เมื่อวานนี้ GoPro ได้ประกาศแผนที่จะย้ายฐานการผลิตของบริษัทออกจาประเทศจีนภายในกลางปี 2019 เนื่องจากสงครามการค้าระหว่างประเทศสหรัฐฯ และประเทศจีนดำเนินต่อเนื่องอย่างไม่หยุดหย่อน ซึ่งส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตและต้นทุนของบริษัท
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่เผยข้อมูลว่าสถานที่สำหรับการผลิตแห่งใหม่คือที่ใด
Brian McGee ผู้ดำรบตำแหน่ง CFO ประจำบริษัท GoPro กล่าวว่าบริษัทจำเป็นต้องย้ายฐานการผลิตออกไปสู่แหล่งอื่น เพราะเหตุผลทางภูมิศาสตร์การเมืองดังกล่าวเพิ่มมูลค่าของกำแพงภาษีอย่างใหญ่หลวง การตัดสินใจครั้งนี้ของบริษัทคาดว่าจะควบคุมราคาสินค้าให้อยู่ในระดับเดิม และเหมาะสมกับเงินที่จ่ายไปของลูกค้า
ถึงแม้ว่าบริษัทยืนยันการย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศจีน แต่บริษัทยังผลิต GoPro ให้กับประเทศจีนด้วยโรงงานในประเทศจีนอยู่ รวมถึงประเทศอื่นบ้างเล็กน้อย
รายได้ของ GoPro เมื่อปีที่ผ่านมาสูงขึ้น ซึ่งสัดส่วนรายได้ส่วนใหญ่มาจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในประเทศสหรัฐฯ และประเทศในทวีปยุโรป แต่ส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดมาจากประเทศญี่ปุ่น ประเทศเกาหลีใต้ และบางประเทศในพื้นที่เอเชียแปซิฟิค
เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา Nick Woodman ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของบริษัทให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNN ว่า GoPro ต้องการย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศสหรัฐฯ เช่นกัน เนื่องจากปัญหาสงครามทางการค้า เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่าบริษัมผลิต Action Camera เพียงแค่ 3 รุ่น และ 360-Degree Semi-Pro Action Camera เพียงรุ่นเดียว ในขณะที่บริษัทมีผลิตภัณฑ์เปิดตัวออกมามากกว่านี้ ซึ่งเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งที่บริษัทกำลังเผชิญ ในตอนนี้ GoPro พยายามลดราคาอุปกรณ์เสริมเพื่อดึงดูดผู้บริโภคและรักษาฐานลูกค้า
อย่างไรก็ตาม GoPro ยังไม่สามารถสร้างกำไรต่อปีได้ตั้งแต่ปี 2015 ถึงแม้ว่ากล้องรุ่น Hero 7 Black เป็น Action Camera ที่ขายได้รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท ตอนนี้ GoPro หวังว่าเทศกาลวันหยุดที่จะถึงนี้จะเป็นโอกาสให้บริษัทมีกำไรได้อีกครั้ง
