อย่างที่ทราบกันดีว่า ณ เวลานี้ ทาง Epic Games Store ได้ยื่นข้อเสนอที่ไม่อาจปฏิเสธได้ให้กับเหล่าผู้จัดจำหน่ายและนักพัฒนาเกมให้มาวางจำหน่ายเกมแบบ Exclusive ในร้านค้าของตน ซึ่งแม้แต่เกมที่เคยถูกกำหนดให้วางจำหน่ายใน Steam มาก่อนก็ถูกถอดออกจนกลายเป็นประเด็นร้อนฉ่ามาแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ผู้พัฒนาทุกคนที่ยอมนรับข้อเสนอนี้ แถมยังกลัวว่าถ้าหากรับไปก็อาจสร้างความเสียหายให้กับตนได้
โดยเรื่องนี้มีที่มาจากกระทู้หนึ่งใน Reddit ห้อง PCGaming ที่ได้มีการรวบรวมเคสของผู้พัฒนาเกมที่ปฏิเสธว่าจะไม่มี Exclusive Deal ใด ๆ กับทาง Epic Games Store มาให้ได้ทราบกัน ซึ่งที่น่าตกใจคือมีผู้พัฒนาหลายรายที่ปฏิเสธไม่รับดีลกับทาง Epic Games Store อยู่เป็นจำนวนไม่น้อย
เริ่มตั้งแต่เกม Rise of Industry เกมจากผู้พัฒนาเจ้าเล็ก Dapper Penguin Studio ที่ยืนยันผ่านทางหน้าข่าวสารในเซิฟเวอร์ Discord ของพวกเขาว่า ทางค่ายนั้นเคยได้รับการติดต่อมาจาก Epic Games Store ให้วางขายเกมในร้านของพวกเขาแบบ Exclusive โดยมีเงื่อนไขว่า พวกเขาต้องวางขายเกมในหน้าร้านค้าของ Epic Games Store เท่านั้น ไม่สามารถวางขายพร้อมกันสองร้านได้
ซึ่งนั่นทำให้ทางทีมพัฒนาปฏิเสธทาง Epic Games ไป แม้ว่าพวกเขาจะได้ส่วนแบ่งค่าคอมมิชชั่นเพิ่มอีก 18% จากยอดขายก็ตาม แต่สิ่งที่พวกเขาต้องการก็คือการที่ผู้เล่นสามารถเข้าถึงตัวเกมได้จากทุก ๆ แพลตฟอร์มมากกว่า และการแยกไปขายบนแพลตฟอร์มอื่นเพียงที่เดียวในขณะที่เปิดให้เล่นแบบ Early Access ไปแล้วจะส่งผลเสียมากกว่า
อีกเกมหนึ่งที่ทาง Epic Games Store พยายามจีบให้มาขายในร้านก็คือ Factorio แต่ทางผู้พัฒนาก็ยืนยันชัดเจนว่า จะไม่นำเกมไปขายให้กับบริษัทใหญ่ที่หวังแต่เรื่องผลกำไรเพียงอย่างเดียว ซึ่งเสี่ยงต่อการทำให้แบรนด์ถูกทำลายโดยไม่จำเป็น แม้จะมีการกล่าวอ้างว่าเป็นการลงทุนเพื่อความก้าวหน้าก็ตาม
แน่นอนว่าผู้พัฒนาเกมชื่อดังหลายเจ้าเองก็ไม่ได้ปลาบปลื้มกับการตกลงขายเกมแบบ Exclusive ของทาง Epic Games Store เหมือนกัน เช่น CD Projekt RED ที่ประกาศว่า Cyberpunk 2077 จะไม่เป็น Exclusive เฉพาะให้กับแพลตฟอร์มเดียวเด็ดขาด หรืออย่าง Chris Avellone นักออกแบบเกมชื่อดังก็เคยประกาศว่า ไม่พอใจนักที่ทาง Obsidian ทำข้อตกลงแบบ Exclusive กับทาง Epic Games Store หลังจากที่ประกาศวางขายเกม The Outer Worlds ใน Steam
ซึ่งอย่างที่เห็นกันว่าไม่ใช่ผู้พัฒนาทุกคนที่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ยังมีอีกหลายคนที่มองว่าการทำข้อตกลงแบบ Exclusive แบบที่ทาง Epic Games ทำนั้นไม่ส่งผลดีต่อเกมของตน และคาดว่าในอนาคตน่าจะมีผู้พัฒนาและจัดจำหน่ายออกมาแสดงความเห็นเรื่องนี้ต่อไปอีกในอนาคตแน่นอนครับ