เผยรายละเอียดสำคัญทั้งหมดหลังการเปิดตัวจากงาน EA Play 2019
จัดว่าเป็นเกมที่กำลังร้อนแรงที่สุดในนาทีนี้เลยทีเดียวสำหรับ Star Wars Jedi: Fallen Order ของทีมงาน Respawn จากค่าย EA เพราะหลังปล่อย Trailer Gameplay แบบเต็ม ๆ ความยาว 15 นาทีออกมาเมื่อคืนเกมเมอร์หลายคนก็อยากจะรู้รายละเอียดอื่น ๆ ของตัวเกมที่ไม่ได้ถูกพูดถึง
ล่าสุดนิตยสาร Gameinformer ฉบับใหม่ได้ตีพิมพ์รายละเอียดหลายอย่างเกี่ยวกับตัวเกม Star Wars Jedi: Fallen Order ออกมา มีหลายจุดที่น่าสนใจและสมาชิก User นาม DMVfan123 ของเว็บ Resetera ก็หยิบยกสรุปมาไว้ ผมขอนำเนื้อหาทั้งหมดมาแปล พร้อมเสริมเนื้อหาอื่น ๆ จากในหนังสือเข้าไปและนำมาฝากให้แฟน ๆ GamingDose ได้อ่านกันครับ
บอกเลยว่าเยอะมากจริง ๆ อ่านกันให้จุใจไปเลย
ระบบการเล่น
- ระบบการเล่นที่ส่วนที่คล้ายและได้รับแรงบันดาลใจจากเกม Dark Souls ทีมงานระบุว่าไม่ได้ต้องการให้ผู้เล่นรู้สึกยากเหมือนในเกม Souls แต่ต้องการให้ผู้เล่นใช้ฝีมือและความพยายามในการต่อสู้
- พลัง Force ถือเป็นส่วนเสริมสำคัญในการต่อสู้ ผู้เล่นจะได้ใช้ Force หลายรูปแบบในการ “จัดการ” กับเหล่าศัตรู
- ทีมงานระบุว่าตัวเกมจริง ๆ มีความยากมากกว่าในเดโมที่เราเห็นในงาน EA Play
- ตัวเกมมีตัวเลือกปรับระดับความยาก
- ในส่วนของระบบการสำรวจทีมงานได้แรงบันดาลใจจากเกม Metroid โดยตัวเกมจะมีของซ่อนและความลับถูกปิดซ่อนเอาไว้จนกว่าผู้เล่นจะได้รับพลังใหม่มาและย้อนกลับมาสำรวจในพื้นที่เดิม
- ไม่มีระบบ Waypoint ไม่มีการชี้เป้าหมายไปยังภารกิจ ผู้เล่นต้องออกสำรวจดวงดาวและฉากต่าง ๆ ด้วยตนเอง
- หุ่นยนต์ BD-1 คู่หูของพระเอกสามารถฉายแผนที่ 3 มิติแบบ Hologram ไว้ให้ผู้เล่นใช้งาน มีการแสดงแผนที่ส่วนที่ผู้เล่นสำรวจไปแล้วรวมไปถึงระบุ “พื้นที่สำคัญ” ด้วยสีทองให้ผู้เล่นกลับมาสำรวจ
- ระหว่างเปิดแผนที่เกมจะไม่ถูกหยุดลง
- ผู้เล่นจะมียานอวกาศส่วนตัวเพื่อใช้ในการเดินทางไปมายังดาวต่าง ๆ ได้ตามต้องการ เราสามารถเลือกไล่ตามภารกิจหรือย้อนกลับไปดาวเก่า ๆ เพื่อตามหาของเพิ่ม ยานของตัวเอกมีชื่อว่า The Stinger Mantis
- บนยานจะเป็นพื้นที่พักผ่อน ผู้เล่นจะสามารถ Save พัฒนา Skill พูดคุยกับตัวละครอื่น ๆ ศึกษาประวัติของดาวต่าง ๆ และเนื้อเรื่องในเกมได้ที่นี่
- ยานอวกาศของเรายังมี “กิจกรรม” อื่นให้ทำซึ่ง Respawn ยังไม่พร้อมเปิดเผยออกมาในตอนนี้ (อาจเป็น Minigame บังคับยานยิงต่อสู้ ?)
- ยังไม่เปิดเผยจำนวนดาวที่มีในเกม แต่ทีมงาน Informer ได้เห็นภาพงานศิลป์และระบุว่าตัวเกมมีจำนวนดาวให้สำรวจ “ไม่น้อยเลยทีเดียว”
- มีทั้งดาวชื่อดังจากในภาพยนตร์และดาวใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเกมนี้โดยเฉพาะ
- แต่ละดาวจะมี “เมืองท่า” ซึ่งเป็นพื้นที่ศูนย์กลางสำหรับลงจอดยาน
- การเดินทางไปดาวต่าง ๆ โดยใช้ยานอวกาศจะเป็นแบบ Real Time นั่นคือไม่มีฉากโหลดและการตัดฉากระหว่างเดินทางไปดาวอื่น ผู้เล่นสามารถใช้เวลาระหว่างเดินทางทำกิจกรรมอื่น ๆ บนยานได้
- ฉากบนดาวเปิดกว้างในระดับหนึ่ง บางพื้นที่มีขนาดใหญ่พอให้ผู้เล่นออกเดินสำรวจได้แบบอิสระ บางพื้นที่ต้องการพลัง Force พิเศษหรืออุปกรณ์บางอย่างในการเข้าถึง
- การออกสำรวจจะทำให้ผู้เล่นค้นพบ Item ที่ใช้ในการอัพเกรดตัวละคร ทั้งหลอดเลือดและหลอดพลัง Force ไปจนถึงแต้ม Skill สำหรับพัฒนาท่วงท่าใหม่ ๆ
- ไม่มีระบบฟื้นฟูพลังโดยอัตโนมัติ ผู้เล่นจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เติมพลังหรือ health canisters เพื่อเพิ่มเลือด หากอุปกรณ์เติมพลังหมดผู้เล่นสามารถกดปุ่มดีดนิ้วและเรียกหุ่นยนต์คู่ใจ BD-1 โดยเจ้าหุ่นจะทำการโยนหลอด health canisters ให้ ตัวเอกคว้ามาใช้งาน
- หลอดเพิ่มเลือดหรือ health canisters จะใช้ระบบเดียวกับ Estus Flasks หรือน้ำเต้าในเกม Sekiro ผู้เล่นจะต้องเดินทางไปจนถึงจุด Save จึงจะได้รับหลอดเลือดมาใช้เพิ่ม
- การเดินกลับไปจุด Save เดิมจะทำให้ศัตรูเกิดใหม่แบบเดียวกับใน Dark Souls
- ผู้เล่นจะสามารถหา Item มาอัพเกรดเพิ่มจำนวน health canisters ที่มีได้ (เริ่มเกมมาผู้เล่นจะมาหลอดเพิ่มเลือดแค่ 2 อัน)
- หุ่น BD-1 สามารถเก็บเอาวัสดุภายในฉากเพิ่อนำมาสร้างเป็น health canisters ให้ตัวเอกใช้งาน
- มี Item สำหรับปรับแต่งหน้าตาของทั้ง Cal ตัวเอก หุ่น DB-1 และยาน The Stinger Mantis
- มีระบบปรับแต่ง Lightsaber ตั้งแต่ สี ไปจนถึง ส่วนของด้ามจับ (ไม่มีดาบสีแดงให้ใช้เพราะเราคือ เจได)
- Cal มาพร้อมความสามารถในการวิ่งไต่กำแพง แต่กำแพงที่วิ่งไต่ไปได้จะมีลักษณะเฉพาะตัว เราจะไม่สามารถวิ่งไต่กำแพงได้ทุกอัน
- BD-1 สามารถช่วยเรา Scan หาข้อมูลที่น่าสนใจจากในฉากเพื่อทำให้เรารับรู้เนื้อเรื่องเพิ่มเติม
- มีศัตรูหลากหลายรูปแบบทั้งสัตว์ประหลาด หุ่นยักษ์ และเหล่า Trooper
- แม้ว่า Trooper จะดูเหมือนเป็นศัตรูพื้นฐาน แต่ทีมงานยืนยันว่าการต่อสู้กับพวกมันก็จำเป็นต้องอาศัยฝีมือเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อต้องเจอกับ Trooper หลาย ๆ แบบพร้อมกัน
- มี Boss และ Mini Boss มากมายหลายแบบให้จัดการ ทีมงานสัญญาว่าการต่อสู้ในเกมจะไม่ใช่เป็นเพียงแค่การ “เปลี่ยนสีตัวละครเดิม” และเอากลับมาให้เราสู้ใหม่อีกครั้ง
- แทบทุกปุ่มที่ใช้ในการบังคับมีท่าเสริมในการกด ไม่ว่าจะเป็นการกดแบบกดค้างไว้หรือการเคาะสองครั้งติดกันหรือ Double Tap ทีมงานระบุว่าการออกแบบนี้มีขึ้นเพื่อให้ผู้เล่นสามารถใช้ท่าพิเศษทุกอย่างในเกมได้ตลอดเวลา ไม่มีความจำเป็นต้องกดเข้าเมนูไปสลับติดตั้งท่าที่ต้องการใช้แบบในเกมอื่นบางเกม
- มีการยกตัวอย่างปุ่มกดของเครื่อง Playstation 4 การฟัน Lightsaber พื้นฐานจะเป็นการกดสี่เหลี่ยม การกดสามเหลี่ยมจะเป็นท่าโจมตีแบบ Focus หากกดเคาะสองครั้งจะเป็นท่าโจมตีแบบรุนแรง ส่วนกดค้างจะเป็นการใช้ Force พุ่งตัวไปหาศัตรู
- ปุ่มใช้พลัง Force ถูกกำหนดไว้ที่ปุ่ม R1 R2 L1 L2 หรือ RT LT พลัง Force พื้นฐานคือท่าดึงกับท่าผลัก อีกท่าคือท่า Force Slow
- ระบบการตอสู้เน้นหนักไปที่การหาทาง Counter และจัดการกับศัตรูโดยที่ศํตรูไม่คาดคิด การดวลจะเน้นไปที่การทำให้หลอดค่าพลังป้องกันของศัตรูหมดและเข้าไปจัดการ ผู้เล่นจะต้องคอยระวังหลอดพลังของตัวเองเช่นกัน ทีมงานระบุว่าฉากการดวลจะมีความกดดันที่ผู้เล่นต้องตัดสินใจให้ดีก่อนออกท่าโจมตี ไม่ใช่กดรัวปุ่มอย่างเดียว
เนื้อเรื่องและตัวละคร
- เรื่องราวในเกมเริ่มขึ้นที่ดาว Bracca ซึ่งฝ่าย Empire ใช้เป็นสถานที่เก็บยานอวกาศ ที่ซึ่งยานปลดประจำการถูกนำมารื้อชิ้นส่วน
- ในระหว่างสงคราม Clone Wars ในภาพยนตร์ Cal ตัวเอกของเกมกำลังศึกษา Force ในฐานะเจไดฝึกหัด
- หลังคำสั่ง 66 ถูกเปิด Cal จำเป็นต้องหลบหนีไปซ่อนตัวและทิ้งทุกอย่างที่มีไป
- Respawn ดูไม่ค่อยอยากเปิดเผยเรื่องราวเบื้องหลังเกี่ยวกับ Cal ตัวเอกมากนัก ทำให้มีข้อบ่งชี้ว่า Cal อาจเป็นบุคคลที่มีความสำคัญบางอย่าง ทีมงานยืนยันว่าเรื่องราวเบื้องหลังของ Cal ทั้งหมดจะถูกเปิดเผยในเกม
- ผู้เล่นจะเริ่มถูกตามล่าภายในระยะเวลาไม่กี่นาทีหลังเริ่มเกม
- Cal ได้รับความช่วยเหลือจากอดีตเจไดหญิงลึกลับนาม Cere ผู้ต้องการฟื้นฟูนิกายเจไดกลับคืนมา
- Cere สัญญาว่าจะช่วยฝึก Cal ให้เป็นเจไดหากเขายอมช่วยเหลือภารกิจของเธอ
- Greez Dritus กัปตันยาน The Stinger Mantis เป็นเอเลี่ยนสายพันธุ์ใหม่ที่ทาง Respawn ร่วมมือกับ Lucasfilm สร้างขึ้นเพื่อเกมนี้โดยเฉพาะ
- Saw Gerrera ตัวละครจาก The Rogue One มีบทบาทในเกมและได้ Forest Whitaker ดาราเจ้าของบทกลับมาให้เสียงพากย์ในเกม
- The Second Sister อดีตสมาชิกเจไดผู้ทรยศและหันไปเข้าร่วมกับฝ่าย Sith ทำหน้าที่เป็นนักล่าเจไดเป็นศัตรูหลักคนสำคัญ เธอเป็นตัวละครอีกตัวที่ Respawn ออกแบบร่วมกับ Lucasfilm และการที่เธอไปปรากฎตัวในหนังสือการ์ตูนชุด Darth Vader: Dark Lord of the Sith ก็เป็น Easter Egg ที่เชื่อมโยงการ์ตูนดังกล่าวเข้ากับเกมนี้
- หุ่น BD-1 ใช้เวลา 2 ปี ในการออกแบบ Respawn ทำงานร่วมกับ Lucasfilm อย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างหุ่นตัวนี้ขึ้นมา
- Ben Burtt นักออกแบบเสียงในตำนานผู้ดูแลเสียงของ หนัง เกม การ์ตูน อนิเมชั่น Star Wars เข้ามาออกแบบเสียงให้หุ่น DB-1 ซึ่งที่ผ่านมา Ben Burtt เป็นคนออกแบบเสียงให้ Chewbacca, R2-D2 และแม้แต่เสียงหายใจของ Darth Vader
การพัฒนาตัวเกม
- ก่อนเริ่มต้นพัฒนาทีมงาน Respawn ได้เสนอไอเดียเกม Star Wars ให้กับทาง EA ซึ่งตอนแรกทั้งสองฝ่ายหาข้อตกลงสัญญาร่วมกันไม่ลงตัว สุดท้ายคุณ Stig Asmussen และทีมงาน Respawn ได้เริ่มต้นลงมือพัฒนา “เกมตระกูลใหม่” ที่เน้นระบบการต่อสู้ระยะประชิดและเสนอไอเดียดังกล่าวให้ EA อีกครั้ง งวดนี้ EA มองเห็นศักยภาพว่าตัวเกมสามารถเป็นเกม Star Wars ชั้นดีได้ คุณ Vince Zampella หัวเรือใหญ่ของ Respawn เลยตัดสินใจให้ทีมงานเลือกว่าจะสร้างเกมดังกล่าวเป็นเกมใหม่หรือจะเปลี่ยนมันให้กลายเป็นเกม Star Wars ซึ่งทีมงานตัดสินใจเลือกสร้างเกม Star Wars
- หลังจากได้รับคำยินยอมจาก EA ทีมงานก็ต้องได้รับคำยินยอมจาก Lucasfilm ตอนแรกทาง Lucasfilm ค่อนข้างกังวลเพราะ “เจได” ถือเป็นส่วนสำคัญของ Star Wars แต่เมื่อได้ข้อมูลจากทาง Respawn พวกเขาก็มั่นใจและตกลงช่วยเหลือ Respawn ในการสร้างเกมนี้ขึ้นมา
- Lucasfilm เป็นผู้ให้ความช่วยเหลือในการหาช่วงเวลาสำหรับเนื้อเรื่องในเกมนี้