ตามปกติแล้ว ถ้าเป็นสื่อบันเทิงประเภทภาพยนตร์ ภาคแรกมักจะเป็นภาคที่ยอดเยี่ยมที่สุด ก่อนที่ภาคต่ออาจจะดรอปลง หรืออาจจะมีบ้างที่ดี แต่ก็หาได้ยากซะเหลือเกิน กลับกันกับวิดีโอเกม ที่บางเกมยิ่งทำยิ่งพีค และเป็นที่น่าจดจำ และหลาย ๆ ซีรีส์วิดีโอเกม ที่ยอดเยี่ยมแบบถึงขีดสุดเมื่อมันเดินทางไปถึงภาคที่ 3 จนกลายเป็นเหมือนเลขที่เชื่อถือได้แบบงง ๆ ว่า ภาค 3 นี่แหละคือภาคที่สุดยอดที่สุดของวิดีโอเกม แต่จะมีเกมอะไรที่ภาค 3 ยอดเยี่ยมมาก ๆ วันนี้มาดูกัน
1. Mass Effect 3
ผลงานของ BioWare ที่แม้ว่าหลายคนจะรู้สึกผิดหวังกับตอนจบในช่วงแรก แต่ก็มีการอัปเดตเพิ่มเติมตามมา แต่สำหรับเกม Mass Effect 3 แล้ว ต้องบอกว่ามันเป็นผลงานที่ทีมสร้างเกมนี้ สร้างขึ้นมาด้วยใจรักในผลงานของพวกเขาอย่างแท้จริง โครงเรื่อง เนื้อหา คอนเทนต์ ได้รับการปรับปรุงให้ขึ้นสู่จุดสูงสุดของซีรีส์ Mass Effect และระบบการต่อสู้ก็เข้าขั้นยอดเยี่ยมอย่างสมบูรณ์แบบ (ในช่วงที่เกมออก) รวมไปถึงการเขียนบท บทสนทนาที่คมคายมาก เรียกได้ว่าเป็นภาคที่สุดยอดที่สุดแล้ว และแน่นอนว่าภาคต่ออย่าง Andromeda ก็ยังไม่อาจเทียบเท่าได้
2. The Legend of Zelda: A Link to the Past
A Link to the Past นับเป็นเกมซีรีส์ Zelda ภาคที่ 3 แม้ในชื่อเกมจะไม่มีเลข 3 ก็ตาม แต่มันยอดเยี่ยมเพราะเป็นผลงานที่ Nintendo ตกผลึกไอเดียและความสามารถของพวกเขาจากเกม 2 ภาคแรก ไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรื่องแบบเดินทางผ่านโลกคู่ขนาน ระบบการต่อสู้ และโลกภายในเกม ทำให้แฟน ๆ ถือว่ามันเป็นอีกหนึ่งเกม Zelda ที่ดีที่สุด ในขณะที่ 2 ภาคแรกนั้น ถึงแม้ว่าเหมาะที่จะเล่น แต่ภาคนี้แฟน ๆ ทุกคนที่เคยเล่น ล้วนชืนชอบภาคนี้
3. Quake 3
ใครจะไปคาดคิดว่า เกมที่มีแต่ระบบ Multiplayer จะกลายเป็นอีกหนึ่งตำนานที่แฟนเกมชื่นชอบและพูดถึง Quake 3 เข้าขั้นสมบูรณ์แบบอย่างที่ภาคก่อน ๆ ไม่เคยทำได้ ไม่ใช่ว่ามันดีทุกอย่าง แต่เพราะมันโฟกัสอย่างใดอย่างหนึ่งได้เป็นอย่างดี เหมือนคนที่รู้ว่าจุดแข็งของตัวเองคืออะไร แล้วมุ่งเน้นพัฒนาไปที่จุดนั้น ในกรณีของ Quake ก็คือเกมการเล่นแบบ Deathmatch ที่ทำให้ประสบการณ์การเล่นโหมดนี้นั้น ขึ้นสู่จุดสูงสุดและกลายเป็นสิ่งที่เกมอื่น ๆ ต้องทำตาม Quake 3 แทบจะกลายเป็นเกมต้นแบบให้กับโหมดเกม Deathmatch ในเกมยุคต่อมาเลยทีเดียว
4. Halo 3
ไม่ใช่แค่ Quake 3 ที่ทำให้เกม Shooting Multiplayer ได้รับความนิยม สำหรับในปี 2007 นั้น Halo 3 ถือเป็นการเปิดตัวที่ยิ่งใหญ่มากครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์วิดีโอเกม แฟนเกมชาวไทยอาจไม่รู้จักมาก เพราะไม่ได้นิยมเครื่อง Xbox กันในอดีต งานเปิดตัวภาคนี้นั้น ได้ Zac Efron และ Pharell Williams มาร่วมเปิดตัวด้วย แต่ประเด็นสำคัญจริง ๆ ของมันคือตัวเกมที่เข้าขั้นเพอร์เฟคท์ ทั้งโหมดแคมเปญเนื้อเรื่อง และโหมด Multiplayer ที่ครบเครื่องมาก จนทำเอาแฟน ๆ หลายคนไม่หลับไม่นอน ยิง Halo กันยาว ๆ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เซิร์ฟเวอร์เกมบน Xbox 360 ได้ปิดตัวลง แฟน ๆ ต่างออกมาแสดงความเสียใจกันเป็นอย่างมาก เป็นเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี ว่า เลข 3 ของ Halo คืออีกหนึ่งตำนานจริง ๆ
5. The Witcher 3
เกมนี้คงไม่ต้องสาธยายอะไรให้มากความ เพราะนี่คือผลงานระดับขึ้นหิ้งอีกเกม ที่แม้เวลาจะผ่านมากว่า 7 ปี มันก็ยังคงยอดเยี่ยม แถมถูกสานต่อด้วยการนำไปต่อขยายเป็นทั้งซีรีส์ แอนิเมชั่น ภาคต่อ และอีกมากมาย The Witcher 3 ขึ้นสู่จุดสูงสุดด้วยกราฟิกทีสวยงาม ระบบเกมเพลย์การเล่นสุดล้ำลึก เนื้อเรื่องที่แตกย่อยไปได้หลายเรื่องราว ภารกิจเสริมที่เข้มข้นไม่แพ้ภารกิจหลัก และ DLC เสริมที่ยิ่งใหญ่พอ ๆ กับการเป็นเกมใหม่ได้ทั้งเกม แม้ใครหลายคนจะอคติกับ CD Projekt RED ไปแล้วเรียบร้อยกับ Cyberpunk 2077 แต่เราไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า The Witcher 3 ก็ยังคงยอดเยี่ยมแบบที่หาเกมอื่นมาเทียบเคียงได้ยาก
6. Metal Gear Solid 3
เกมสองภาคแรก ไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่ภาค 3 ของ Metal Gear Solid ทำให้มันดีมากยิ่งขึ้นไปอีก และภาค 2 ยังมีจุดบกพร่องที่หลายคนไม่ค่อยจะชอบนัก ภาคนี้จึงเป็นการแก้ไขสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นให้ดีขึ้น เช่น ระบบการพรางตัวจากศัตรู การแต่งชุดจะส่งผลกับการพรางตัวอย่างมาก เรื่องของการต่อสู้ การเล่าเรื่องภายในเกม ความหลากหลายในการเอาชนะบอสตัวใดตัวหนึ่ง เช่นรอให้บอสแก่ตายเอง.. และเป็นภาคที่มีเนื้อหาตราตรึงใจอย่างการเผชิญหน้ากับเดอะบอสด้วย เป็นเครื่องพิสูจน์และยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า Metal Gear Solid นั้น คือระดับตำนานอีกเกม
7. Far Cry 3
พูดถึงภาค 3 แล้ว จะไม่ให้มีเกมนี้เลย แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ Far Cry 3 ถือเป็นภาคที่ทำให้ใครหลายคนรู้จักชื่อของ Far Cry ไม่ว่าจะเป็นกราฟิกที่สวยงาม ระบบเกมเพลย์การเล่นที่เข้าถึงง่ายขึ้นมาก ต่างจากภาค 2 ที่ไปทาง Hardcore เลยด้วยซ้ำ บรรยากาศหมู่เกาะชายทะเลที่งดงาม และดูทำให้ทุกคนเข้าถึงได้ และสิ่งที่เป็น Iconic ที่สุด เวลาพูดถึง Far Cry 3 ก็ย่อมต้องเป็น Vaas ที่รับบทโดย Michael Mando ที่ได้สร้างตำนานไว้กับ Far Cry ภาคนี้ แม้ว่าเกมเพลย์จะสะดวกและง่ายกว่าภาคก่อนหน้า แต่เพราะการเข้าถึงง่ายแบบนี้นี่แหละ มันเลยกลายเป็นเกมที่ทุกคนชื่นชอบ และเป็นตำนาน