โดยเป้าหมายหลักของร่างกฎหมายนี้ก็คือการต่อสู้อิทธิพลทางเทคโนโลยีจากฝั่งประเทศจีน และขณะเดียวกันก็อาจช่วยส่งผลให้สถานการณ์การขาดแคลนเครื่องเกม Console รวมไปถึงอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ดีขึ้นหลังจากนี้
ฝั่งทำเนียบขาวมีการรายงานว่า กฎหมาย “ชิพส์ และ ไซแอนซ์” (Chips and Science) ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามในวันอังคารที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมาจะมุ่งเน้นการกระตุ้นการผลิตในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในของอเมริกาและเข้ามาแก้ปัญหาของห่วงโซ่อุปทานที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
Today, I sign into law the CHIPS and Science Act. It's a once-in-a-generation law that invests in America by supercharging our efforts to make semiconductors here at home.
Today represents a more secure economy, jobs, and a stronger future for our nation.
America is delivering.
— President Biden (@POTUS) August 9, 2022
หรือพูดง่าย ๆ ก็คือร่างกฎหมายนี้มีขึ้นเพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนชิปที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบต่อทุกภาคอุตสาหกรรมการผลิตต่าง ๆ อาทิ รถยนต์ อาวุธ เครื่องซักผ้า และวิดีโอเกม
ตัวร่างกฎหมายดังกล่าวจะใช้เงินราว ๆ 280,000 ล้านดอลลาร์ ในการเข้าไปกระตุ้นอุตสาหกรรมการผลิตชิพ โดยนอกจากการแก้ปัญหาการขาดแคลนชิพแล้ว อีกจุดที่ถือเป็นหัวข้อสำคัญของกำหมายนี้ก็คือการต่อสู้ด้านเทคโนโลยีกับชิปจีนที่ครองส่วนแบ่งตลาดโลกอยู่กว่า 20%
นอกจากเม็ดเงินสนับสนุนแล้วตัวกฎหมายยังมีการพูดถึงการยกเว้นภาษีสูงสุด 25% ให้กับผู้ประกอบการผลิตชิพในสหรัฐ โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือต้องไม่ตั้งโรงงานผลิตชิพในจีนและประเทศอื่น ๆ ในรายชื่อที่กำหนด
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีการประกาศยืนยันว่าสหรัฐต้องเป็นผู้นำโลกในด้านการผลิตชิปคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ผ่านกฎหมายฉบับดังกล่าวและนี่คือการลงทุนครั้งสำคัญที่สุดของสหรัฐในยุคสมัยนี้ ซึ่งไม่เพียงจะช่วยสร้างงาน แต่ยังเป็นการปกป้องความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาด้วย
ปัจจุบันจีนถือเป็นตลาดใหญ่สุดในฐานะผู้ผลิตชิพโดยถือครองการผลิตอยู่ที่ 24% โดยมีไต้หวันตามหลังมาที่ 21% เกาหลีใต้19% และ ญี่ปุ่น 13% อย่างไรก็ตามหากเป็นชิพคุณภาพสูงที่ขนาดต่ำว่า 10 nm แล้ว ไต้หวันยังยืนหนึ่งเป็นผู้ผลิตใหญ่รายเดียวของโลก ในฐานะผู้ผลิต 92%
“อนาคตของอุตสาหกรรมชีพของโลกจะต้องถูกสร้างขึ้นในประเทศอเมริกา” ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าว