้กับศัตรูได้คล่องตัวมากกว่าเดิมในงานมีการใช้ธนูสั้นยิงโจมตีศัตรูรัวๆอย่างรวดเร็วแสดงให้ดู
– เวทมนต์ไม่ได้ถูกนำมาแสดงแต่ได้รับการยืนยันว่าจะยังมีอยู่ในเกม
– ศัตรูประเภท Knights กลับมาอีกครั้งจาก Dark Souls ภาคแรกและถูกอัพเกรดให้แข็งแกร่งโหดร้ายมากกว่าเดิม
– ทีมงานวางแผนที่จะให้ตัวเกมรองรับการ online แบบผู้เล่น 6 คน แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงในภายหลัง
– งานศิลป์และทิศทางของเกมยังคงอิงจากตัวเกม Dark Souls ทั้งสองภาคเป็นหลักขณะที่ระบบๆต่างจะอิงจากภาค 2 เป็นส่วนใหญ่
– เน้นความรู้สึกในการออกสำรวจมากกว่าเดิม เกมภาคนี้จะมีสภาพแวดล้อมที่น้อยลงกว่าภาคก่อนแต่ฉากในเกมจะมีขนาดที่ใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม
– รายละเอียดของตัวละครและกราฟฟิกถูกปรับปรุงแบบยกเครื่องใหม่
– ท่าถีบศัตรูถูกนำกลับมาอีกครั้ง
– เป้าหมายสูงสุดของทีมงานคือมอบอิสระให้ผู้เล่นได้รู้สึกว่ากำลังเล่นเกม RPG และสามารถสร้างตัวละครที่ตนเองต้องการได้ตามใจ ไม่ว่าจะใช้อาวุธชนิดใดหรือเวทมนต์สายไหน รูปแบบการเล่นทุกอันควรรู้สึกเท่าเทียมกัน
– “คาดเดา” กันว่าเนื้อเรื่องอาจย้อนกลับไปเป็นเหตุการณ์ก่อนตัวเกมในภาคแรก
– ตัวเกมถูกพัฒนามาแล้วนานกว่า 2 ปี โดยใช้ทีมงานแยกจากทีมที่สร้าง Bloodborne
– ใช้ DirectX 11 ในการพัฒนา
– วางจำหน่ายบน PlayStation 4, Windows PC และ Xbox One ต้นปีหน้า