Dead Island 2 ยังคงมีเควสต์กับกิจกรรมเสริมให้ทำ แต่หากอยากไปพื้นที่ใหม่ ก็ต้องเล่นเนื้อเรื่องเพื่อปลดล็อกก่อน
David Stenton ผู้กำกับเกม และ James Worral ผู้กำกับด้านครีเอทีฟจาก Dambuster Studios ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ Eurogamer เผยว่า Dead Island 2 จะไม่ใช่เกม Open-World อย่างเต็มรูปแบบ ที่ผู้เล่นสามารถเดินทางไปไหนก็ได้ตั้งแต่เริ่มต้น
นักพัฒนาเกมอธิบายว่า เมือง Los Angeles ใน Dead Island 2 มีทั้งพื้นที่ย่านขนาดเล็ก, ย่านขนาดใหญ่ และย่าน “หรู” ที่มีของแพง ๆ ตั้งโชว์มากมาย โดยทุกพื้นที่ล้วนมีเควสต์ กับกิจกรรมให้ทำเป็นคอนเทนต์เสริม
อย่างไรก็ตาม การดำเนินเนื้อหาของ Dead Island 2 จะมีลักษณะเป็นเส้นตรงกว่าเกมภาคแรก โดยบางพื้นที่ ผู้เล่นจะต้องเล่นเนื้อเรื่องก่อนจึงจะปลดล็อกเข้าไปในพื้นที่ใหม่ได้ แล้วเมื่อปลดล็อกเสร็จ ผู้เล่นสามารถเดินทางกลับไปพื้นที่เก่าในเวลาไหนก็ได้เช่นกัน
นอกจากนี้ แต่ละพื้นที่จะมีจำนวนประชากรซอมบี้ และการแต่งตัวที่แตกต่างกันไป ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากไปที่ยิมกลางแจ้งในชายหาด ผู้เล่นจะต้องเจอซอมบี้ที่มีกล้ามเป็นหมัด ๆ ดูน่ากลัวกว่าซอมบี้ทั่วไป หรือหากไปย่านคนหรู ผู้เล่นอาจได้เห็นซอมบี้ที่แต่งตัวเป็นคนไฮโซมีฐานะ
สุดท้าย ซอมบี้ใน Dead Island 2 จะไม่ได้มาเป็นฝูง กับวิ่งเร็ว 100 เมตรเหมือนภาพยนตร์ World War Z เพราะทีมงานอยากออกแบบให้ซอมบี้ เหมือนสิ่งมีชีวิตที่เคยเป็นมนุษย์ให้ได้มากที่สุด ซึ่งการจะทำแบบนั้นได้ ซอมบี้เกมนี้จึงต้องดูน่ากลัว และมีการเคลื่อนไหวสมจริง
Dead Island 2 มีกำหนดการวางจำหน่ายในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2023 บนระบบ PC, PlayStation 4, PlayStation 5, Xbox One กับ Xbox Series X/S
ที่มา: GamingBolt
