ถึงแม้เกมเมอร์หลายคนจะรู้สึกตื่นเต้นกับเครื่องเกมคอนโซลยุคหน้าอย่าง PlayStation 5 และ Xbox Series X ที่จะพร้อมวางจำหน่ายในช่วงปลายปี 2020 แต่มีสิ่งหนึ่งที่หลายคนต่างวิตกกังวล คือราคาขายเกมสำหรับ Next-Gen จะมีการเปลี่ยนมาตรฐานใหม่ด้วยการขายราคา 70 เหรียญฯ ซึ่งแพงกว่าราคาเดิมที่ขาย 60 เหรียญฯ ทำให้เกมเมอร์บางคนไม่เห็นด้วยกับไอเดียดังกล่าว แต่ CEO ของ Take-Two Interactive ไม่คิดเช่นนั้น
Strauss Zelnick CEO ของ Take-Two Interactive ได้ออกมาสัมภาษณ์ผ่านสื่อ Protocol โดยกล่าวปกป้องไอเดียการขึ้นราคาขายเกมสำหรับ Next-Gen เป็น 70 เหรียญฯ นั้นเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล และเชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเกมมากนัก
Zelnick ระบุว่าเพราะราคาขายเกมไม่ได้เปลี่ยนแปลงมานานกว่า 15 ปี ทั้งที่ต้นทุนการผลิตเกมตั้งแต่ปี 2005 จนถึงปัจจุบันสูงขึ้น 200-300% ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ผลิตภัณฑ์เกมเปลี่ยนไป โดยยกตัวอย่างชัดเจน เช่น Microtransactions เป็นต้น
พวกเราไม่ได้เปลี่ยนราคาขายเกมมานานกว่า 15 ปี และต้นทุนการผลิตเกมก็เพิ่มขึ้น 200-300% แต่ยิ่งไปกว่านั้น ในเมื่อไม่มีใครสนใจว่าต้นทุนการผลิตเกมต้องใช้เท่าไหร่ ก็ทำให้ผลิตภัณฑ์เกมเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากนี้ Zelnick วิเคราะห์ว่าถ้าหากราคาเกมมีการเปลี่ยนมาตรฐานใหม่ด้วยการขึ้นราคาเป็น 70 เหรียญฯ จะทำให้เกมมีคอนเทนต์จัดเต็มยิ่งขึ้น และการจ่ายเงินจริงในเกมจะกลายเป็นเพียงตัวเลือกเสริม
เราจะสามารถส่งมอบเกมที่ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ในราคาขายที่ 60 เหรียญฯ หรือ 70 เหรียญฯ มากกว่าเกม 60 เหรียญฯ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แล้วการจ่ายเงินจริงในเกมจะกลายเป็นเพียงตัวเลือกเสริมอย่างสมบูรณ์ ซึ่งมันจะเป็นประสบการณ์ที่น่าเหลือเชื่อ แม้ว่าคุณจะไม่ใช้เงินหลังจากการซื้อเกมครั้งแรกก็ตาม