เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา Apple ได้ออกคำสั่ง ยกเลิกการผลิต iPhone รุ่นใหม่ทั้ง 3 โมเดลที่เพิ่งถูกเปิดตัวไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ได้แก่ iPhone XS, iPhone XS Max และ iPhone XR ตามที่สำนักข่าว The Wall Street Journal รายงาน
Apple ได้สร้างความประหลาดใจปนผิดหวังให้กับนักลงทุนที่ Wall Street หลังจากที่บริษัทได้พยากรณ์ยอดจำหน่ายสินค้าของไตรมาสสุดท้ายต่ำกว่าที่นักลงทุนต้องการ ซึ่งเป็นสัญญาณอย่างหนึ่งที่สื่อว่าความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อ iPhone ซบเซาลง
บริษัท Japan Display ผู้ผลิตหน้าจอ iPhone กำหนดยอดผลิตอะไหล่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา เพราะบริษัททราบดีว่ายอดขายของ iPhone ลดลงเป็นอย่างมาก นอกจากนี้แล้ว บริษัท IQE ผู้ผลิตชิปให้ผลิตภัณฑ์ของ Apple ก็คาดการณ์ว่าบริษัทคงผลิตชิ้นส่วนให้ Apple น้อยลงกว่าที่ผ่านมาเช่นกัน เนื่องจากอุปสงค์ของผู้บริโภคที่มีต่อ iPhone ลดลงกว่าแต่ก่อน
บริษัท Lumentum Holdings และบริษัท ams AG ซึ่งเป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ให้ผลิตภัณฑ์ของ Apple อย่างเช่น เทคโนโลยี FaceID ก็คาดการณ์จำนวนรายได้อาจจะน้อยลงเพราะสาเหตุดังกล่าวเช่นกัน
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา หุ้นของบริษัท Apple ลดลง 3% ส่งผลให้มูลค่าหุ้นของบริษัทตกไปที่ $186.38
Apple สั่งระงับการผลิต iPhone รุ่นใหม่เป็นจำนวนกว่า 20 กว่าล้านเครื่อง จากจำนวนทั้งหมดที่ Apple เคยสั่งบริษัทในเครือข่ายให้ผลิตออกมาที่ 70 ล้านเครื่อง และในปริมาณทั้งหมดนี้ iPhone XR ถูกระงับการผลิตด้วยจำนวนที่มากที่สุด
Apple วางจำหน่าย iPhone XS และ iPhone XS Max เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ส่วน iPhone XR ออกสู่ตลาดอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนตุลาคมปีนี้ นักวิเคราะห์หลายคน รวมถึงนักลงทุน ยังประหลาดใจที่ความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อ iPhone จซบเซาได้มากเพียงนี้ ด้วยเวลาเพียงแค่เดือนเดียว
Apple ยังไม่ออกความเห็นหรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมใดใดกับสื่อ
