ยังคงเป็นดราม่ากันแบบต่อเนื่องสำหรับ Social Media ยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Facebook งวดนี้ถึงคิวของระบบรับชมวีดีโอกันบ้าง
คดีความใหม่ปรากฎตัวขึ้นหลังทาง Facebook ถูกเหล่าลูกค้าและเอเจนซีซึ่งลงโฆษณาผ่านวีดีโอใน Facebook ยื่นฟ้องในข้อหาปกปิด โกหก สถิติการเข้าชมวีดีโอ พวกรวมไปถึงข้อหาอื่น ๆ อีกหลายรายการ
ปัญหาเกิดจากการที่ Facebook รายงานผล “เวลาเฉลี่ยในการรับชมวีดีโอโฆษณา” โดยนับเฉพาะผู้รับชมที่ดูวีดีโอมากกว่า 3 วินาที ส่งผลให้ตัวเวลาเฉลี่ยมีค่าเยอะกว่าที่ควรจะเป็น โดย Facebook แถลงในปี 2016 ว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นพึ่งถูกค้นพบในตอนนั้น แต่ผู้ยื่นฟ้องยืนยันว่า Facebook รู้ดีถึงปัญหานี้ตั้งแต่ในปี 2015 แล้ว
จากการดูเอกสารภายในกว่า 80,000 หน้าของ Facebook ที่ได้รับมา Crowd Siren เอเจนซีโฆษณาผู้ยื่นฟ้อง Facebook เปิดเผยว่า Facebook “โม้” ตัวเลขเวลาเฉลี่ยในการรับชมโฆษณาไปเกินกว่าความเป็นจริง 60% – 80% ขณะที่ผู้ยื่นฟ้องรายอื่นเชื่อว่าตัวเลขดังกล่าวอาจสูงถึง 900% เลยทีเดียว
Facebook ออกมาปฎิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดพร้อมยืนยันว่า Facebook ไม่เคยปิดบังปัญหากับลูกค้าแต่อย่างใด
ดราม่าครั้งนี้สร้างคำถามใหม่ที่สำคัญขึ้นมาว่าสรุปแล้วตัวเลขผลการลงโฆษณาะกับ Facebook ที่ผ่านมามีความเป็นจริงมากขนาดไหน แล้วต่อจากนี้เหล่าลูกค้าจะกล้าลงทุนกับ Facebook อยู่หรือเปล่า
ไม่ว่าผลของคดีความครั้งนี้จะเป็นอย่างไรเหล่าลูกค้าก็คงจะเกิดความลังเลใจในการทุ่มเงินกับ Facebook อย่างแน่นอน
กระแสข่าวคดีความครั้งนี้ปรากฎตัวพร้อมข่าวลือที่ว่า Mark Zuckerberg กำลังเตรียมจะถูกเด้งออกจากตำแหน่ง CEO ของ Facebook หลังเหล่าผู้ถือหุ้นยื่นหนังสือแสดงความไม่พอใจในการบริหารงานของ Zuckerberg