สำหรับผู้จัดจำหน่ายเกมและนักพัฒนาเกมแล้ว เงินทุกบาททุกสตางค์ย่อมมีความหมาย เพราะสิ่งนั้นจะส่งผลถึงความมั่นคงในอนาคตรวมถึงการสร้างเกมใหม่ ๆ ด้วย ทำให้การเจรจาในเรื่องของส่วนแบ่งจึงมีความสำคัญมากเพราะส่วนแบ่งเพิ่มเพียง 5% อาจจะทำให้พวกเขามีกินมีใช้ไปอีกหลายเดือน จึงไม่แปลกใจที่เรื่องส่วนแบ่งจะเป็นประเด็นของสังคมเกมในตอนนี้
Fredrik Wester อดีต CEO ของ Paradox Interactive ได้ออกมาเปิดเผยผ่าน Gamelab ว่าส่วนของ Valve ที่ให้ 70 (ผู้จัดจำหน่าย)/ 30 (Steam) เป็นอะไรที่แย่มาก พร้อมทั้งให้ความเห็นว่าส่วนแบ่งเช่นนี้ทำให้เจ้าของแพลตฟอร์มรวยมากจนเกินไป
นอกจากนี้เขายังได้กล่าวถึงกรณีของส่วนแบ่งใน Epic Games Store ที่ 88/12 เป็นอะไรที่ดีมาก ๆ เพราะส่วนแบ่งที่สูงขนาดนี้ย่อมทำให้อุตสาหกรรมเกมดีขึ้นอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในมุมมองของเหล่านักพัฒนาเกม ซึ่งในตอนนี้เกมจากค่าย Paradox ที่วางจำหน่ายใน Epic Games Store มีเพียงเกม Vampire: The Masquerade – Bloodlines 2 เท่านั้น แต่ไม่แน่ว่าในอนาคตพวกเขาจะเพิ่มเกมอื่น ๆ เข้ามาในแพลตฟอร์มนี้มากขึ้น
เท่านั้นยังเขายังได้ให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องของการเป็น Exclusive Games ใน Epic Store ว่านั่นไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายสำหรับชีวิตคุณ แค่เหล่าเกมเมอร์อาจจะต้องยอมรับการเปิด Launcher หลาย ๆ ตัวเท่านั้นเอง
Ask yourself "Why do they choose do go exclusive?" and I'll give you a hint: it's not to f**k up your life and force you to use multiple launchers.
— Fredrik Wester 🚐 (@TheWesterFront) July 1, 2019
ลองถามตัวเองดูว่าทำไมทีมพัฒนาเกมหลาย ๆ ทีมถึงเลือกที่จะวางจำหน่ายแบบ Exclusive ผมจะบอกใบ้ให้ นั่นมันไม่ใช่การทำลายชีวิตคุณ อีกทั้งยังไม่อยากให้คุณใช้ Launcher หลายตัวอีกด้วย
สำหรับเรื่องนี้เราคงต้องดูกันไปยาว ๆ โดยเฉพาะเกมของค่าย Paradox ที่มีจุดเด่นคือ DLC จำนวนมหาศาล หากพวกเขาย้ายไปขายใน Epic Games Store ย่อมหมายถึงรายได้มหาศาลเช่นกัน