อดีตทีมพัฒนาจาก Westwood ออกมาตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องราวความสัมพันธ์ของ Westwood และการเข้าควบกิจการของ EA ก่อนจะถูกยุบในภายหลัง
Westwood
Joseph Hewitt นักออกแบบเกมผู้เคยร่วมเป็นหนึ่งในทีมพัฒนาเกมของ Westwood Studios ทีมพัฒนาเกมระดับตำนานที่เคยฝากผลงานเกม Command & Conquer: Red Alert ได้ออกมาให้ข้อมูลถึงการเข้าซื้อกิจการของ EA และโครงการเกมที่ไม่เคยได้ออกมาเผยแพร่สู่สาธารณะ
โดยส่วนที่น่าสนใจที่เขาได้ออกมาให้ข้อมูลคือการที่เขาบอกว่า Westwood Studios มีขนาดที่ใหญ่เกินไปจนทำให้เกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาดบ่อยครั้งจนท้ายที่สุดต้องขายบริษัทให้กับผู้จัดจำหน่ายอย่าง EA
“Westwood ในตอนนั้นมีขนาดใหญ่มาก ซึ่งทาง Brett และ Louis ( สองผู้ก่อตั้งทีมพัฒนา Westwood Studios ) คิดว่าพวกเขาควรจะลองจัดจำหน่ายเกมเองหรือรวมบริษัทเข้ากับผู้จัดจำหน่ายเกมสักเจ้านึง พวกเขาได้เข้าไปคุยกับทาง Sierra Online อยู่เป็นระยะเวลานานแต่ก็ไม่เป็นที่สำเร็จ หลังจากนั้นพวกเขาก็ลองกันอีกครั้งแต่ผลที่ได้ก็ยังเป็นเช่นเคย
ในตอนนั้นเรากำลังทำบางอย่างกับ Virgin อยู่ด้วย ทีมได้เข้าไปร่วมทำงานกับพวกเขาอยู่พักหนึ่งซึ่งผมคิดว่านั่นเป็นเรื่องที่ดีมากๆซึ่งผมเองไม่ได้อยู่ในส่วนที่จะรับรู้ข้อมูลใดๆทั้งสิ้นทำให้ไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง แต่หลังจากนั้นไม่นานทาง Virgin ก็กำหนดว่าเราจะต้องทำอะไรกันบ้างซึ่งผมเข้าใจว่ามันคือเกมจาก The Dog and Pony Show
ในตอนนั้นมีแค่ Viacom ( น่าจะเป็นหนึ่งในบริษัทลูกของ Virgin นั่นล่ะ ) ที่เข้ามาแล้วเสนอว่า ‘เฮ้ย ทำไมไม่ให้เราซื้อบริษัทคุณทั้งหมดเลยกันล่ะ ?’ และแน่นอนว่าผมเองก็ไม่ได้รับรู้ข้อมูลใดๆอีกเช่นเคย ผมแค่พยายามจะจำและเล่าในสิ่งที่ผมเห็นว่ามันเป็นอยู่ซึ่งการตกลงมันก็เกิดขึ้นจริงๆและทุกอย่างก็ดูเหมือนจะไปได้ด้วยดี แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการจะล้างข้อมูลเก่าๆออกด้วยการขายทีม Spelling Entertainment ออก ซึ่งทาง Virgin Games เองก็อยู่ภายใต้ Spelling Entertainment อีกทีหนึ่ง
แต่ทว่า EA ที่กำลังอยากได้ Spelling Entertainment นั้นดันเป็นคู่แข่งกับ Virgin โดยตรงเพราะพวกเขาเป็น 2 อันดับแรกของผู้จัดจำหน่ายในประเทศอังกฤษ EA ไม่ได้รับอนุญาติให้ทำการซื้อทีมนี้เพราะเดี๋ยวจะเกิดปัญหาทางการค้าตามมาอีกมากมาย ทาง Viacom เองก็ไม่อยากจะจับแยกระหว่าง Virgin Games และขายไปแต่ Spelling Entertainment เช่นกัน
ตอนนั้นเห็นได้ชัดเลยว่า EA หันมาสนใจที่จะซื้อ Westwood Studios ซึ่งทาง Brett กำลังนั่งเป็นหัวหน้าทีมพัฒนาระดับสากลให้กับ Virgin Games แต่แล้วด้วยอะไรก็ไม่ทราบ ทาง EA ก็ได้ซื้อทีมที่ตัวเองต้องการรวมทั้ง Virgin Games เองด้วย
พูดให้ชัดเลยก็คือหลังจากการซื้อขายครั้งนั้น Brett และ Louis ไม่มีอำนาจสั่งการใดๆอีกต่อไปแต่ยังมีส่วนร่วมถือหุ้นและสิทธิในการออกความเห็นตามเดิม แต่ผมและเพื่อนร่วมทีมก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลยทั้งที่ชะตาของพวกเราอยู่ในมือเขาแท้ๆ”
ในส่วนนี้ถ้าให้สรุปสั้นๆก็คือ Westwood Studios ขยายตัวออกมาใหญ่เกินกว่าที่จะรับได้ทำให้เข้ามารวมกันกับทาง Virgin ซึ่งต่อมา EA ก็ได้ทำการซื้อ Westwood Studios ผ่านทาง Virgin Games
แล้วในส่วนของเกมนิรนามที่ไม่ได้ออกสู่สายตาเกมเมอร์กันล่ะ ? Joseph Hewitt ได้บอกว่าเกมนั้นมีชื่อว่า Body Count เกมแนว Action RPG ที่ถูกพัฒนาลงบนเครื่อง Genesis ของ SEGA แต่ทาง EA ก็ได้ทำการยกเลิกโครงการดังกล่าวออกไป
Brett Sperry ผู้ก่อตั้ง Westwood Studios
“มันเริ่มด้วยเกมแรกของ Westwood Studios ภายใต้การกำกับของ EA เป็นเกมที่มีชื่อว่า The Mars Saga เกมนี้ได้ถูกวางจำหน่ายลงบนเครื่อง The Commodore 64 และกำลังทำการพอร์ตให้ไปลง PC และ Apple II ซึ่งในตอนนั้น EA กำลังประสบปัญหาวิกฤตทางการเงินและได้ทำการยกเลิกโครงการต่างๆมากมายรวมไปถึงสองเกมที่ได้กล่าวไปด้วย
ทาง Westwood ก็เลยคิดได้ว่า ‘ถ้างั้นตามสัญญาเกมก็ต้องกลับมาเป็นของเราสิ’ แต่ทาง EA กลับบอกว่ามันไม่ใช่แบบนั้นและได้นำทีมทนายเข้ามาต่อสู้ในเรื่องนี้ซึ่งทาง Westwood ได้ชนะคดีกันไป หลังจากนั้นเกม The Mars Saga เวอร์ชั่นบนอีกสองแพลตฟอร์มที่เหลือก็ได้ถูกนำไปวางจำหน่ายโดย Activision ภายใต้ชื่อ Infocom โดยได้มีการปรับเปลี่ยนเรื่องราวกันนิดหน่อยเช่นเนื้อเรื่องเปลี่ยนไปดำเนินกันที่ดาว Titan หนึ่งในพระจันทร์ของดาวเสาร์จากนั้นก็มีการเพิ่มเติมคอนเทนท์และออกมาวางขายอีกครั้งในชื่อ The Mines of Titan
ในตอนนั้นเป็นบรรยากาศแย่ๆระหว่างสองบริษัทหลังจากที่เรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้น แต่ Christopher Erhardt ผู้อำนวยการของ Battletech ( ผมว่าน่าจะเขาน่ะแหละ เขาเคยพาทีมทำเกม Battletech ทั้งก๊วนไปสนามยิงปืนเพื่อยิงปืนไรเฟิลจู่โจมกันทั้งวัน พวกเราสนุกกันมาก ) ซึ่งเขาได้ย้ายเข้าไปอยู่กับทาง EA และได้พูดชื่นชมว่าเราเป็นทีมที่ดีมากแค่ไหนและเราควรจะได้กลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้งซึ่งนั่นก็นำเราไปสู่การแตกหักกับ EA ในครั้งที่สองซึ่งเป็นช่วงที่เกม Body Count เกมบรรยากาศ Cyber Punk แนว Action RPG ได้ถูกพับไป ผมจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างแต่มันมีความขัดแย้งเกิดขึ้นเยอะมากและ EA ก็ยกเลิกมันไปเฉยๆ
ในท้ายที่สุด EA ได้ซื้อทีมของเราและยุบมันไปในตอนจบ ดังนั้นจำไว้เถอะ คุณอาจจะชนะการต่อสู้บางครั้งแต่คุณก็ยังแพ้สงครามอยู่ดี”
