เพราะปัญหา Lag ไม่ได้แก้กันง่ายๆ
“แม้แต่แสง สิ่งที่เรารู้ว่ามันเร็วที่สุด ยังต้องใช้เวลาเดินทางรอบโลกถึง 7 วินาทีครึ่ง ดังนั้นหากผู้เล่นจากโตเกียวต้องปะทะกับผู้เล่นจากบราซิล แม้แต่แสงก็ยังต้องใช้เวลา 1 ใน 15 วินาทีหรือเท่ากับ 4 เฟรมเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายและใช้เวลาเท่ากันในการเดินทางกลับมาซึ่งเท่ากับ 8 เฟรม แม้แต่แสงก็ยัง Lag เลย”
– Katsuhiro Harada ผู้สร้างเกม Tekken กล่าวในระหว่างให้สัมภาษณ์กับ Gamasutra
เป็นระยะเวลากว่าสองทศวรรษกับความโด่งดังของ Tekken ซึ่งทางผู้สร้างเองได้ให้สัมภาษณ์ว่าทางทีมพัฒนานั้นได้แอบซุ่มพัฒนาระบบของตัวเกมเพื่อลดปัญหาการ Lag สำหรับผู้เล่นระหว่างประเทศหรือไปไกลถึงระดับทวีป
“เอนจิ้นของเกมให้ภาพที่สวยงามและบรรยากาศที่สมจริงกับเราได้ แต่ในเรื่องของการเชื่อมต่อมันเป็นสิ่งที่ต้องใช้ทรัพยากรมากกว่านั้น นี่คือความเป็นจริงที่เราต้องเจอและเป็นอยู่ซึ่งก็จะเป็นไปอีกนาน นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อ 10 ปีก่อน เราถึงได้เปลี่ยนแปลงพื้นฐานของเกม”
ผู้สร้างอธิบายว่าทำไมเกม Tekken จึงมีท่วงท่าต่างๆ ที่ใช้เฟรมน้อยกว่าเกมอื่นเมื่อสิบปีก่อนประมาณ 3-4 เฟรม
“ในช่วงแรก Tekken มีบางท่าที่ใช้เพียงแค่ 8 เฟรม แต่ในภายหลังท่าที่ไวที่สุดในเกมอยู่ที่ 10 เฟรม ซึ่งเพียงแค่ 5 เฟรมภายในเกมก็ส่งผลต่อการ Lag ของผู้เล่น ยังไม่รวมการประมวลผลของการ์ดจอและหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ใช้ ดังนั้นแทนที่เราจะมามองแต่เรื่องเฟรม เราจึงเปลี่ยนไปแก้ไขระบบพื้นฐานในการเชื่อมต่อของตัวเกมกันใหม่
อย่างไรก็ตาม คนจำนวนมากไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องของการเชื่อมต่อเท่าที่ควรและยังคงขลุกอยู่กับเรื่องของการออกเฟรมในแต่ละท่า นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทาง Tekken ได้เอาพวกท่า 8 เฟรมออกควบคู่ไปกับการแก้ไขสถาปัตยกรรมของเกมทำให้เจอปัญหาการ Lag ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
ผมคิดว่าเกมอื่นๆ ก็ควรจะปรับระบบพื้นฐานของตัวเกมและมาใช้ในรูปแบบเดียวกันกับเกม Tekken ในท้ายที่สุด Tekken 7 เป็นเกมต่อสู้เกมแรกของโลกที่มี Network Battles ระหว่างทวีป ซึ่งมันประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่ก็จำเป็นต้องมีการปรับตัวเกมให้เข้ากับระบบนี้ด้วย มีนักพัฒนาเกมหลายคนที่เข้ามาถามว่าเราทำได้อย่างไรกัน”
แม้ว่าปัญหา Lag จะยังมีตัวแปรอื่นๆ อีกมากมายที่ทางผู้พัฒนาไม่สามารถแก้ไขได้ แต่ดูเหมือนว่าเราก็ใกล้เข้ามาสู่อนาคตของการพัฒนาเกมที่เชื่อมต่อได้ลื่นไหลแบบไม่มีสะดุดกันแล้วครับ
