Call of Duty: Black Ops 4 ถือว่าเป็นเกมแรกในตระกูล Call of Duty ที่ไม่มีโหมดเนื้อเรื่อง แต่นำเสนอโหมด Black Out ที่เป็นเกม Battle Royale ในแบบฉบับของซีรีส์ แต่อดีตพนักงานของ Treyarch ได้ออกมาเปิดเผยถึงสาเหตุที่หลาย ๆ คนไม่เคยรู้มาก่อน
เรื่องนี้เริ่มมาจากเว็บไซต์ Kotaku ได้เปิดเผยเบื้องหลังการทำงานของเกม Call of Duty : Black Ops 4 ในบทความชื่อ “The Human Cost Of Call of Duty: Black Ops 4” ที่ได้เปิดเผยเบื้องหลังของการสร้างเกมนี้ว่า ทาง Activision ได้เอารัดเอาเปรียบพนักงานอย่างแสนสาหัส
สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือการที่ทาง Activision ได้ย้ายวันวางจำหน่ายเดิมที่กำหนดไว้ เพราะตามธรรมเนียมแล้วเกม Call of Duty จะวางจำหน่ายในพฤศจิกายน แต่เพื่อหนีกระแสของเกม Red Dead Redemption 2 ที่กำลังจะมาในปลายปี ตัวเกมจึงย้ายมาวางจำหน่ายเร็วขึ้นเป็นวันที่ 12 ตุลาคม 2018 แทน
เมื่อระยะเวลาลดลงทางทีมงาน Treyarch จึงเข้าสู่สถานการณ์บีบคั้นทำให้พวกเขาต้องตัดเอาโหมดเนื้อเรื่องรวมถึงโหมดที่ทางทีมงาน Treyarch ต้องการนำเสนออย่าง 2v2 ออกไปและให้ความสำคัญโหมดอื่น ๆ แทน นอกจากนี้พวกเขายังต้องทำงานหนักเพราะต้องทำงานสัปดาห์ละ 64 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ส่งผลให้ทีมงานหลายคนเมื่อเกมวางจำหน่ายก็ลาออกจากบริษัท ที่สำคัญทาง Activision ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนักทั้ง ๆ ที่ภาคนี้สามารถทำยอดขายได้มากกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะเดียวกันก็ปลดพนักงานหลาย ๆ ส่วนออกเพื่อประหยัดงบประมาณของบริษัท
อย่างที่เรารู้ ๆ กันว่าเทรนด์ของวงการเกมค่อนข้างที่จะเปลี่ยนเร็ว โดยเฉพาะในเรื่องของความนิยมที่ใครมาก่อนย่อมได้ก่อนเป็นธรรมดา ซึ่งทาง Activision เองต่างก็เข้าใจในจุดนี้ดีและพยายามที่จะเร่งให้เกมออกมาเร็วที่สุด แต่ในขณะเดียวกันก็ผลักภาระไปให้พนักงานแทนจนเกิดการ Crunch Culture ขึ้นมาในองค์กร
ในปีนี้ทาง Activision ยังคงส่งเกม Call of Duty มาให้เหล่าเกมเมอร์ได้เล่นในชื่อ Call of Duty: Modern Warfare ที่มาพร้อมกับ Engine ใหม่และตัวละครเก่าที่คุ้นเคยอย่าง Cpt. Price ให้เหล่าเกมเมอร์ได้เล่นกันในวันที่ 25 ตุลาคม 2019