ถึงแม้เสียงวิพากษ์วิจารณ์เกม Watch Dogs จะออกเป็นหลายกระแส ด่าบ้างชมบ้างแต่ผมก็ยังคงชื่นชอบเกมนี้และนี่คือ 5 สิ่งสุดประทับใจใน Watch Dogs
ให้ตายเถอะ เสียงวิพากษ์วิจารณ์มันเยอะจริงๆนะเกม Watch Dogs เนี่ย มิตรสหายเกมเมอร์ของผมหลายท่านก็ด่าพ่อล่อแม่กันสนุกสนานชำแหละซะไม่เหลือชิ้นดี แต่ทีมงาน GamingDose.com แต่ละคนก็ยังคงชื่นชมหลงใหลในเกมนี้อย่างน่าแปลกใจและแน่นอนนั่นรวมถึงตัวผมด้วย
ผมว่าเกมมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้นนะ มันไม่ใช่ว่าโห เปิดเกมมาแล้วก็จะสำรอกพร้อมขอคืนเงินอย่างด่วนแต่ผมก็เชื่อว่าคนเรามีเหตุผลและรสนิยมที่แตกต่างกันไป ผมจะไม่ขอพูดว่าเกมนี้ดีหรือไม่ดีซึ่งแน่นอนว่าถึงผมจะชอบเกมนี้แต่มันก็มีเรื่องให้ติอยู่เยอะเหมือนกัน แต่วันนี้ผมจะนำข้อดี 5 ข้อที่ผมประทับใจในเกม Watch Dogs มาเผยแพร่กันบ้างเพื่อว่าจะมีคนที่ชื่นชอบในเกมนี้และเห็นด้วยซึ่งจะเป็นการช่วยยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าผมไม่ได้คิดไปเองคนเดียว
1. ธีมและเนื้อหาของเกม
จริงๆจะว่าไป Watch Dogs และ Batman ก็มีความคล้ายคลึงกันอยู่มากนะครับ ตัวละครหลักของทั้งสองเกมนั้นต่างก็เป็นคนที่มีปมในอดีตและตั้งตนเป็นศาลเตี้ยคอยกำจัดอาชญากรด้วยวิธีของตนพร้อมมีคู่หูที่คอยชั่วเหลืออยู่ตลอดเวลา Bruce Wayne มี Alfred และ Aiden Pierce ก็มี Clara …. Batman แหกกฏหมายของเมืองก็อธแธมเพื่อปราบเหล่าร้าย Aiden Pierce ก็แหกกฏของชิคาโก้เพื่อปราบคนร้ายและศัตรูคู่อาฆาตทั้งหลายแต่ดูเหมือนว่า Watch Dogs จะแหกกฏมากกว่า Batman อยู่มาก ( อย่างน้อย Batman ก็ไม่ฆ่าหรือปล้นเงินใครล่ะนะ ) ซึ่งการที่เรื่องราวดำเนินไปในลักษณะของตัวเอกที่ตั้งตนเป็นศาลเตี้ยนั้นเหมือนเป็นการปลดปล่อยผู้เล่นเข้าสู่ด้านมืดเหมือนกับการที่เราได้เห็น Dexter Morgan จากภาพยนตร์ชุด Dexter หรือไลท์ ยางามิจากการ์ตูน Death Note นั่นล่ะครับ เป็นบรรยากาศที่เร้าอารมณ์อย่าบอกใครเลยทีเดียว
2. เพลงในเกมก็เพลินดีนะ
ถึงแม้ว่าการเลือกเพลงในเกมจาก Ubisoft จะไม่โดนใจเท่าฝั่ง EA และไม่ได้มีเอกลักษณ์ขนาด Rockstar แต่เพลงในเกม Watch Dogs นั้นก็ต้องบอกเลยว่าจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่ดีและร่วมสมัยเลยทีเดียวครับ ยิ่งถ้าใครเป็นแฟนเพลงแนวอินดี้ป็อปน่าจะถูกใจเพลงจาก Vampire Weekend อย่าง Diana Young แต่ทว่าข้อเสียของเพลงในเกมนี้ก็คือเพลงจำนวนน้อยไปหน่อยโดยมีเพียงแค่ 23 เพลงเท่านั้น ( ไม่นับพวก score ในเกมนะครับ ) และการจะหามาฟังได้นั้นก็ต้องไปทำการปลดล็อคตามเงื่อนไขของเกมเสียก่อนด้วย เรียกได้ว่ากว่าจะได้ฟังกันครบนั้นก็ใกล้จะจบเกมกันเลยทีเดียว ( บางคนเล่นเนื้อเรื่องหลักจนจบแล้วยังได้ฟังไม่ครบเลยก็มีครับ )
3. บรรยากาศในเกมที่ดูมีเรื่องราว
อีป้านี่พึ่งมาเที่ยวเมืองไทยด้วยนะ!?
จุดหนึ่งที่ Watch Dogs กินขาดเลยก็คือการที่ผู้เล่นสามารถใช้ ctOS ในการดูข้อมูล NPC ที่เดินสวนกันไปมาได้อย่างไม่มีหมดนี่แหละครับ คุณสามารถดูได้ว่าอีป้าข้างหน้านั้นพึ่งไปเมืองไทยมานะ ตาลุงข้างๆดันเป็นพวกกามที่ชอบเสร็จกิจด้วยปลายเท้าของหญิงสาวหรือแม้กระทั่งแฮคเพื่อเข้าไปดูข้อความแชทหรือข้อความเสียงการคุยโทรศัพท์ของตัวละครในเกมก็ได้เช่นกัน แต่อย่างไรก็ดีมันไม่ได้มีหลากหลายมากขนาดหลายล้านโดยไม่มีซ้ำหรอกครับ ก็มีกันบ้างแต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมรู้สึกได้ว่าตัวละครหลักของเราไม่ได้เป็นคนเดียวที่มีการดำเนินเรื่องราวไปนะ ตัวละครผู้คนอื่นๆที่เดินสวนกันมันก็มีการดำเนินชีวิตของมันร่วมไปกับเราด้วยเช่นกัน
4. มีหลายสิ่งให้เลือกทำ
แมงมุมยักษ์นั่นคือหนึ่งใน Mini Game ของ Watch Dogs
ถึงแม้ผมจะบอกว่าในเกมนี้มีหลายสิ่งให้เลือกทำนั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะสามารถเสื้อผ้าหน้าผมแต่งรถได้เป็นสิบคันแต่อย่างใด ในเกมนี้คุณทำไม่ได้แม้กระทั่งการนำรถสุดโปรดไปเก็บไว้ด้วยซ้ำ ( จะเก็บไว้ทำไมกันเล่าในเมื่อคุณโทรสั่งได้ราวกับร้านอาหารตามสั่งข้างบ้านคุณเลยนั่นแหละ ) ด้วยความที่ตัวเกม Watch Dogs อ้างอิงรูปแบบเกมในยุคปัจจุบันของทาง Ubisoft ที่จะต้องมีการปลดพื้นที่ในรูปแบบของ ctOS Tower ( เทียบได้กับหอคอยต่างๆใน Assassin’s Creed และเสาส่งสัญญาณวิทยุใน Far Cry ) , การเก็บ Collectible ที่ไม่ต้องไปตามหาให้วุ่นวายเพราะ Ubisoft ได้ใส่ตำแหน่งของมันลงมาในเกมเป็นที่เรียบร้อยคล้ายกับการตามล่าหอหีบสมบัติในเกม Assassin’s Creed และ Far Cry เช่นกัน นอกจากนี้ยังมี Gang Hideout ให้ไปถล่มลูกสมุนมากมาย ( เทียบได้กับการ Liberate Camp ใน Far Cry ) และยังมีมินิเกมอีก 4-5 อย่างที่ทำให้เกมนี้มีความเพลิดเพลินในรูปแบบของมันอยู่บ้าง
5. Open World เกรด A หนึ่งเดียวในช่วงเวลานี้
เราทุกคนต่างรู้ดีอยู่แก่ใจว่าการที่พูดถึงเกมอย่าง Watch Dogs เราก็ต้องไม่พ้นการนำไปเปรียบเทียบกับเกมแนวเดียวกันระดับตำนานอย่าง Grand Theft Auto บางคนเทียบกับภาค IV บางคนเทียบกับภาค V แต่ทว่าถ้าหากไม่ใช่ Watch Dogs แล้วจะเป็นเกมไหนได้อีกล่ะที่จะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้สำรวจเมืองและผู้คนได้อย่างอิสระสำราญใจในช่วงเวลานี้ถ้าไม่นับเกมเก่าและนับเฉพาะแพลตฟอร์ม PC
นี่ก็คือ 5 สิ่งสุดประทับใจในเกม Watch Dogs จากผมครับซึ่งก็ต้องขอย้ำอีกครั้งตรงนี้ว่านี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น ผมไม่ได้จะบอกว่าเกมมันดีเลิศประเสริฐศรีชนิดที่ว่าแตะต้องไม่ได้และก็ไม่ได้บอกว่าเกมมันแย่ชนิดที่ว่าถ้าคุณจะเล่นเกมนี้ล่ะก็เอาเวลาไปนอนเกาสะดือเสียดีกว่า เพราะในปัจจุบันจากการคาดการณ์ผมก็น่าจะเล่นเกมนี้มาเป็นเวลาพอสมควรแล้วและความสนุกที่มันมีให้ก็ยังคงไม่จางหายไป แต่สำหรับใครที่เกลียดเกมนี้เข้าไส้ ไว้ในโอกาสหน้าผมจะมาพูดถึง 5 เหตุผลที่คุณต้องร้องยี้ให้ Watch Dogs ละกันครับแต่จะมาเมื่อไหร่ จะเขียนตอนไหนก็ไม่สามารถบอกได้นะครับ ติดตาม GamingDose.com กันต่อไปครับผม ขอบคุณครับ
ขอขอบคุณ Digitalkeystore สำหรับการสนับสนุนเกม Watch Dogs
