หากพูดถึงร้านค้าขายเกมแบบปลีกที่ใหญ่ที่สุดเจ้าหนึ่งในอเมริกา ชื่อแรกที่ผู้เล่นนึกถึงกันก็คือ GameStop นั่นเอง แม้จะมีสาขามากมายและวางแผนทางการตลาดแบบใหม่เตรียมเอาไว้ แต่ด้วยหลายสาเหตุทำให้พวกเขาต้องเตรียมที่จะปิดร้านสาขาในเครือลงไปกว่า 200 แห่งในเร็ว ๆ นี้แล้ว
ทาง GameStop ได้ประกาศอย่างเป็นทางการในรายงานผลประกอบการในไตรมาสที่สองของปี 2019 ที่ระบุว่าจากการปรับเปลี่ยนยุทธวิธีทางการตลาดใหม่เพื่อความคล่องตัวในการบริหาร โดยจะมีการปิดร้านค้าในเครือ GameStop กว่า 180 – 200 แห่งทั่วโลกลงในไม่ช้านี้ และอาจมีการปิดสาขามากกว่าที่คาดการณ์เอาไว้เพิ่มเติมอีก
เมื่อมองดูจากผลประกอบการแล้ว จะพบว่าสถานการณ์ของบริษัทไม่สู้ดีนักในช่วงที่ผ่านมา โดยมีผลกำไรลงลดถึง 14.3% รวมเป็นมูลค่ากว่า 32 ล้านเหรียญหรือประมาณ 1,050 ล้านบาทไทย จึงทำให้ CFO ของ GameStop อย่างคุณ James Bell ต้องประกาศว่าจะมีการปิดร้านสาขาที่ทำยอดขายได้ไม่ถึงเป้าที่กำหนดเอาไว้ในที่สุด
เรื่องนี้ทำให้เราเห็นได้ว่าธุรกิจร้านค้าปลีกแบบทั่วไปนั้นกำลังประสบปัญหาอย่างหนักจากการเปลี่ยนแปลงที่ผู้เล่นและผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าผ่านทางระบบออนไลน์มากขึ้น ซึ่งทางคุณ James Bell ยังคงหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ภายในปีนี้อย่างแน่นอนครับ
