BY Aisoon Srikum
27 Sep 23 4:55 pm

6 เกมไอเดียแจ่ม แต่เล่นแปปเดียว จบ !

1,916 Views

หนึ่งในปัจจัยที่ใช้ในการตัดสินใจที่จะเล่นเกมแต่ละเกม หลายคนอาจจะดูที่จำนวนชั่วโมงที่ใช้ในการเล่นเกมเกมนั้นได้ เพราะถ้ายาวก็อาจจะคุ้มค่า สั้นไป อาจไม่ค่อยเวิร์ค แต่ก็มีบ้างเช่นกันที่หลายเกมเป็นเกมที่ดี แต่มันก็สั้นไปหน่อย สั้นจนรู้สึกว่าถ้ามันยาวกว่านี้ได้จะดีมาก และนี่คือวิดีโอเกมยอดเยี่ยม แต่ใช้เวลาในการเล่นจบเร็วมาก เพราะเกมมันสั้นสุด ๆ !

1. Superhot

เกมสไตล์เดินหน้ายิงแหลกสุดอาร์ท ที่ผู้เล่นจะได้ใช้เวลาในการคิด วิเคราะห์ และประมวลผลว่าจะจัดการกับศัตรูตรงหน้ายังไง ภายในเวลาที่จำกัด Superhot ใช้เทคนิคกระสุนสโลว์โมจากหนังดังอย่าง The Matrix มาดัดแปลงเพิ่มเติมลูกเล่น ทำให้เกมเพลย์สนุกมาก และมันยังโดดเด่นในด้านของเนื้อหาและงานศิลป์ที่แม้จะใช้เฉดสีไม่เยอะ แต่ก็โดดเด่นและเป็นที่จดจำ ชนิดที่ว่าหากเห็นรูปก็พอจะเดาเกมออกได้เลยว่ามันคือเกมอะไร ปัญหาเดียวของเกมนี้คือมันสั้นเกินไปมาก ๆ ตัวเกมสามารถจบได้ภายในเวลาเพียง 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น และหากใครเล่นจนคล่องแล้ว สามารถสปีดรันจบได้ในเวลา 45 นาทีเท่านั้น แม้จะมีภาคต่อตามออกมา แต่ไอเดียของภาคแรกก็นับว่าน่าเสียดายมาก ๆ ที่มันสั้นจนเกินไป

2. What Remains of Edith Finch

เรื่องราวของบ้านตระกูล Finch ที่เราจะต้องมาสืบหาเบาะแสการตายของคนในบ้านนี้ เป็นเกมสไตล์สืบสวนสอบสวน ที่ผู้เล่นจะต้องค้นหาไอเทม สัมผัสกับช่วงเวลาสุดท้ายของสมาชิกในบ้านตระกูล Finch และแบ่งเนื้อหาออกเป็นตอน ๆ ซึ่งในแต่ละตอน จะมีกลไก เกมการเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่นของ Barbara Finch ที่นำเสนอแบบหนังสือการ์ตูนสยองขวัญ หรือ Molly Finch ที่เป็นวัยเด็ก เต็มไปด้วยจินตนาการ ทำให้เราได้เจอกับสภาพแวดล้อมสุดบันเทิง ทั้งสิงสาราสัตว์และอื่น ๆ หรือโลกแฟนตาซีของ Lewis Finch ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ตัวเกมนำเสนอความสนุกแบบก้าวกระโดดตลอด เวลา แต่น่าเสียดายที่ตัวเกมมีความยาวเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น ถือว่าสั้นเกินไป สำหรับความสนุกระดับนี้ ใครชอบเกมเนื้อเรื่อง สายสืบสวนสอบสวน ไม่ควรพลาดเกมนี้จริง ๆ

3. Metroid Dread

ผลงานระดับสุดยอดของ Nintendo การกลับมาของ Samus Aran ที่หวดยอดขายไปได้มากถึง 3 ล้านชุด และโค่น Metroid Prime ลงไปได้ กลายเป็นเกมภาคที่ขายดีที่สุดในซีรีส์นี้ สิ่งที่แฟน ๆ เสียดายกัน คือเรื่องของความยาวตัวเกม เพราะภาคนี้อุตส่าห์ได้ลงให้กับเครื่องรุ่นใหม่อย่าง Nintendo Switch ทั้งที แต่ตัวเกมกลับไม่ได้มีเนื้อหาที่โดดเด่นเพิ่มเติม ไม่ใช่ว่าเกมมันไม่ดี มันดีจนผู้เล่นรู้สึกว่าสั้นเกินไป เพราะใช้เวลาเล่นจริง ๆ วันเดียวก็อาจจะจบเกมได้แล้ว งานนี้ต้องรอดูว่า จากความยอดเยี่ยมและกระแสตอบรับที่ดีของเกมภาคนี้ ภาคใหม่นี้จะได้คอนเทนต์หรือชั่วโมงการเล่นที่เยอะขึ้นได้หรือไม่

4. Mirror’s Edge

ก่อนที่ DICE จะหันมาทุ่มทุนสร้างให้กับ Battlefield อย่างเต็มรูปแบบ หลายคนน่าจะจำเกมหมวยโดดตึกอย่างซีรีส์ Mirror’s Edge ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากฉากไล่ล่าสุดเดือดของหนังแฟรนไชส์ Jason Bourne ตัวเกมจัดเต็มให้ผู้เล่นทั้งการปีนที่สูง ไต่เชือก กระโดดข้ามตึกต่าง ๆ ในตอนนั้นตัวเกมมีงานภาพที่ล้ำขึ้นมาอีกขั้นด้วยเทคโนโลยี PhysX แต่ในขณะที่ผู้เล่นกำลังเพลิดเพลินกับเกม เกมก็จบลงด้วยเวลาการเล่นเพียง 6-7 ชั่วโมง เพราะแม้ฉากหลังจะดูดีและยิ่งใหญ่ แต่เกมก็ไม่ได้พาเราไปสำรวจโลกแบบเจาะลึกขนาดนั้น และโหมดเนื้อเรื่องก็ค่อนข้างที่จะยืดเยื้อไปนิด ขัดกับเกมเพลย์ที่สนุกอย่างไม่น่าเชื่อ จึงไม่แปลกใจที่ไม่กี่ปีถัดมา เราจะได้เล่นเกมภาคต่อของมันใน Mirror’s Edge: Catalyst

5. Death’s Door

เกมน้องใหม่ที่เพิ่งวางจำหน่ายกันไปเมื่อปี 2021 ที่ผสมผสานกลิ่นอายความตึงมือเอาไว้ในรูปแบบของเกมยาก เราจะได้รับบทเป็นอีกายมทูตที่ต้องออกไปรวบรวมวิญญาณของสัตว์ประหลาดที่ยังไม่พร้อมจะตาย แต่ในขณะที่ออกเก็บเกี่ยวดวงวิญญาณ เจ้าอีกาก็ดันไปขุดคุ้ยเจอแผนร้ายของเจ้านายตัวเอง ตัวเกมนำเสนองานภาพที่ลื่นไหล และโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เพลงประกอบ รวมไปถึงบอสที่น่าจดจำในด้านเกมเพลย์การต่อสู้และการเล่น แถมยังมีตัวละครที่มีเสน่ห์อีกต่างหาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Death’s Door มีความยาวไม่เกิน 10 ชั่วโมงเท่านั้น อาจเพราะทีมสร้างไม่ได้ประเมินว่าเกมจะนิยมขนาดนั้น จึงเขียนบทและวางแผนการพัฒนามาสั้น ๆ แต่เกมมีศักยภาพเกินกว่าจำนวนชั่วโมงการเล่นจริง ๆ

6. Resident Evil 3

แม้จะโดนสับเละในเรื่องของการที่ตัวเกมตัดเนื้อหาบางอย่างลงไปมาก จนทำให้ใครหลายคนไม่พอใจ แต่ที่น่าสนใจของเกมภาคนี้คือระบบเกมเพลย์การเล่นที่สนุกมาก ๆ การตีความระบบ Dodge แบบใหม่ และการสวนกลับเหล่าซอมบี้ เป็นที่น่าเสียดายมากที่คอนเทนต์ของ Resident Evil 3 ในเวอร์ชั่น Remake ถูกตัดจนเหี้ยน และเหลือชั่วโมงการเล่นเพียงแค่ 6-7 ชั่วโมงเท่านั้น ยิ่งกว่านั้น สายสปีดรันที่เล่นเซียน ๆ สามารถจบได้ใน 3-4 ชั่วโมงด้วยซ้ำไป ทำให้สิง่ใหม่ที่ทำได้ดี ไม่ได้ถูกใช้ให้เหมาะสมหรือคู่ควร และกลายเป็นตราบาปของการ Remake มาจนถึงทุกวันนี้ เกมเพลย์ดี แต่ความยาวหายไปเพียบ น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง

Aisoon Srikum

Back to top