เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่เต็มไปด้วยข่าวลือมากมาย และทาง CD Projekt Red ก็ยังคงปิดปากเงียบเกี่ยวกับวันวางจำหน่าย แต่เราก็ยังมีข่าวใหม่ ๆ เกี่ยวกับเกมมานำเสนออยู่เรื่อย ๆและล่าสุดนี้ก็มีข้อมูลมาว่า เพลงในเกม Ctberpunk 2077 นั้นจะมีความเชื่อมโยงกับโลกในเกมและสามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระอีกด้วย
ทางเว็บไซด์ Gamer Professionals ได้พูดคุยกับคุณ Marcin Przybylowicz ผู้ประพันธ์เพลงในเกม Cyberpynk 2077 เกี่ยวกับตัวเกมและเพลงที่เขาแต่งขึ้น ว่ามีความแตกต่างจากใน The Witcher 3 มากน้อยแค่ไหน โดยอธิบายว่าดนตรีในเกมนี้จะมีความหลากหลายมากขึ้น และด้วยการที่โลกในเกมเปิดกว้างยิ่งกว่าเดิมทำให้จะมีแหล่งของเสียงในเกมเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วยโดยเชื่อมโยงกับโลกของเกม
“ถ้าให้ลงลึกอย่างที่ผมบอก มันแตกต่างจากเดิมมากครับ เพราะว่ามันเป็นจักรวาลที่ไม่เหมือนกันเลย เป็นอีกโลกหนึ่ง และเป้าหมายที่ดนตรีในเกมต้องไปให้ถึงนั้นก็แตกต่างกันอีกเช่นกัน ซึ่งต่อให้เทียบกับ The Witcher 3 มันก็แตกต่างมากอยู่ดีครับ เพราะว่าลักษณะของแนวเพลงต่างกันมาก แต่ผมคิดว่าในโลกของ Cyberpunk จะมีความเปิดกว้างมากขึ้น
“แน่นอนว่ามันอยู่ในปี 2077 นั้นหมายความว่ามันจะต้องมีความเป็น Electronics มากขึ้น เรามีเทคโนโลยีล้ำยุค ซึ่งก็หมายถึงเรามีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้นในการเล่นเพลง ตัวอย่างเช่นเครื่องเล่นเพลงส่วนตัว ระบบเสียงในคลับ ตู้เพลง หรืออะไรก็ตามแต่ที่ไม่มีใน The Witcher นั้นหมายความว่าเราจะมีแหล่งกำเนิดของเสียงเพลงมากกว่าใน The Witcher ชนิดที่สามารถวางอยู่ตรงไหนก็ได้ในเกม และยังเชื่อมโยงกับโลกในเกมได้อย่างแนบเนียนยิ่งกว่าใน The Witcher เสียอีก ซึ่งใน The Witcher เรามีข้อจำกัดมากเนื่องจากเพราะยุคสมัยในเกม ที่เป็นโลกแฟนตาซีในยุคกลางนั้นแหละครับ”
เขาได้อธิบายเพิ่มเติมอีกว่า ใน Cyberpunk 2077 จะเปิดให้ผู้เล่นสามารถปรับแต่งตัวเลือกของเพลงในเกมได้อย่างบ้าคลั่งมาก ๆ ซึ่งถือเป็นความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ของทีมทำเสียงในเกม
“เพราะงั้น ในการใส่แหล่งของเสียงเพลงลงไปในเกม คุณก็ต้องมีวงดนตรีของเหล่ากวีใส่ลงไปด้วย ตัวอย่างเช่นใน Novigrad ที่จะเล่นเพลงในแบบสนุกสนาน แต่มันก็จะอยู่แค่ในที่แห่งนั้น มันจะไม่ตามผู้เล่นไปเพราะว่ามันไม่เข้ากันกับโลกในเกม มันดูไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจครับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งในปูมหลัง เป็นเรื่องราวของ Geralt และใน Cyberpunk มันก็จะแตกต่างออกไปมากเพราะว่าในโลกของเกมอนุญาตให้เราทำอะไรบ้า ๆ ได้ด้วยการใส่เพลงใหม่ลงไปและเปลี่ยนมันได้เหมือนกับจัดการ Playlist ในโปรแกรมเล่นเพลง ซึ่งนั้นเป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงไปมากสำหรับเรา”
“และมันยังเปลี่ยนสโคปในการทำงานของเราอย่างใหญ่หลวง เพราะเราต้องเตรียมตัวมากขึ้นเยอะมาก ๆ ยิ่งกว่าที่เราทำใน The Witcher เสียอีกครับ”
คุณ Marcin ยังพูดถึงระบบที่เพลงในเกมจะเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละสถานการณ์ที่จะกลับมาในเกมนี้อีกด้วย
“เมื่อคุณได้เจอกับพวกเด็กแก็ง คุณอาจจะหยุดพักหายใจ คุยกันนิดหน่อย และดูเหมือนว่าการเจรจาจะจบลงโดยที่ไม่ต้องยิงกันสักเปรี้ยง แต่จู่ ๆ ทุกอย่างก็กลับตาลปัด กลายเป็นการยิงกันถล่มทลาย ซึ่งในจุดนี้เราไม่ได้ทำอะไรมากนักใน The WItcher เพราะสำหรับเราการปรับเปลี่ยนเพลงตามสถานการณ์คือกุญแจหลักของเรา ยกตัวอย่างเช่นจากการเล่นในตัวอย่างของเกมที่ออกมา ถ้าหากเราตกลงธุรกิจกันโดยที่นำเอาตัว Bot ออกมาได้โดยที่ไม่เสียเลือดเนื้อ เพลงก็จะดำเนินไปในแบบนิ่ง ๆ เหมือนเดิม ด้วยตัวระบบที่สร้างขึ้นมาให้เป็นไปในทิศทางนั้น ซึ่งมันก็ได้เตรียมตัวเลือกเอาไว้รองรับอีกสองสามอย่าง ซึ่งถ้าหากผู้เล่นตัดสินใจที่จะยิงกันเลย เพลงก็จะเปลี่ยนไปตามจังหวะการเล่นตอนนั้น ซึ่งมันจะช่วยเพิ่มจุดเดือดในเกมให้สูงขึ้นไปด้วย สร้างบรรยากาศในการเล่นให้ดีขึ้น มันดูเข้าท่ากว่ามั้ยครับ”
สุดท้าย ก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีเพลงที่มีลิขสิทธิ์เข้ามาอยู่ในเกมนี้ด้วย
“มันก็อาจจะช่วยเราได้มากนะครับเพราะคุณไม่ต้องกังวลในเรื่องของการซื้อลิขสิทธิ์เพลง อย่างที่ Rockstar ทำใน Grand Theft Auto V ทำคือซื้อลิขสิทธิ์เพลงมาใส่ในสถานีวิทยุของเกมเลยมันก็อาจจะช่วยเราได้มากที่จะมีสิ่งนี้อยู่ กับการซื้อลิขสิทธิ์เพลงแทนที่จะทำขึ้นมาเอง แต่มันจะอยู่ในข่ายของการพัฒนาเพลงในเกม Cyberpunk 2077 หรือเปล่า? มันก็เป็นส่วนที่ผมไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ในตอนนี้ครับ ก็ต้องมาดูกันครับว่าเราจะใช้เวลาเลือกเพลงกันนานถึงหกเดือนเลยหรือเปล่า(ฮา)”
Cyberpunk 2077 ยังไม่กำหนดวันวางจำหน่าย แต่จะลงให้กับระบบ PS4, Xbox One และ PC ครับ