สมาคมเกมหลายแห่งออกมาคัดค้านต่อต้านกันอย่างชัดเจน
หลัง WHO หรือ องค์การอนามัยโลกออกมาระบุขึ้นทะเบียนให้ “อาการติดเกม” กลายเป็นหนึ่งในอาการผิดปกติทางจิตแบบเป็นทางการ ตามที่เรา รายงาน กันไว้ ล่าสุดสมาคมน้อยใหญ่หลายแห่งของวงการเกมได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้แสดงความไม่เห็นด้วยในการขึ้นทะเบียนโรคติดเกม
ย้ำกันตรงนี้ก่อนว่าแม้ทาง WHO จะขึ้นทะเบียนโรคติดเกมใน บัญชีจำแนกโรค ICD-11 แต่ตัวโรคในแบบร่าง ICD-11 จะถูกขึ้นทะเบียนแบบเป็นทางการในช่วงเดือน พฤษภาคม ปี 2019 ดังนั้นตั้งแต่ตอนนี้ไปจนถึงปีหน้า ICD-11 ก็สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ตลอดเวลา
แท้จริงแล้ว WHO เคยออกมาแสดงความจำนงค์ที่จะขึ้นทะเบียนโรคติดเกมตั้งแต่ในช่วงเดือนธันวาคมปลายปีที่ผ่านมาซึ่งในตอนนั้นหลายคนในวงการเกมก็ออกมาแสดงความกังวลกันเอาไว้
ทางสมาคมซอฟแวร์เพื่อความบันเทิงหรือ ESA ได้ออกมาต่อต้านการขึ้นทะเบียนโรคติดเกมมาอย่างต่อเนื่องและการที่ตัวโรคติดเกมถูกขึ้นทะเบียนใน ICD-11 ก็ยิ่งทำให้การโต้ตอบเริ่มขยายวงออกไป
ล่าสุดได้มีแถลงการณ์ร่วมของ ESA, ISEA (สมาคมสื่อบันเทิงของแอฟริกาใต้), ISFE (สหพันธ์สื่อวีดีโอเกมของยุโรป), IGEA (สมาคมเกมและสื่อบันเทิง), K-GAMES (สมาคมอุตสหกรรมเกมของเกาหลี) และ UVB&G (สมาคมเกมของบลาซิล) ออกมาตอบโต้ในประเด็นนี้
วีดีโอเกมบนทุกเครื่อง ทุกแนวเกม ทุกระบบ ถูกเล่นโดยผู้คนทั่วโลกกว่า 2 พันล้านคน คุณค่าด้านการให้ความรู้ ความสนุก และการเยียวยาจิตใจของวีดีโอเกมได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง พวกเราจึงมีความกังวลที่ “โรคติดเกม” ถูกบรรจุไว้ใน ICD-11 ฉบับร่าง ของ WHO แม้จะมีการโต้แย้งจากงานวิจัยและวงการแพทย์หลายอัน และปัจจุบันโรคเกี่ยวกับวีดีโอก็ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดเพียงพอ
เราหวังว่า WHO จะพิจารณาหลักฐานงานวิจัยทั้งหมดใหม่ก่อนตัดสินใจบรรจะโรคติดเกมลงไปใน ICD-11 ฉบับสมบูรณ์ที่จะมีการขึ้นทะเบียนในช่วงปีหน้า
พวกเราเข้าใจว่าอุตสาหกรรมของพวกเราและผู้สนับสนุนของเราจะลุกขึ้นมาต่อต้านการขึ้นทะเบียนโรคจากเกมของ WHO อย่างต่อเนื่อง เราหวังว่า WHO จะหลีกเลี่ยงการการระบุข้อมูลที่ไม่เป็นธรรมซึ่งจะส่งผลต่อระบบสุขภาพของทั่วโลก
ช่วงต้นปีที่ผ่านมามีนักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหลายคนออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยในการขึ้นทะเบียน “โรคติดเกม” ของ WHO ขณะที่หลายคนออกมาตั้งคำถามว่าทำไม อาการติดวีดีโอเกม ถึงถูกจำแนกแยกออกมาแบบเด่นชัด ขณะที่ “อาการเสพติด” โดยทั่วไปสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกกิจกรรม
เรื่องนี้น่าจะต้องติดตามกันอีกยาวเพราะทั้งฝ่าย WHO และฝั่งอุตสาหกรรมเกมคงไม่มีใครยอมใครกันง่ายๆ และกว่าตัว ICD-11 จะถูกกำหนดให้กลายเป็นมาตรฐานใหม่แบบเป็นทางการก็ต้องรอกันถึงกลางปีหน้ากันเลย