ประเทศสหรัฐฯ มีจำนวนผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์กว่า 5 ล้านคน และคาดว่าจำนวนผู้ป่วยอาจเพิ่มสูงขึ้นเป็น 16 ล้านคนภายในปี 2050 อย่างไรก็ตาม นวัตกรรมใหม่ ๆ ได้เข้ามาช่วยลดอาการของโรคดังกล่าวลง อย่างเช่น ชะลอภาวะสูญเสียความจำ หรือช่วยให้ผู้ป่วยเรียบเรียงความคิดได้ดีขึ้น แต่ที่ผ่านมา ยังไม่มีเทคโนโลยีใดสามารถตรวจพบสัญญาณของโรคดังกล่าวได้ ซึ่งถือว่าเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งของโรคทางประสาท
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย University of California, Berkeley ในสาขา Radiology & Biomedical Imaging Department and the Big Data in Radiology ได้ค้นพบวิธีตรวจจับอาการและสัญญาณก่อโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งพวกเขาเพิ่งได้ตีพิมพ์งานวิจัยไปเมื่อนานมานี้ โดยพวกเขาได้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์สำหรับตรวจจับโรคดังกล่าวด้วยการสแกนสมอง
งานวิจัยของพวกเขา ซึ่งมีชื่อว่า “A Deep Learning Model to Predict a Diagnosis of Alzheimer Disease Using 18F-FDG PET of the Brain” ได้ถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร Radiology เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
ดร. Jae Ho Sohn หนึ่งในทีมนักวิจัยของโครงการนี้กล่าวว่าพวกเขาตรวจจับสัญญาณของโรคผ่านแพทเทิร์นการเปลี่ยนแปลงของสารกลูโคสบนเนื้อเยื่อของสมอง การพบเจอการเปลี่ยนแปลงของเมตาบอลิซึมในร่างกายมนุษย์เป็นสิ่งแพทย์ตัวจริงไม่สามารถทำได้โดยง่าย
พวกเขาได้พัฒนาอัลกอริทึมในรูปแบบ Deep Learning ขึ้นมาเพื่อใช้งานร่วมกับการเอกซเรย์ด้วยคอมพิวเตอร์ในการตรวจจับความผิดปกตินี้ พวกเขาให้ AI ที่ถูกพัฒนาขึ้นเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงของสมองผ่านรูปเอกซเรย์ทางการแพทย์กว่า 2,100 รูป ผลลัพธ์ที่ได้คือระบบปัญญาประดิษฐ์สามารถตรวจพบสัญญาณของโรคอัลไซเมอร์ได้ภายในเวลาไม่กี่นาที
จากการทดสอบร่วมกับคนไข้กว่า 40 คน ผลการตรวจสอบของระบบนี้ถูกต้องทั้งหมด 100% ซึ่งเร็วกว่าการตรวจสอบผ่านแพทย์และเครื่องมือแพทย์อย่างที่ผ่านมาด้วยกันถึง 6 ปี นั่นหมายความว่าผู้เข้ารับการรักษาสามารถรักษาอาการของโรคได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยไม่ต้องปล่อยให้อาการอัลไซเมอร์ลุกลามโดยไม่รู้ตัว
นักวิจัยกลุ่มนี้มีแผนพัฒนาเทคโนโลยีของพวกเขาให้สามารถตรวจจับสัญญาณผิดปกติของโรคที่เกี่ยวกับสมองอื่น ๆ ได้ในอนาคต
https://www.youtube.com/watch?v=CplMMHpGOTc
