รวมรายละเอียดแรกของเกม Mass Effect ภาคใหม่แบบเป็นทางการ ทั้งด้านเนื้อเรื่องและระบบการเล่นใหม่
ข้อมูลจากนิตยสาร gameinformer และเว็บไซต์ neogaf
เนื้อเรื่อง
ในปี 2185 (ช่วงเดียวกับ Mass Effect 2) เหล่าประชากรในทางช้างเผือกสำเร็จโครงการ “Andromeda Initiative” มีเป้าหมายในการส่งผู้คนไปยังกาแลกซี Andromeda เพื่อก่อตั้งที่อยู่ใหม่และพัฒนาไปสู่การสร้างเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างทางช้างเผือกและ Andromeda
ยานขนส่งขนาดยักษ์หรือ Ark 4 ลำถูกสร้างและส่งออกไป ในยานแต่ละลำมีสมาชิกหลายพันทั้งมนุษย์และเอเลี่ยน ยานแต่ละลำมีหัวหน้าดูแลตำแหน่ง “Pathfinder” สมาชิกทั้งหมดเข้าสู่การแช่แข็งและถูกตั้งตื่นขึ้นมาในอีก 600 ปีเมื่อยานเดินทางไปถึง Andromeda ส่งผลให้ไม่มีใครรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วง Mass Effect 2 และ 3
ผู้เล่นรับบทเป็น Scott หรือ Sara Ryder (เปลี่ยนชื่อได้) ลูกสาวและลูกชายของ Alec Ryder ผู้เป็น Pathfinder ของยาน Ark ของมนุษย์ เหตุการณ์ในช่วงต้นของเกมส่งผลให้ผู้เล่นต้องสืบทอดตำแหน่ง Pathfinder ต่อจากพ่อ เนื้อเรื่องของเกมแตกต่างจากไตรภาคแรกในแง่ที่ว่าตัวเอกภาคนี้ไม่เคยผ่านสงครามหรือการทดสอบใดๆมาก่อนต่างจาก Shepard ตัวเอกเก่าที่ “เทพ” ก่อนภาคแรกจะเริ่ม
- ระบบปรับแต่งหน้าตาตัวละครถูกยกเครื่องใหม่ให้มีลูกเล่นและปรับแต่งได้มากกว่าเดิม
- สามารถปรับแต่งหน้าตาของครอบครัวตัวเอกได้ (ทั้งพ่อและพี่น้อง)
ระบบต่อสู้
- ระบบ Global Cooldown ของ Skill ถูกเปลี่ยนกลับให้แต่ละตัวละครในทีมมีเวลาการ Cooldown Skill ของตัวเองแทน
- ท่า Skill และพลังต่างๆถูกเปลี่ยนไปใช้ระบบปุ่มลัดแทนการหยุดเกมแล้วเล็งแทน แม้ผู้เล่นจะสามารถหยุดเกมได้เหมือนเดิมแต่ตัวเกมถูกออกแบบมาให้เล่นแบบลื่นไหล
- ระบบเข้าหลบหลังที่กำบังแบบใหม่
- รูปแบบการเล่นหลักยังเน้นการเข้าหลบหลังกำบังและยิงกับศัตรูเหมือนภาคก่อนแต่เน้นการเคลื่อนที่ในสนามรบมากยิ่งขึ้น
- Jet Pack เพิ่มความสามารถในการเคลื่อนที่แบบใหม่ ผู้เล่นสามารถ Dash แทนการกลิ้งไปมาได้
- Jet Pack ทำให้ผู้เล่นสามารถลอยตัวเพื่อยิงศัตรูหลังกำบังหรือใช้สำรวจพื้นที่
- ลดฉากที่เป็นเส้นตรงลง
- ระบบ Class ถูกตัดทิ้งไป ผู้เล่นสามารถเลือกใช้ Skill จากทุกสายอาชีพในภาคเก่าได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็น Soldier หรือ Biotic
- ระบบใหม่ดังกล่าวมีขึ้นเพื่อให้ผู้เล่นสามารถเลือกทดลองใช้งาน Skill ที่ต้องการได้โดยไม่ถูกจำกัดตั้งแต่เริ่มเกม
- เมื่อผู้เล่นมุ่งเน้นพัฒนาสาย Skill ไปในทิศทางที่ต้องการจะสามารถปลดล็อค Bonus พลังพิเศษซึ่งเป็นการกลับมาของชื่อ Class จากภาคเก่า เช่น Vanguad เน้นการต่อสู้กับ Biotics หรือ Adept ที่เน้นการใช้ Biotics เพียงอย่างเดียว
- ผู้เล่นสามารถ Reset Skill ได้
- สามารถปรับแต่งชุดเกราะ หมวก ไหล่ แขน ขา ได้ตามต้องการ
- อาวุธจากภาคเก่าจะกลับมาอีกครั้งพร้อมอาวุธใหม่และอาวุธระยะประชิดอย่าง “ดาบ” และ “ค้อน”
สภาพแวดล้อมและฉาก
- “Kett” คือชื่อของเหล่าศัตรูหลักในภาคนี้
- Kett ถูกออกแบบมาให้น่าเกรงขามไม่ใช่หน้าตาอัปลักษณ์เพราะทีมงานอยากให้ผู้เล่น “เข้าถึงและเห็นใจ” เป้าหมายของศัตรู
- สำรวจผิวดาวและพื้นที่ใต้ดิน ไม่ใช่เพียงแค่ลงไปสำรวจพื้นที่เล็กๆในดาวเหมือนภาคเก่า
- เมืองหลัก, ดาวรอง, และภารกิจ Loyalty Mission ยังคงมีอยู่ในภาคนี้
- รถที่ใช้ในการสำรวจผิวดาวของเรามีชื่อว่า “Nomad”
- Nomad เป็น Mako รุ่นปรับปรุงเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น บังคับง่ายขึ้น
- Nomad ไม่มีระบบอาวุธแต่ผู้เล่นสามารถปรับแต่งหน้าตาและความเร็วของมันได้
- เมื่อผู้เล่นเดินทางไปยังจุดที่น่าสนใจบนผิวดาวอาจพบกับเนื้อเรื่อง การต่อสู้ ปริศนา
- เป้าหมายหลักในการออกสำรวจผิวดาวคือการหาพื้นที่สำหรับตั้งฐาน
- ฐานดังกล่าวจะเป็นพื้นที่ที่ผู้เล่นสามารถปรับแต่งอุปกรณ์ เปลี่ยนอาวุธ หรือใช้เป็นจุด Fast Travel
- บนดาวอาจมีสภาพแวดล้อมที่เป็นภัยและสามารถฆ่าคุณได้ เช่นบ่อกรด พายุ หรือซากยานที่ถูกทำลาย
- แต่ละดาวจะมีฐานทัพหลักของศัตรูอย่างน้อยหนึ่งฐาน
- บางดาวอาจมีพื้นที่หรือเขตที่มีศัตรูหรือ Boss ที่แข็งแกร่งมากจนคุณไม่สามารถจัดการได้ในทันที ผู้เล่นต้องกลับไปฝึกฝนและกลับมาจัดการพวกมันในทีหลัง
- การออกสำรวจจะทำให้คุณสามารถได้พิมพ์เขียวไว้สำหรับ Craft อาวุธและชุดเกราะใหม่ๆ
- คุณสามารถ Craft Item ได้หลากหลายแบบไม่ใช่เพียงแค่ประเภทของกระสุนหรือส่วนเสริมของปืน
- เนื้อเรื่องและภารกิจบางอันจะส่งคุณไปยังดาวหลายดวง
เพื่อนร่วมทีม
- Peebee (ชื่อเล่น) เพื่อนร่วมทีมชาว Asari (ที่ปรากฎตัวใน Trailer เก่า) ลักษณะนิสัยร่าเริง ฉลาดและไม่สนใจสถานะทางสังคมเหมือนคนทั่วไป
- Liam อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ยานหลัก
- มีชื่อว่า Tempest
- ทีมงานต้องการให้ Tempest มีเสน่ห์เช่นเดียวกับ Normandy
- ไม่มีฉากโหลดเกมระหว่างเดินสำรวจในยาน
- แผนที่ Galaxy Map กลับมาในภาคนี้ แต่แทนที่จะเป็นการบังคับยานลำเล็กๆไปมาในฉาก ภาคนี้การเดินทางจะสมจริงมากขึ้น ผู้เล่นเลือกจุดหมายและตัวเกมจะแสดงฉากการเดินทางไปยังดาว เมื่อถอยกลับออกมาจากฉากเราจะเห็นว่าเราเดินทางมาถึงดาวนั้นจริงๆ
- ตัวเกมไม่ได้ให้คุณบังคับยานด้วยตนเองแต่ทีมงานพยายามทำให้ผู้เล่นรู้สึกสมจริงมากที่สุดในการเดินทาง โดยผู้เล่นจะมองเห็นดาวใกล้เข้ามาเรื่อยๆจากทางหน้าต่าง
ความสัมพันธ์และตัวละคร
- Andromeda จะเป็นเกมของ Bioware ที่มีความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครมากที่สุดเท่าที่เคยสร้างโดยทีมงานรู้ว่าแฟนๆชื่นชอบระบบ Romance ของค่าย
- เพื่อนร่วมทีมที่มีบทพูดน้อยที่สุดในภาค Andromeda มีบทพูดมากกว่าเพื่อนร่วมทีมที่มีบทพูดมากที่สุดใน Mass Effect 3
- ตัวละครที่เป็นพี่น้องกับตัวเอกจะไม่ได้ไปออกลุยกับเราแต่ผู้เล่นสามารถพัฒนาความสัมพันธ์และโต้ตอบพูดคุยกับเขาได้
- หนึ่งในเนื้อหาสำคัญของภาคนี้คือการค้นพบเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัว Ryder
- Bioware มั่นใจเนื้อหาของบทในเกมภาคนี้และเชื่อมั่นว่า Andromeda จะแตกต่างจากเกมเนื้อเรื่องการเดินทางของ Hero ทั่วๆไป
- Loyalty Mission หรือภารกิจเสริมของเพื่อนร่วมทีมกลับมาอีกครั้งในภาคนี้แต่ลดความสำคัญกับเนื้อเรื่องหลักลงไป คุณสามารถจบเนื้อเรื่องหลักของเกมและค่อยกลับมาทำ Loyalty Mission ได้
- เน้นความสมจริงของความสัมพันธ์ของตัวละครไม่ใช่เพียงแต่เพิ่มค่าความชอบเพื่อนำไปสู่ Sex Scene
Multiplayer
- เป็นการหยิบเอาระบบของ Mass Effect 3 มาปรับปรุงพัฒนา
- มีระบบใช้เงินจริงซื้อของในเกมแต่ไม่จำเป็นต่อผู้เล่นทุกอย่างสามารถปลดล็อคได้ภายในเกม
- ผู้เล่นยังคงเลือกฉากและศัตรูก่อนเข้าไปลุยเหมือนในภาคก่อนแต่ผู้เล่นสามารถเลือกปรับแต่งความยากเพื่อเพิ่มหรือลดโบนัสที่ได้รับ
- Bioware วางแผนจะปล่อยภารกิจพิเศษที่ท้าทายผู้เล่นออกมา โดยภารกิจพิเศษเหล่านี้จะมอบค่าเงินพิเศษให้ผู้เล่นสามารถนำไปใช้ซื้อปลดล็อคของที่ต้องการได้ทันที
- ในโหมด Multipalyer ผู้เล่นรับบทเป็นกองกำลัง “Apex Force” หน่วยจู่โจมของฐานทัพ Nexus ฐานหลักของเหล่าประชากรทางช้างเผือกที่เดินทางมายัง Andromeda
- ศัตรูแต่ละแบบจำเป็นต้องใช้เทคนิคในการต่อสู้ที่แตกต่างกันออกไป
- การเล่น Multiplayer จะมีประโยชน์และสร้างความได้เปรียบให้ผู้เล่นในโหมดเนื้อเรื่องแต่จะไม่มีผลกระทบต่อฉากจบใดๆ
ระบบตัวเลือก
- ไม่มีระบบ Renegade หรือ Paragon อีกต่อไป
- ทีมพัฒนาต้องการให้ผู้เล่นมีตัวเลือกที่แสดงออกตามที่ผู้เล่นต้องการไม่ใช่มีแค่ตัวเลือกสองแบบเหมือนเก่า
- ผู้เล่นสามารถเลือกเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับคนอื่นโดยไม่จำเป็นต้องกังวลถึงค่า Renegade หรือ Paragon
- โทนการสนทนาในเกมถูกแบ่งออกเป็น ใช้ใจ ใช้สมอง เป็นมืออาชีพหรือเป็นกันเอง
- มีตัวเลือกขั้นฉากเหมือนภาคเก่า
- ตัวเลือกไม่มีผิดหรือถูก ทุกอย่างมีข้อดีข้อเสียและ Bioware ต้องการให้ผู้เล่นเลือกอย่างอิสระตามที่ต้องการ
และอื่นๆ
- Andromeda จะเปิดประตูสู่ภาคต่อที่จะตามมา
- Bioware แอบแง้มเกี่ยวกับฉากจบที่อาจมีหลายแบบและบอกเพียงแค่ว่ามันจะแตกต่างจากในไตรภาคแรก