เราไม่ปฏิเสธว่าวิดีโอเกมคือแรงบันดาลใจให้กับหลาย ๆ คนบนโลกมุ่งสู่เส้นทางสายอาชีพต่าง ๆ ในฝัน ซึ่งคนดังหลายคนก็ชื่นชอบในการเล่นเกมเหมือนอย่างพวกเราทุกคน และแม้แต่ Elon Musk เจ้าของบริษัทยานยนต์ไร้คนขับย Tesla ก็ยืนยันในเรื่องนี้ ว่าการเล่นเกมช่วยเขาและเหล่าวิศวกรคอมพิวเตอร์เข้าใจในเรื่องโปรแกรมมิ่งมากขึ้นด้วย
โดยในงาน E3 2019 ที่ผ่านมาในรายการ E3 Coliseum ที่มีการสัมภาษณ์คุณ Elon Musk และ Todd Howard ในเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับวิดีโอเกม ซึ่งนอกจากจะพูดคุยในเรื่องของเกมที่ทาง Tesla กับ Bethesda จะทำร่วมกันแล้วอย่าง Fallout Shelter บนรถยนต์ Tesla รุ่นใหม่ ยังมีการพูดถึงแรงบันดาลใจในการทำงานที่เขามีจากวิดีโอเกมอีกด้วย
“ส่วนที่ทำให้ผมหันมาสนใจเทคโนโลยีก็คงเป็นเพราะวิดีโอเกมนั่นแหละครับ” Musk กล่าว “ผมอาจจะไม่ได้ทำงานในด้านโปรแกรมมิ่งโดยตรง แต่ถ้าไม่ใช่เพราะวิดีโอเกม ผมก็คงไม่มาสนใจเรื่องของเทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์เหมือนในทุกวันนี้ ผมคิดว่าวิดีโอเกมคือสิ่งที่ทรงพลังที่ช่วยให้เด็กที่มีพลังอันเยาว์วัยหันมาสนใจเทคโนโลยี ซึ่งมันก่อให้เกิดผลที่ยิ่งใหญ่กว่าที่คาดไว้มากทีเดียวครับ”
Elon Musk ยังกล่าวอีกว่า ในช่วงที่เขาอายุได้ 12 ขวบ เขาได้ทำการเขียนโค้กเกมแนวสงครามอวกาศที่มีชื่อว่า “Blastar” ที่ขายได้เงินถึง $500 และเขายังเคยสร้างบริษัทเกมแบบ Start up มาก่อนอีกด้วย และก่อนที่เขาจะทุ่มเวลาให้กับบริษัท Tesla ในตอนนี้ ก่อนหน้านี้เขาเองได้สั่งผลิตตุ๊กตา Vault Boy จากเกม Fallout ขนาดเท่าของจริงเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้ตัวเองด้วย
แต่ก็ไม่ได้มีแค่เขาเพียงตนเดียวเท่านั้นที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวิดีโอเกม ทั้ง Musk และ Howard ต่างเชื่อว่าพนักงานในอนาคตของพวกเขาจะต้องมาจากกลุ่มคนที่ชื่นชอบในการเล่นวิดีโอเกมอย่างแน่นอน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสายงานด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
“ถ้าเราไปสัมภาษณ์ใครสักคนเพื่อจ้างเขามาทำงานในตำแหน่งวิศวกรคอมพิวเตอร์ใน Tesla หรือ SpaceX คำตอบที่ได้รับส่วนใหญ่จากคำถามที่ว่า ‘จุดเริ่มต้นของเรื่องโปรแกรมมิ่งมาจากอะไร?’ ”
“ผมเชื่อว่าคำตอบจากวิศวกรคอมพิวเตอร์ฝีมือเยี่ยมนั้นต้องเป็นการเริ่มต้นจากการสร้างวิดีโอเกมอย่างแน่นอน ถ้าหากใครสักคนที่อยากจะสร้างภาพกราฟฟิกที่สมจริงแบบสุด ๆ ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ที่พลังต่ำก็คงเป็นปัญหาแน่ ๆ ดังนั้นหลาย ๆ คนจึงจึงพยายามเขียนโค้ดที่กินทรัพยากรให้น้อยที่สุด และมันก็มักจะมาพร้อมกับไอเดียที่ยอดเยี่ยมด้วย”
และด้วยการผสมผสานพลังการประมวลผลกราฟฟิกที่ยอดเยี่ยม ทำให้การจำลองระบบการขับขี่ด้วยระบบไร้คนขับนั้นทำได้ดีขึ้น และ AI เองก็สามารถประมวลผลเส้นทางได้ดีขึ้นจากการสร้างภาพกราฟฟิกแบบ Photorealistic ที่สร้างพื้นผิวของถนน เงา และอื่น ๆ ซึ่งสื่งเหล่านี้มีผลต่อการแปลนเส้นทางของ AI แทบทั้งสิ้น
เรียกได้ว่าวิดีโอเกมนั้นไม่ได้เป็นแค่สิ่งที่ให้ความบันเทิงใจสำหรับผู้เล่นเท่านั้นอีกต่อไปแล้ว แต่ยังรวมไปถึงช่วยเป็นแรงผลักดันให้สามารถต่อยอดไปยังสิ่งที่ก้าวหน้ายิ่งกว่าในอนาคตได้อีกด้วยครับ