ตาม Gollum ไปติด ๆ สำหรับ “Skull Island: The Rise of Kong” เกมแอ็กชันของ Kong ปะทะสารพัดสัตว์ประหลาด ซึ่งวางขายมาในสภาพสุดทุลักทุเล โดยล่าสุดมีการเปิดเผยจากทีมงาน GameMill Entertainment ว่าพวกเขามีเวลาทำเกมนี้แค่เพียงปีเดียวเท่านั้น (เริ่มต้นจากศูนย์)
โดยเว็บไซต์ The Verge มีโอกาสได้สัมภาษณ์กับ IguanaBee, หนึ่งในทีมงานที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อจริง (เพราะห่วงว่าจะถูกรังควาน) และทำให้ได้ทราบถึงเบื้องหลังการพัฒนาว่า
“เกมนี้เริ่มต้นขั้นตอนการพัฒนาเมื่อช่วงเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว และมันตั้งเป้าให้เสร็จในวันที่ 2 มิถุนายนปีนี้ ฉะนั้นมันเลยเป็นการพัฒนาเกมภายในปีเดียว”
ด้าน IguanaBee เผยอีกว่าจริง ๆ แล้วทาง GameMill ก็ต้องการจะทำผลงานออริจินัลของตัวเองเหมือนอย่างทีมอื่น ๆ แต่ที่พวกเขาตกลงรับโปรเจกต์สุดกระชั้นชิดนี้มา ก็ด้วยเหตุผลเรื่องเงินเป็นหลัก
และผลที่ตามมา ก็ทำให้นักพัฒนาเกมต้องทำงานกันอย่างหนัก โดยเฉพาะตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2023 เป็นต้นมา ซึ่ง IguanaBee บอกว่าเขาถึงกับเปิดโหมด “ออโต้ไพล็อต” ในการทำงานเลยทีเดียว เพราะความหวังต่าง ๆ มันหายไปจนหมดแล้ว
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่านักพัฒนา Skull Island: The Rise of Kong บางส่วนก็มีความภูมิใจกับโปรเจกต์นี้อยู่ด้วย ซึ่งอาจเป็นเพราะพวกเขาทำเกมจนเสร็จลุล่วง ท่ามกลางอุปสรรคและข้อจำกัดมากมาย
พร้อมกันนี้ ทาง The Verge ทราบข่าวลือมาว่าตัวโปรเจกต์ดังกล่าว ถูกเริ่มต้นขึ้นด้วยทีมไซส์เล็ก ซึ่งอาจจะมีจำนวนพนักงานอยู่ที่ระหว่าง 2 – 20 คนเท่านั้น การทำเกมให้เสร็จในปีเดียวจึงอาจเป็นงานที่ยากลำบากจริง ๆ สำหรับพวกเขา
Skull Island: The Rise of Kong วางจำหน่ายแล้วทั้งบน PlayStation 5, Nintendo Switch, PlayStation 4, Xbox One, Xbox Series X|S และ PC ซึ่งปัจจุบันตัวเกมกำลังเป็นที่พูดถึงในแง่ลบทั้งด้านกราฟิกและเกมเพลย์ โดยมีคะแนนรีวิวเฉลี่ยบน Metacritic (ฝั่งผู้เล่น) เพียง 3.6/10 เท่านั้น
