หนึ่งในเกมแนว Survival Horror ที่น่าจับตามองที่สุด ส่งท้ายปีนี้ น่าจะไม่หนีไม่พ้นผลงานใหม่ของ Glen Schofield ผู้สร้าง Dead Space ให้กลายเป็นเกมสยองขวัญระดับตำนาน เขากลับมาพร้อมผลงานใหม่ ที่จะมาสร้างความสยองขวัญให้กับวงการเกมอีกครั้งกับ The Callisto Protocol และตอนนี้ตัวเกมก็ใกล้จะวางจำหน่ายแล้วในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ วันนี้เราจะพามาดูเรื่องราวต่าง ๆ ที่ควรรู้ก่อนซื้อเกมนี้มาเล่น ก่อนไปผจญภัยกับเหตุการณ์ลึกลับในคุกกลางอวกาศเกมนี้กัน
1. เกมนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งในจักรวาล PUBG
ใครที่ติดตามข่าวการเปิดตัวเกมนี้มาตั้งแต่แรก จะรู้ดีว่า ในช่วงแรกของการเปิดตัว The Callisto Protocol เราน่าจะได้เห็นข่าวคราวกันแล้วว่า แรกเริ่มเดิมที เกมนี้ถูกตั้งให้อยู่ในจักรวาลของ PUBG เกม Battle Royale สุดโด่งดังที่ออกมาเมื่อปี 2017 แต่เพราะทำไปทำมา ดูเหมือนว่าไอเดียในการทำเกมของพวกเขาจะเริ่มออกไปไกลมากขึ้นทุกที ท้ายที่สุดแล้ว The Callisto Protocol จึงกลายเป็นเกม Standalone ที่มีเนื้อหาเป็นของตัวเอง และ Striking Distance Studio นั้น อยู่ภายใต้การดูแลของ KRAFTON สตูดิโอผู้สร้าง PUBG นั่นเอง
2. A.I. ของเกมนี้จะฉลาดมาก และกดดันผู้เล่นตลอดเวลา
ลำพังแนวเกมก็ว่าน่ากลัวแล้ว แต่สิ่งที่จะมาช่วยทำให้เกมมันน่ากลัวขึ้นก็คือระบบ A.I. ที่ถูกออกแบบมาอย่างซับซ้อน Mark James หัวหน้าฝ่ายเทคนิคของตัวเกมออกมาเปิดเผยว่า บางครั้งศัตรูอาจจะไม่ได้โจมตีคุณ แต่ออกมาทำให้กลัวเฉย ๆ รวมไปถึงมันจะมีการซุ่มโจมตี และถ้าคุณพยายามจัดการมันด้วยอาวุธระยะไกล มันจะหลบหนี และพยายามหาทุกทางในการเข้าประชิดตัวคุณแทน เอาง่าย ๆ ว่า เตรียมรับมือกับ A.I. ศัตรูสุดแสบได้เลย มันน่าจะเพิ่มประสบการณ์ในการเล่นเกมนี้ให้สูงมากขึ้นเป็นเท่าตัว
3. หลากหลายเส้นทางให้ลองเลือกเล่น พร้อมความยาวเกม 10 ชั่วโมงขึ้นไป
การจะจบเกมนี้ได้นั้น ไม่จำเป็นต้องเลือกเล่นเส้นทางเดียวเสมอไป ภายในเกมจะมีทางเลือก ทางแยกมากมายให้ผู้เล่นได้ลองดู จะไถผ่านไป หรือจะลองไปสำรวจดูก็ย่อมได้ และยังมีความลับต่าง ๆ มากมาย ซ่อนอยู่ในเกมแห่งนี้ รอให้ผู้เล่นไปค้นหา ไม่แน่ว่าทุกอย่างอาจไม่สามารถสำรวจจนครบได้ในการเล่นรอบเดียว ต้องมีการวนมาเล่นซ้ำ เปลี่ยนเส้นทาง เพื่อออกสำรวจ และทางผู้พัฒนาเผยว่า ตัวเกมจะมีความยาวเฉลี่ยอยู่ที่ 12-14 ชั่วโมง หากเล่นซ้ำไปอีกก็รับรองว่าคุ้มค่า คุ้มราคาแน่นอน
4. เน้นการสู้ระยะประชิดมากกกว่าใช้ปืนยิง
ในเกม Survival Horror เกมอื่น ๆ เราอาจจะได้อาวุธปืนเอาไว้จัดการต่อสู้กับศัตรู แต่สำหรับ The Callisto Protocol นี้ จะเน้นไปที่อาวุธระยะประชิดเป็นหลัก แถมไม่ใช่อาวุธประชิดสายโหด แต่จะเป็นพวกกระบองไฟฟ้า ที่เอาไว้ขัดจังหวะศัตรูเสียมากกว่า แต่สำหรับอาวุธระยะไกลอย่างปืน ก็ใช่ว่าจะไม่มีให้ได้ใช้กันเลย เพียงแต่กระสุนในเกมจะค่อนข้างจำกัด หายาก การสู้ระยะประชิดจึงสำคัญกว่า นอกจากนั้นเกมนี้ยังมี GRP หรือ The Grip อาวุธที่ใช้สร้างแรงโน้มถ่วง ทำให้คุณสามารถโยนสิ่งของ หรือศัตรูใส่ได้แล้วทำให้เกิดเอฟเฟคท์ต่าง ๆ ได้นั่นเอง และ The Grip นี้จะถูกผูกเข้ากับระบบ Environment Kill หรือการกำจัดศัตรูโดยใช้สภาพแวดล้อมเป็นตัวช่วยได้
นอกจากนั้นเกมยังมีการเปิดเผยว่า มีรูปแบบการตายของตัวละครหลากหลายรูปแบบ แถมยังมีถ้วยรางวัลสำหรับคนที่ตายครบทุกแบบอีกด้วย งานนี้นอกจากจะเคลียร์เกมได้แล้ว อาจจะต้องมาดูกันด้วยว่า ทำยังไงให้ตายครบทุกวิธี
5. คงรูปแบบการนำเสนอคล้าย ๆ Dead Space ในเรื่องของ UX / UI
ใครที่ชื่นชอบการออกแบบหน้าจอแบบโล่ง สะอาด สบายตา ในส่วนของ UX / UI ที่ค่อนข้างคลีน และสบายตาเป็นอย่างมากใน Dead Space เช่น หลอดเลือด หลอดพลังชีวิตจะถูกแสดงไว้เป็นส่วนหนึ่งของตัวละคร น่าเสียดายที่ข้อมูลตรงส่วนนี้ถูกปล่อยออกมาน้อยมาก เมื่อเทียบกับเรื่องราวของเนื้อหาหรือเกมเพลย์ ซึ่งต้องรอดูกันต่อไปว่าจะเป็นยังไง
6. สองตัวละครหลัก โดยนักแสดงชื่อดัง
เรื่องนี้คนที่เป็นเกมเมอร์อาจจะไม่สนใจมาก แต่สำหรับแฟน ๆ ภาพยนตร์หรือซีรีส์ เห็นชื่อนักแสดงก็อาจจะอยากซื้อเกมมาเล่นด้วยเลย เพราะสองนักแสดงนำของเกมนี้ ตัวเอกอย่าง Jacob Lee นั้น ได้ Josh Duhamel พระเอกสุดเท่จาก Transformers มาให้เสียงพากย์ ส่วนละครหญิงอีกคนอย่าง Dani Nakamura นั้น ได้ Karen Fukuhara นักแสดงสาวที่โด่งดังเป็นพลุแตกจากซีรีส์ The Boys เข้ามารับบทและพากย์เสียง ซึ่งเรื่องของ Acting และการแสดงนั้น บอกเลยว่าน่าสนใจ ว่ามันอาจจะเป็นเกมที่มีความสมจริงในแง่การแสดงมากขึ้น
7. มีคอนเทนต์อัปเดตหลังเกมวางจำหน่ายต่อ
ข่าวดีสำหรับคนที่ชื่นชอบการสนับสนุนตัวเกมแบบยาว ๆ ทาง Striking Distance ออกมาเปิดเผยว่า หลังเกมวางจำหน่ายแล้วก็จะมีการอัปเดตต่อเนื่องให้กับตัวเกมเป็นเวลา 1 ปีเต็มด้วยกัน แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดและเนื้อหาการอัปเดตเสริม ว่าจะมีอะไรบ้าง แฟนเกมก็รอติดตามกันในอนาคต แต่ที่แน่ ๆ เกมนี้ซัพพอร์ตกันไปอีกยาว ๆ แน่นอน