อุตสาหกรรมเกมในตอนนี้ มีขนาดมากกว่าอุตสาหกรรมกีฬาและภาพยนตร์รวมกันแล้วเรียบร้อยแล้ว โดยมีมูลค่ามากเกือบ 180 พันล้านเหรียญฯ ในปี 2020 ด้วยผลกระทบเชิงบวกจาก COVID-19
หากจะว่ากันตามตรง วิดีโอเกมในตอนนี้ก็เติบโตขึ้นจนมีลักษณะคล้ายกับภาพยนตร์ดี ๆ เรื่องหนึ่ง ที่ผู้เล่นสามารถมีปฏิสัมพันธ์ตอบโต้ด้วยได้ และอีกด้านก็เติบโตจนมีการแข่งขันเหมือนกีฬาต่าง ๆ ที่นิยมไปทั่วโลก ซึ่งในปี 2020 นี้ ทาง marketwatch.com ได้เผยว่า ด้วยการระบาดของ COVID-19 และอื่น ๆ ก็ทำให้อุตสาหกรรมเกมทำเงินได้มากกว่าภาพยนตร์และกีฬาที่ว่ามารวมกันเรียบร้อยแล้ว
โดยรายได้รวมของเกมในทั้ง 3 แพลตฟอร์มหลัก (PC, Console, Mobile) ของปี 2020 สามารถทำได้มากถึง 179.7 พันล้านเหรียญฯ หรือราว 5.4 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตในทั้ง 3 แหล่ง ได้แก่ PC 11%, Console 19.6% และ Mobile 24% ทำให้ในปัจจุบัน แพลตฟอร์มมือถือก็ยังเป็นแหล่งรายได้ของอุตสาหกรรมนี้ในอันดับหนึ่งเช่นเคย ด้วยมูลค่าราว 80 พันล้านเหรียญฯ หรือกว่า 2.4 ล้านล้านบาท
ซึ่งหากเทียบกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์และกีฬา ที่ก็ได้ผลกระทบจาก COVID-19 เหมือนกันก็พบว่า ตอนนี้อุตสาหกรรมเกมก็ได้มีขนาดใหญ่กว่าอุตสาหกรรมทั้งสองแล้วเมื่อวัดกันทางรายได้ โดยอ้างอิงจากรายงานของ variety.com ที่ระบุว่า รายได้รวมจากการฉายภาพยนตร์ทั่วโลกพึ่งแตะ 100 พันล้านเหรียญฯ เป็นครั้งแรกของโลกในปี 2019
ซึ่งในปีนี้ที่วงการภาพยนตร์ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดไปเต็ม ๆ จึงยากที่รายได้จะแตะ 100 พันล้านเหรียญฯ อีกครั้ง และจากรายงานของ PwC ก็ระบุว่า การแข่งขันกีฬาต่าง ๆ ทั่วโลกในปีนี้ทำรายได้ไปราว 75 พันล้านเหรียญฯ เท่านั้น
นอกจากนี้ ทาง marketwatch.com ก็เชื่อว่า รายได้ของอุตสาหกรรมนี้ก็น่าจะโตขึ้นอีกอย่างแน่นอนในปี 2021 จากการมาถึงของ Console next-gen ทั้งของ Playstation และ Xbox ในส่วนของมือถือและเกมมือถือเองก็มีการพัฒนาในทางที่ดีเช่นกัน รวมถึง COVID-19 ที่อาจลากยาวถึงปีหน้า ก็เป็นปัจจัยที่อาจทำให้อุตสากรรมนี้พัฒนาและสร้างรายได้มากขึ้นอีก ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปในปี 2021 ที่จะถึงนี้
ที่มา marketwatch.com