ดูเหมือนว่าในอนาคตข้างหน้านี้ การใช้กล้องตรวจจับใบหน้าในพื้นที่ชุมชนของเมืองใหญ่ ๆ นั้นจะเริ่มเป็นความจริงเข้าไปทุกที ล่าสุดนี้ก็เป็นกรมตำรวจในกรุงลอนดอนที่เตรียมติดตั้งกล้งวงจรปิดแบบที่ตรวจจับใบหน้าได้ในย่านท่องเที่ยวของกรุงลอนดอนแล้ว
รายงานจากเว็บไซต์ The Verge ระบุว่า ทางกรมตำรวจของลอนดอนได้เตรียมที่จะติดตั้งกล้องวงจรปิดที่มีระบบตรวจจับใบหน้าในย่านการท่องเที่ยวที่มีความหนาแน่นสูง โดยจะเน้นไปที่การตรวจจับบุคคลที่เข้าข่ายต้องสงสัย และจับตาดูผู้ที่มีแนวโน้มในการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ได้
และเมื่อระบบของกล้องสามารถตรวจจับได้เจอ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รับสัญญาณเตือนให้มายังพื้นที่ดังกล่าวทันที และสามารถติดตามได้ว่าผู้ต้องสงสัยไปที่หน และเข้าทำการสอบสวนทันที และหากพิสูจน์ได้ว่าตรงกับหมายจับ ก็สามารถควบคุมตัวได้ทันทีเช่นกัน ซึ่งระบบนี้จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเตรียมพร้อมและดำเนินการจับตัวคนร้ายได้รวดเร็วมากขึ้นด้วย
แน่นอนว่าเรื่องประชาชนในกรุงลอนกดอนต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันถึงความเหมาะสมในเรื่องดังกล่าวนี้ ว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลเกินไปหรือไม่ เพราะในหลาย ๆ ประเทศการใช้กล้องตรวจจับใบหน้านั้นถือเป็นการล่วงละเมิดอย่างหนึ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น แม้แต่บริษัทด้านเทคโนโลยีเจ้าใหญ่อย่าง Google เองก็ต่อต้านการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ทางกรมตำรวจลอนดอนก็ยังยืนยันหนักแน่นที่จะใช้กล้องตรวจจับใบหน้านี้ในย่ายท่องเที่ยว เพราะมองว่าความปลอดภัยของประชาชนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และจะสามารถระงับเหตุร้ายได้ทันการณ์กว่าการที่ไม่ติดตั้งเลย พร้อมกับบอกว่าพวกเขายังคงเคารพในสิทธิ์ของประชาชนทุกคน และจะไม่ใช้เทคโนโลยีนี้ในการล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลถ้าไม่มีเหตุอันควรแน่นอน
