“พวกเราไม่มีการแบนและลงโทษทั้งผู้เล่น Fortnite หรือเหล่านักคิดคอนเทนต์ ในการแสดงความคิดเห็นต่อหัวข้อดังกล่าว” นี่คือประโยคพูดของ CEO Epic Games ที่ออกมาตั้งคำถามเกี่ยวกับประเด็นความขัดแย้งทางการเมืองของฮ่องกง-จีน ที่เริ่มลุกลามกระทบไปถึงวงการเกม กับสื่อบันเทิงแล้ว ณ ตอนนี้
เว็บไซต์ Polygon รายงานจากคุณ Tim Sweeney ฝ่าย CEO ของ Epic Games ได้ออกมาตอบคำถามถึงเจ้าสำนัก The Verge เกี่ยวกับประเด็นการแสดงความคิดเห็นหรือจุดยืนทางการเมืองในวงการวิดีโอเกม เขายืนยันว่าเกมเมอร์ทุกคน มีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ซึ่งเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน และไม่มีนโยบายการลงโทษผู้เล่นที่กล้าแสดงออกอีกด้วย
Epic สนับสนุนสิทธิ์ของทุกคนในการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง และการเคารพสิทธิมนุษยชน
พวกเราไม่มีการแบนและลงโทษทั้งผู้เล่น Fortnite หรือเหล่านักคิดคอนเทนต์ในการแสดงความคิดเห็นต่อหัวข้อดังกล่าว
นอกจากนี้ Sweeney กล่าวยืนยันกับผู้เล่น Twitter ที่ได้ถามเขาว่า “ถ้าเกิดว่า (สตรีมเมอร์ Tfue) บอกว่า “ปลดปล่อยฮ่องกง” ระหว่างการสัมภาษณ์หลังเกม คุณจะไม่มีมาตรการอะไรทั้งสิ้นใช่ไหม? ” ซึ่งนาย Sweeney ก็ตอบกลับสั้น ๆ ว่า “ถูกต้องแล้ว”
Exactly.
— Tim Sweeney (@TimSweeneyEpic) October 9, 2019
Sweeney ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า Epic Games เป็นบริษัทเอกชนของสหรัฐฯ และเขาเป็นผู้มีอำนาจควบคุมหุ้นทั้งหมด โดยมีบริษัท Tencent เป็นผู้ถือหุ้นประมาณ 40% กับผู้ถือหุ้นรายอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ Epic Games ยืนยันว่าไม่มีนโยบายในการแสดงจุดยืนทางการเมือง หรือเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
เพราะฉะนั้น เหตุการณ์การตัดความสัมพันธ์ระหว่าง Tencent กับ Epic Games จะไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ตราบใดที่เขาเป็นมีอำนาจถือหุ้นและเป็น CEO ของบริษัท Epic
Epic is a US company and I’m the controlling shareholder. Tencent is an approximately 40% shareholder, and there are many other shareholders including employees and investors.
— Tim Sweeney (@TimSweeneyEpic) October 9, 2019
Yes, absolutely. That will never happen on my watch as the founder, CEO, and controlling shareholder.
— Tim Sweeney (@TimSweeneyEpic) October 9, 2019
การแสดงความเห็นของคุณ Tim Sweeney ทำให้เกมเมอร์หลายคนออกมาชื่นชมเขา ในเรื่องการให้ความสำคัญต่อเรื่อง Freedom of Speech (เสรีภาพในการพูด) ให้ผู้เล่นเกมหรือคนทุกคน แล้วประเด็นความขัดแย้งทางเมืองที่เริ่มส่งผลกระทบต่อวงการเกมจะเป็นอย่างไรต่อไป ก็ต้องติดตามข่าวสารกันต่อไปผ่านทาง GamingDose ครับ