Shawn Layden อดีตผู้บริหาร PlayStation ที่เคยทำงานอยู่กับ Sony มานานกว่า 30 ปี, ให้สัมภาษณ์ไว้อย่างน่าสนใจบนเวทีงาน gamescom asia ปีนี้ ว่าการแข่งขันเรื่องความแรงของเครื่องคอนโซลนั้นมาถึงจุดอิ่มตัวแล้ว
โดยเมื่อมีคำถามมาว่า การแข่งขันด้านประสิทธิภาพเครื่องคอนโซลที่แรงขึ้นทีละนิดแบบนี้ จะดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ได้อย่างยั่งยืนหรือไม่ เมื่อเทียบกับต้นทุนที่สูงขึ้น คุณ Layden ก็ตอบกลับมาว่า
“เราทำสิ่งเหล่านี้มา 30 ปีแล้ว, และทุกยุคสมัย ต้นทุนก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเราก็ปรับตัวไปตามนั้น ตอนนี้เรามาถึงจุดที่ไม่สามารถยึดแนวทางเดิมได้อีกต่อไป, เราไม่สามารถทำแบบเดิมได้อีกแล้ว”
คุณ Layden เชื่อว่าหากตลาดคอนโซลจะไปต่อได้ ก็ต้องดึงดูดกลุ่มผู้ใช้งานใหม่ ๆ เข้ามา รวมถึงคนที่ไม่ได้เป็นเกมเมอร์มาก่อนด้วย
“ถึงเวลาที่เราต้องรีเซ็ตโมเดลธุรกิจใหม่แบบจริงจังแล้ว, รวมถึงนิยามของวิดีโอเกมด้วย มันไม่ใช่การเล่นเกมยาว ๆ 80 หรือ 90 ชั่วโมง หรือถ้าจะเป็นแบบนั้น มันก็จะเป็น (ผู้เล่น) อีกกลุ่มที่แตกต่างออกไป”
ดังนั้น Layden จึงสรุปว่าตอนนี้การพัฒนาด้านฮาร์ดแวร์ “มาถึงจุดอิ่มตัวแล้ว” การมีเทคโนโลยี Ray Tracing ที่ก้าวล้ำ แต่ถ้าเล่นเกมในห้องที่มีแสงแดดมากระทบหน้าจอทีวี มันก็แสดงผลไม่เต็มที่อยู่ดี หรือความล้ำในด้านต่าง ๆ บางทีก็อาจจะต้องการหน้าจอขนาด 8K เพื่อให้เห็นสิ่งเหล่านี้ชัดเจน
“ตอนนี้เราแข่งกันที่จำนวน Teraflop และนั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะเป็น เราต้องแข่งกันที่คอนเทนต์สิ การเพิ่มสเปคเครื่องอะไรแบบนั้น ผมคิดว่าเราไปถึงเพดานกันแล้ว”
“การแข่งขันใกล้จะจบลงแล้ว และรู้มั้ยว่าใครชนะ ? AMD”
คุณ Layden กล่าวปิดท้ายกับประเด็นนี้ ซึ่งเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีข่าวลือพอดีว่า AMD ชนะ Intel ในศึกเสนอดีลกับ Sony เพื่อนำชิปไปใช้ในเครื่อง PlayStation 6 อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็ยังต้องรอความชัดเจนอีกครั้งในอนาคต (ที่คาดว่าอีกยาวไกล)
