รายงานเผยว่า สตูดิโอกว่า 12 แห่งทั่วโลกอาจได้รับผลกระทบจากการตัดสินใจครั้งนี้
วงการเกมอาจต้องสั่นสะเทือนอีกครั้ง เมื่อมีรายงานว่า NetEase ยักษ์ใหญ่จากจีน วางแผนที่จะ ลดขนาดธุรกิจเกมระดับพรีเมียม ลงอย่างมาก โดยเตรียม ปิดหรือขายกิจการ สตูดิโอเกมนอกประเทศจีนที่เคยทุ่มเงินลงทุนอย่างหนักในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับ NetEase เปิดเผยกับสื่อ Game File ว่า การปรับโครงสร้างครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อสตูดิโอกว่า 12 แห่ง ทั่วโลก หากไม่สามารถหาผู้ลงทุนรายใหม่มารับช่วงต่อได้ ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าสตูดิโอเหล่านี้จะต้องปิดตัวลง
สัญญาณแรกของการลดขนาดธุรกิจเริ่มปรากฏใน พฤศจิกายน 2024 เมื่อ Untold Worlds สตูดิโอเกมในแคนาดา ซึ่ง NetEase เพิ่งก่อตั้งได้เพียงปีเดียว ประกาศระงับการดำเนินงานพร้อมปลดพนักงานจำนวนมาก
มกราคม 2025 ตามมาด้วยข่าวร้ายจาก Jar of Sparks สตูดิโอในซีแอตเทิล ที่เคยถูก NetEase โปรโมตอย่างภาคภูมิใจในปี 2022 แต่กลับต้องเผชิญกับการหยุดการพัฒนาเกม ลดค่าใช้จ่าย และกำลังมองหาผู้สนับสนุนทุนใหม่เพื่อความอยู่รอด
ล่าสุดใน กุมภาพันธ์ 2025 สตูดิโอ Liquid Swords จากสวีเดน ซึ่ง NetEase เคยลงทุนในปี 2022 ก็ประกาศเลย์ออฟพนักงานบางส่วน โดยให้เหตุผลว่า “สภาพตลาดมีการเปลี่ยนแปลง”
Game File รายงานว่า NetEase กำลังอยู่ระหว่างการ “มองหาผู้ซื้อ” สำหรับสตูดิโอเกมนอกประเทศจีนหลายแห่ง และหากไม่สามารถหาผู้ลงทุนรายใหม่ได้ทันเวลา สตูดิโอเหล่านี้อาจถูกปิดตัวลงถาวร
โฆษกของ NetEase ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้ แต่ระบุว่า:
“ทุกสตูดิโอและโครงการอยู่ระหว่างการทบทวนและประเมินผลอย่างต่อเนื่อง และ NetEase จะตัดสินใจตามความเหมาะสมเมื่อกระบวนการนี้เสร็จสิ้น”
การตัดสินใจของ NetEase ในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของ “วิกฤตในอุตสาหกรรมเกม” ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา หลายค่ายเกมต้องเผชิญกับปัญหา ยอดขายตกต่ำ และ ต้นทุนการพัฒนาที่สูงขึ้น ส่งผลให้มีการเลย์ออฟและปิดสตูดิโอมากขึ้นเรื่อย ๆ
หาก NetEase เดินหน้าแผนการนี้จริง การปิดสตูดิโอกว่า 12 แห่งจะสร้างผลกระทบอย่างมากต่อตลาดเกมโลก และเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า “ยุคทองของการลงทุนเกม AAA” อาจกำลังเข้าสู่ช่วงขาลง
สตูดิโอชื่อดังที่อยู่ใต้ร่มเงาของ NetEase ในปัจจุบันก็ประกอบไปด้วย Quantic Dream ผู้พัฒนา Heavy Rain และ Detroit: Become Human ที่กำลังพัฒนาเกม Star Wars Eclipse
ทีม Grasshopper Manufacture ที่ก่อตั้งโดย Suda51 หรือล่าสุด Rebel Wolves ที่รวมตัวของอดีตทีมงานผู้พัฒนา The Witcher 3 และเพิ่งเปิดตัวเกมใหม่อย่าง Blood of the Dawnwalker ก็มี NetEase เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ หรือจะเป็น Nagoshi Studios ซึ่งก่อตั้งโดย Toshihiro Nagoshi ผู้สร้างซีรีส์ Yakuza
ปัจจุบัน NetEase ดูเริ่มจะประสบความสำเร็จอย่างสูงจากความสำเร็จของ Marvel Rivals แต่ผลงานดังกล่าวก็เป็นเกม Free to Play ซึ่งพัฒนาโดยทีมงานหลักในประเทศจีน
ซึ่งสถานการณ์โดยรวมจริง ๆ แล้วจะเป็นยังไงก็ต้องติดตามกันต่อไป
