Yanis Varoufakis อดีตผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ของ Valve และสมาชิกรัฐสภาประเทศกรีก แสดงความเห็นเกี่ยวกับเทคโนโลยี Blockchain และ NFT ในตลาดปัจจุบัน โดยกล่าวไม่เชื่อว่าเกม Play-to-Earn จะเป็นการเปิดโอกาสให้นักพัฒนาคอนเทนต์มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น
Varoufakis กล่าวว่าระหว่างที่เขาทำงานในบริษัท Valve เมื่อ 10 ปีก่อน มีคนหนุ่มสาวมากมายในประเทศจีน, คาซัคสถาน และอื่น ๆ อีกหลายประเทศที่ไม่สามารถเข้าถึงสังคมเกมของ Valve สามารถสร้างรายได้ด้วยการผลิตบางสิ่งบางอย่างให้แก่ผู้เล่นคนอื่น และตอนนี้ มันเป็นหนึ่งในเส้นทางการหารายได้ที่ผู้ใหญ่ยุคใหม่ต่างใฝ่ฝัน จึงไม่แปลกใจว่าทำไมแนวคิด Play-to-Earn จึงได้ถือกำเนิดขึ้นมา
แน่นอน แม้เขาคิดว่า Play-to-Earn จะส่งผลดีต่อคนที่มีฐานะลำบาก เพราะมีโอกาสสร้างรายได้ถึง 60,000 เหรียญฯ จากการออกแบบหมวกในเกม PC แทนที่จะต้องเสียเหงื่อทำงานแลกเงินจากการเย็บหมวกในโรงงานนรก และยกระดับคุณภาพชีวิตคนในประเทศที่ยากจนได้จริง แต่แนวคิดที่ว่ามนุษย์ต้องมานั่งเล่นเกมราวกับหุ่นยนต์ เพื่อจะมีเงินไปทำกิจกรรมอย่างอื่นในเวลาของตัวเองนั้น มันก็ส่งผลเสียในระยะยาวได้เช่นกัน
นอกจากนี้ เขาไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของ NFT กับ Blockchain เพราะเงิน NFT มีค่าเฉพาะในโลกดิจิทัลเท่านั้น ส่วนในโลกจริงมันมีไว้สำหรับอวดความเป็นเจ้าของ ส่วนเทคโนโลยี Blockchain มันก็เป็นการสะท้อนปัญหาความเหลื่อมล้ำและการเอารัดเอาเปรียบ ให้เห็นว่าคนที่ถือครองส่วนใหญ่นั้นก็ยังคงเป็นคนที่มีทรัพย์สิน หรือคนที่มีอำนาจอยู่ดี
ปัจจุบัน ทีมพัฒนาเกมหลายแห่ง พยายามเข้าสู่ตลาด NFT และ Blockchain ด้วยการผลิตเกม Play-to-Earn ซึ่งมีผู้เล่นเกม และบุคคลในวงการบางคน แสดงความไม่เห็นด้วยกับเกมประเภทดังกล่าว เนื่องจากส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเปิดโอกาสให้มีการฟอกเงินเกิดขึ้น
ที่มา: Rock Paper Shotgun