ประเด็น Epic Games พยายามผูกขาดเกมก็ยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง แต่แน่นอนว่าเรื่องราวสามารถจบลงให้ทุกคนแฮปปี้ได้ ถ้าหากคู่แข่งยอมถอยก่อน เพราะล่าสุด ประธาน CEO คุณ Tim Sweeney กล่าวว่าถ้า Steam ปรับส่วนแบ่งให้ผู้พัฒนา 88% เท่า Epic Games Store จะเลิกธุรกิจผูกขาดเกมและอาจนำเกมของพวกเขาลง Steam อีกด้วย !
อ้างอิงจาก Dsogaming รายงานว่า CEO แห่ง Epic Games คุณ Tim Sweeney ตอบคำถามเกมเมอร์ที่ถามเขาเกี่ยวกับ Epic Games Store ว่าตอนนี้ภาพลักษณ์ทีมงานกำลังถูกมองในแง่ลบจากผู้เล่นทุกฝ่าย เพราะไม่ชื่นชอบโมเดลธุรกิจที่ร้านค้าพยายามผูกขาดผลิตภัณฑ์เกม ซึ่งจะดีกว่าไหม ถ้าหากมุ่งเน้นพัฒนาในส่วนของคอมมูนิตี้และฐานลูกค้า?
แต่คุณ Sweeney ยืนหยัดว่าจะดำเนินนโยบายผูกขาดเกมต่อไป เพราะการให้ส่วนแบ่งกับร้านค้าขายเกมถึง 30% ของกำไรทั้งหมดเป็นปัญหาอันดับหนึ่งของนักพัฒนาเกม PC, ตัวแทนจำหน่าย และคนทุกคนที่ทำอาชีพเหล่านี้เพื่อความเป็นอยู่ของตน ซึ่งพวกเขาพยายามแก้ไขจุดนี้ และวิธีนี้จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลง (ของวงการเกม)
That’s a loaded question! But Epic will stay the course. 30% store dominance is the #1 problem for PC developers, publishers, and everyone who relies on those businesses for their livelihood. We’re determined to fix it and this is the one approach that will effect major change.
— Tim Sweeney (@TimSweeneyEpic) April 24, 2019
และเกมเมอร์สอบถามคุณ Sweeney ต่อว่าถ้างั้นหาก Steam เปลี่ยนอัตรารับส่วนแบ่งจากการค้าเกม 30% เปลี่ยนเป็น 12% หรือ 10% ทางทีมงาน Epic จะยกเลิกการผูกขาดเกมหรือไม่?
ซึ่งคำตอบคือ ใช่ ! คุณ Sweeney ตอบกลับว่าถ้าหากแพลตฟอร์ม Steam ใช้นโยบายให้ส่วนแบ่งกำไรแก่ทีมผู้พัฒนาและผู้จัดจำหน่ายเกม 88% (นโยบายเดียวกับ Epic Games Store) “โดยไม่มีเงื่อนไข” ทางทีมงาน Epic จะจัดระเบียบร้านค้าใหม่ด้วยการยกเลิกผูกขาด Exclusives และอาจพิจารณาลงเกมของพวกเขาบน Steam
และถ้า Steam ทำแบบนั้น มันต้องเป็นโมเมนต์ที่น่าจดจำที่สุดในประวัติศาสตร์วงการเกม PC และเชื่อว่าสามารถปฏิวัติแพลตฟอร์มเกมที่จะเกิดขึ้นในยุคหน้า
Are you saying that if Valve decided to reduce its revenue share to 12% or even 10% that you would immediately stop doing exclusives? I mean, your fight would be won then, right?
— GV (@GV_Delchev) April 25, 2019
If Steam committed to a permanent 88% revenue share for all developers and publishers without major strings attached, Epic would hastily organize a retreat from exclusives (while honoring our partner commitments) and consider putting our own games on Steam.
— Tim Sweeney (@TimSweeneyEpic) April 25, 2019
คุณ Sweeney อธิบายเพิ่มเติมว่า “โดยไม่มีเงื่อนไข” นั่นหมายถึง วิดีโอเกมต้องสามารถเล่นข้ามแพลตฟอร์มหรือร้านค้าโดยไม่มีการเก็บค่า Tax เพิ่มเติม
และหากเกมเมอร์เล่นเกมบนแพลตฟอร์มอื่น สินค้าทุกอย่างที่ผู้เล่นเป็นเจ้าของอยู่แล้ว ต้องสามารถใช้งานได้ทุกแพลตฟอร์มโดยไม่มีข้อกำหนดยุ่งยาก ซึ่งนั่นเป็นจิตวิญญาณของระบบ Open Platform ที่คุณเข้ามาซื้อเกมและก็เล่นมันอย่างสนุกสนานทันที
More “no major strings attached”: if you play the game on multiple platforms, stuff you’ve bought can be available everywhere; no onerous certification requirements. Essentially, the spirit of an open platform where the store is just a place to find games and pay for stuff.
— Tim Sweeney (@TimSweeneyEpic) April 25, 2019
ก็ถือว่าเป็นการแสดงจุดยืนของทีมงาน Epic ที่พวกเขาต้องการให้อุตสาหกรรมเกม PC เติบโตยิ่งขึ้น ด้วยการเอาใจใส่ทีมพัฒนาด้วยนโยบายขอส่วนแบ่งจากการค้าเกมเพียง 12% และให้ทีมผู้สร้าง 88% ครับ