Mike Morhaime อดีตบอสใหญ่ของ Blizzard ออกมาเปิดเผยความรู้สึกของตน หลังจากทราบประเด็นที่มีการสืบสวนจนพบว่า Activision Blizzard มีการล่วงละเมิดทางเพศ และมีวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่อยู่จริงภายในบริษัท
Morhaime ร่วมก่อตั้งบริษัทแห่งนี้ขึ้นมาในปี 1991 ในตอนที่สตูดิโอเป็นที่รู้จักในชื่อ Silicon & Synapse ก่อนจะขึ้นมาสู่ตำแหน่งประธานเมื่อปี 1998 และได้เป็นทั้งประธาน/CEO ในปี 2007 ตามลำดับ
ในช่วงที่ Blizzard ยังมี Morhaime อยู่นั้น ก็มีผลงานเลื่องชื่อมากมายไม่ว่าจะเป็น World of Warcraft, Overwatch และ Hearthstone ซึ่งต่อมาในปี 2018 เขาตัดสินใจลาออก และนับเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทีเดียวสำหรับบริษัท
Morhaime พูดถึงสถานการณ์ล่าสุดของบริษัทว่า
“ผมได้อ่านประเด็นของ Activision Blizzard และเรื่องอื่น ๆ อีกมากมายแล้ว ผมรู้สึกอับอาย มันเหมือนทุกอย่างที่เคยยืนหยัดโดนลบล้างไปจนหมด ที่แย่ที่สุดและสำคัญกว่าก็คือมีผู้คนที่ได้รับผลกระทบอยู่จริง ๆ และมีพนักงานหญิงหลายคนต้องเจอกับประสบการณ์อันแสนเลวร้าย”
Morhaime เผยว่าในช่วงที่ทำงานอยู่ Blizzard มา 28 ปี เขามีความพยายามสร้างสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัยและเป็นมิตรกับทุกคน ซึ่งเหตุการณ์ล่วงละเมิดทางเพศและการเลือกปฏิบัตินั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในทุกแวดวงอุตสาหกรรม แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นหน้าที่ของผู้นำที่จะต้องจัดการกับมัน และทำให้เกิดความเท่าเทียมให้ได้มากที่สุด
“ถึงพนักงานหญิงใน Blizzard ทุกคนที่ต้องเจอกับเรื่องนี้, ผมขอโทษที่ทำให้พวกคุณต้องผิดหวัง”
“ผมรู้ว่านี่มันก็แค่คำพูด แต่อยากให้รับรู้ไว้ว่าผมได้รับฟังพวกคุณ ผมเชื่อพวกคุณ และขอโทษที่ปล่อยให้พวกคุณต้องเป็นเช่นนี้ ผมอยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหากคุณพร้อมที่จะเล่าให้ฟัง ในฐานะของผู้นำในวงการนี้ ผมสามารถใช้ชื่อเสียงในการช่วยให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ต่อสู้กับความเกลียดชัง, การเลือกปฏิบัติ และการล่วงละเมิดทุกรูปแบบเท่าที่จะทำได้”
Morhaime ทิ้งท้ายว่าเขาอยากจะเห็นแวดวงอุตสาหกรรมเกมเป็นสถานที่ที่ผู้หญิงทุกคนอยู่ได้อย่างปลอดภัย และมีส่วนสำหรับทุก ๆ โอกาสอย่างไม่โดนกีดกัน
Activision Blizzard ถูกยื่นฟ้องต่อศาลโดยองค์กร Department of Fair Employment and Housing (DFEH) หลังใช้เวลาสืบสวนนาน 2 ปี ส่งผลให้ขณะนี้บริษัทกำลังโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงมาก และปัจจุบันยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ บนโลกอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นช่องทางโซเชียลมีเดียของเกมใด ๆ ก็ตาม
หากมีความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีนี้ออกมาเพิ่มเติมแล้ว เราจะมารายงานให้ทราบกันอีกครั้ง
ที่มา : Eurogamer