BY TheStarrySky
9 Feb 19 2:50 pm

ไม่ยอมเเพ้! Artifact จะยังคงมี Tournament เเละอาจเป็น Free-to-Play ในอนาคต

4 Views

5 ปี คือเวลาหลังจากที่ Valve ปล่อยเกมยอดฮิตอย่าง Dota2 ซึ่งได้รับความนิยมถล่มทลาย เหมือนกับเกมอื่น ๆ ของค่ายที่ก็ทำได้มาโดยตลอด เป็น 5 ปีที่ Valve ซุ่มพัฒนาเกมใหม่ของพวกเขา นั่นคือ “Artifact” ที่คาดว่าจะประสบความสำเร็จอย่างที่เกมรุ่นที่ทำได้ เเต่อนิจา มันกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลยเเม้เเต่น้อย

เพราะหลังจากเกมเปิดตัวออกมา จำนวนผู้เล่นก็ลดลงจาก 60,000 เหลือ 30,000 เเล้วที่สุดก็เหลือไม่ถึง 1000 คนในตอนนี้ เรียกได้ว่า “ล้มเหลวอย่างเเท้จริง” สำหรับความหวังใหม่ของ Valve ในครั้งนี้ ที่น่าอับอายที่สุดคือ เกมไม่สามารถเอาชนะได้เเม้กระทั้ง Mod ของ Dota2 อย่าง Dota Auto Chess ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตอนนี้ ชนิดที่เรียกว่าเกมหลักอย่าง Dota2 เองยังสะเทือนไปตาม ๆ กัน

Artifact ถูกพัฒนาโดย Valve เเละกำกับการสร้างโดย Richard Garfield หนึ่งในผู้สร้างยอดตำนานเเห่งวงการการ์ดเกมอย่าง Magic the Gathering (TCG ตัวเเรกของโลก ต้นเเบบของการ์ด Yugioh) เเละ Valve ตั้งความหวังไว้ว่า มันจะต้องประสบความสำเร็จได้เเบบ Half Life, Counter Strike เเละ Dota 2 ซึ่งเป็นต้นฉบับเอง เเต่ถึงมีจะมี “สูตรสำเร็จ” ที่มากขนาดนี้เเล้ว เเต่ทำไมเกมยังถึงล้มเหลวได้, Silva Alvarado จากเว็บไซต์ elcomercio.pe ได้สรุปเหตุผลที่ Artifact ไปไม่ถึงฝั่งฝันไว้อย่างน่าสนใจ 3 ข้อ พร้อมทั้งการยืนหยัดครั้งสุดท้ายของเกมไว้ดังนี้

1. เกม…ต้องการอะไร ?

Artifact ถูกประกาศเปิดตัวครั้งเเรกในเดือนสิงหาคม 2017 ในงาน TI7 เเละ 1 ปีต่อมาก็ได้เริ่มทำการทดสอบเกมโดยผู้เล่นทั่วไปในงาน TI8 เเน่นอนว่าตัวเกมย่อมเป็นที่ชื่นชอบของเเฟนๆ Dota2 ด้วยกันเอง ซึ่งเป็นเเผนที่ Valve วางไว้ในตอนเเรก ที่จะใช้ชื่อเสียงของ Dota2 โปรโมตเกมไปในตัว (คล้ายๆ กับที่ Blizzard ใช้ชื่อของ Warcarft โปรโมต HearthStone)

เเต่ข้อผิดพลาดเเรกก็มาจากตัวของ Valve เช่นกัน Dota เป็นเกม MOBA Free-to-Play เเต่ Artifact มีค่าเเรกเข้าที่ 20 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 675 บาท) เเละ Deck ที่ใช้ในการเล่นนั้น มีการประมาณว่าอาจมีราคาสูงถึง 120 เหรียญ

ซึ่งใกล้เคียงกับการ์ดในโลกเเห่งความจริงมาก ที่จริงเเล้ว Valve เองก็คงตั้งใจให้เป็นเเบบนั้น ที่จะสร้างขุมเงินขุมทองเเห่งใหม่ให้ตัวเอง เหล่า Free Player ทั้งหลายในชุมชนของ Dota จึงไม่ปลื้มกับสิ่งนี้เท่าไหร่นัก

ที่จริงเเล้ว Artifact ก็ถือเป็นเกมเเรกที่มีลักษณะเป็น TCG เเต่ไม่ใช่ Free-to-Play เช่นกัน เพราะเกมอื่น ๆ อย่าง Yugioh, Shadowverse, HearthStone, GWENT หรือเเม้เเต่กับ Magic the Gathering เองก็เป็น Free-to-Play ทั้งหมด ไม่มีการเก็บค่าเปิดซองเเรกเข้าเเต่อย่างใด

2. การโฆษณาที่ย่ำเเย่

อาจจะเพราะความใหญ่ของ Valve เอง ที่ทำให้พวกเขาไม่ค่อยสนใจในเรื่องการโฆษณาเท่าไหร่ เเต่กับเรื่องนี้เล้วมันไม่ใช่เลย ผู้เล่นมีข้อมูลน้อยมากเกี่ยวกับ Artifact ก่อนที่มันจะเปิดตัว โดยรู้เเต่เพียงว่ามันเป็นการ์ดเกม Dota2 เท่านั้น

ซึ่งนั่นมันไม่เซอร์ไพรส์เหล่าเเฟน ๆ เลย เเม้เเต่กับคนที่นิยมเล่น TCG เอง การ์ดเกมคือที่ที่ศิลปะ+ความคิดสร้างสรรค์มารวมกัน การนำ “ของเดิม” จาก Dota2 ทำเป็นเกมใหม่นั้นไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาต้องการ เพราะนี้ไม่ใช่ Mod เพราะฉะนั้น ในความเห็นของเเฟน ๆ Valve ควรทำได้ดีกว่านี้

กลับมาที่การโฆษณา ตั้งเเต่ธันวาคมปีที่ผ่านมา (หลังเกมออก) Official Twitter ของ Artifact ก็ไม่ได้กิจกรรมอะไรออกมาจูงใจผู้เล่นใหม่เลยเเม้เเต่น้อย เเม้เเต่ในเกมก็เช่นกัน ไม่มีกิจกรรมรับเปิดเกม ไม่มีกิจกรรมเเจกของ ไม่มีการฉลองอะไรเเบบที่ทุก ๆ เกมทำกัน นี้ถือว่าเป็นจุดที่เกมพลาดมาก ๆ จุดหนึ่ง ทุกคนเล่นเกมเเบบไร้จุดหมายเเละสุดท้ายก็เลิกเล่นกันไป

3. ความพยายามในการเป็น “ตลาดใหม่”

การ์ดเกมที่มีลักษณะเป็น TCG (Trading card game) มีความหมายตรงตัวตามชื่อของมัน นั้นคือเป็นการ์ดที่สามารถเเลกเปลี่ยน ซื้อขายกันไปมาเพื่อสร้างเด็คใหม่ ๆ คอมโบใหม่ ๆ ที่ไม่รู้จบได้ (ต่างกับ Board Game ที่ทุกอย่างจะถูกล็อคไว้)

เเต่จากการที่ Valve เก็บค่าเเรกเข้าเกมเป็นเงินกว่า 20 เหรียญฯ เป็นค่าเปิดซองการ์ด 10 ซองเเรกนั้น มันก็ชัดเจนเเล้วว่า Valve ต้องการที่จะสร้างตลาดใหม่ด้วยการ์ดของพวกเขา

ถือว่าเป็นความพยายามที่น่าชื่นชม เเต่ Valve คงลืมไปว่า เกมของพวกเขานั้นยังใหม่มาก ไม่เหมือนกับเกมอื่นๆ ที่เติบโตมากับพื้นฐานที่เเข็งเเรง (เช่น Yugioh หรือ Pokemon) นี้จึงทำให้หลายคนยอมเเพ้ตั้งเเต่เริ่มต้น เมื่อพวกเขาไม่เห็นหนทางที่จะพัฒนาเด็คของพวกเขาได้ เนื่องจากไม่มีเงิน เเละไม่ต้องการที่จะเพิ่มเงินเข้าไปเพื่อซื้อการ์ดเพิ่มอีก (นี้เป็นเหตุผลว่าทำไม TCG ทั้งหลายถึงมี Starter Pack เเต่ Artifact ไม่มีของเเบบนั้นอยู่เลย)

การขาดซึ่งกิจกรรมจูงใจจากข้อ 2 ก็เป็นอีกสาเหตุสำคัญเช่นกัน หากเรามองไปที่ Yugioh Dual-Link ที่จัดกิจกรรมชนิดเเทบไม่ให้พักเเล้ว ก็จะพบว่า Valve นั้นไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับตลาดที่พวกเข้ากำลังจะตั้งใหม่นี้เลย

โดยในเรื่องนี้ ได้มีการสรุปในส่วนของตลาด เเละลักษณะของเกมไว้เเล้ว สามารถรับชมได้ ที่นี่ Review : Artifact

แล้วนี่คือจุดจบของ Artifact เเล้วงั้นหรือ ?

อย่างที่กล่าวไปในตอนต้น Valve ใช้เวลาถึง 5 ปีในการพัฒนาเกม โดยไม่ปล่อยเกมอื่น ๆ ออกมาเลย เเน่นอนว่าพวกเขาย่อมไม่ปล่อยให้เกมนี้ตายง่าย ๆ อย่างเเน่นอน

Gabe Newell ประธานของ Valve ได้ออกมาประกาศเเล้วว่า เกมจะยังคงมี Tournament ที่มีเงินรางวัลกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เเละอาจปรับให้เกมเป็น Free-to-Play ในอนาคต (โดยอาจมาเป็น Mode เพิ่มในเกม) จึงขอให้เเฟน ๆ เชื่อมั่นว่าเกมจะยังคงมีต่อไป ส่วนการอัพเดทปรับปรุงตัวเกมก็จะมีมาเรื่อย ๆ เช่นกัน

Gabe Newell

นี่เป็นประกาศสำคัญที่ทำให้ผู้เล่นจำนวนน้อยนิดของ Artifact ใจชื้นขึ้นมาอยู่บ้าง แถมยังมีผู้สนับสนุนบางรายอย่าง Noxfire ที่ได้จัด Noxfire League ที่มีเงินรางวัลกว่า 30,000 เหรียญ ให้เหล่าผู้ที่ยังเหลืออยู่ได้มีความหวังในการเล่นต่อไป

ส่วนการที่เกมจะ Comeback กลับมาได้หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับ Valve ว่าจะมีเเผนรับมืออย่างไรต่อไป, Artifact อาจกลายเป็นความล้มเหลวที่คนจดจำได้เป็นเกมเเรกของพวกเขา หรือจะกลับมาได้อย่างงดงาม เราคงจะได้รู้กันเร็ว ๆ นี้

Source : elcomercio.pe

Pathiphan Tepinta

Back to top