BY Charcoal
27 Mar 18 12:11 am

“Internet Cafe กำลังจะตาย” ได้ยินคำนี้มาตั้งแต่ 5 ปีก่อน แล้วตอนนี้ตายหรือยัง ?

127 Views

เมื่อ 5 ปีที่แล้วเราจะได้ยินคำบอกกล่าวว่า “ร้านเน็ตกำลังจะตาย” แล้วตอนนี้ตายหรือยัง ?

ในอดีตย้อนกลับไปราว ๆ 10 ปีก่อน Internet Cafe หรือที่เรียกทั่ว ๆ ไปว่าร้านเน็ต คือธุรกิจที่มาแรง ใคร ๆ ก็ต่างพากันลงทุนเปิดร้านเน็ตกันเต็มไปหมด สมัยนั้นลูกค้าแน่นร้าน สร้างกำไรให้เจ้าของธุรกิจเป็นกอบเป็นกำ เพราะช่วงนั้นเทคโนโลยีค่อนข้างมีราคาสูง หากต้องการใช้งานคอมพิวเตอร์หรืออินเทอร์เน็ต รวมถึงบรรดาผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกมคอมพิวเตอร์และเกมออนไลน์ ร้านเน็ตเป็นทางเลือกอันดับหนึ่ง แต่เมื่อ 5 ปีที่แล้วเราจะได้ยินคำบอกกล่าวว่า “ร้านเน็ตกำลังจะตาย” แล้วตอนนี้ตายหรือยัง ?

ผ่านยุคบุกเบิกร้าน Internet Cafe ที่ถือเป็นยุคที่ธุรกิจนี้รุ่งเรืองมาก ไม่กี่ปีถัดมาเทคโนยีต่าง ๆ เริ่มถูกลง คอมพิวเตอร์เริ่มเป็นสิ่งที่จับต้องได้ อินเทอร์เน็ตก็ไม่แพงจนไม่อาจเอื้อมอีกต่อไป มีคนบอกว่าธุรกิจนี้จะซบเซาลง จนในที่สุดเราคงไม่ต้องการร้านเน็ตอีกต่อไป และมันดูเหมือนจะเป็นจริงเพราะร้านอินเทอร์เน็ตทยอยปิดตัวไปจำนวนมากอย่างเห็นได้ชัด แต่ก่อนผู้เขียนจำได้ว่าแค่เดินไปในย่านที่มีตลาด หรือร้านค้าคึกคักก็มักจะเจอร้านเน็ตตั้งอยู่ใกล้ ๆ สัก 2-3 ร้านเสมอ แต่ตอนนี้ร้านที่ผมเคยเข้าก็ปิดตัวลงไปหมด หรือว่าธุรกิจนี้มันไปไม่รอดแล้วจริง ๆ

ผู้เขียนเคยเชื่อว่าร้านเน็ตมันถึงทางตันแล้ว เพราะทุกคนมีคอมพิวเตอร์ส่วนตัวและติดอินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูงอยู่แล้ว ร้านเน็ตจะมีความจำเป็นอะไรอีก

แต่ความคิดของผมได้เปลี่ยนไปในช่วง 1-2 ปีนี้ที่ผมเริ่มกลับไปใช้บริการร้านอินเทอร์เน็ตอีกครั้ง มันยังไม่ตาย แค่ยุคสมัยมันเปลี่ยน ร้านที่ปรับตัวไม่ได้ก็ย่อมหายไป เมื่อลองพิจารณาดูอย่างถี่ถ้วน ในช่วงก่อนที่ร้านเน็ตเฟื่องฟู ทำไมวันนี้เขากลับต้องปิดกิจการ ธุรกิจร้านเน็ตวันนี้กับในอดีตมันต่างกันอย่างไร

ประดิษฐ์ โปซิว ผ.อ.สำนักพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (สำนักที่คอยออกใบอนุญาตเปิดกิจการร้านเน็ต) เคยกล่าวไว้อย่างน่าสนใจในรายการข่าวของ Voice News ในช่วงปี 2557 ว่า “จำนวนร้านเกมจะลดลง ในขณะเดียวกันคุณภาพของร้านเกมจะเพิ่มขึ้น” ท่ามกลางกระแสขอยกเลิกใบอนุญาตจากผู้ประกอบการกว่า 500 รายในเขตกรุงเทพมหานครช่วงปี 2557 ปัจจุบันคำกล่าวของ ผ.อ.สำนักพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ในวันนั้นเริ่มกลายเป็นจริงในวันนี้ เพราะจำนวนร้านเน็ตที่เปิดทั่วบ้านทั่วเมืองปิดตัวลงไปจำนวนมากจริง แต่ร้านที่ยังเปิดอยู่และยังคงทำกำไร มีคุณภาพที่ดีกว่าร้านในสมัยก่อนมาก นั่นเพราะการปรับตัวคือสิ่งสำคัญ

มัวแต่หลงโทษกาลเวลา โทษกระแสธุรกิจ มันไม่ช่วยให้ใครอยู่รอด ผู้ที่แข็งแกร่งและปรับตัวต่างหากที่จะคงอยู่ตามหลักการของ Natural Selection ของ Charles Darwin ร้านเน็ตสมัยนี้สะอาด, อุปกรณ์ทันสมัย, มีจำนวนเครื่องให้ใช้งานมาก และไม่ดูแออัดเหมือนร้านสมัยก่อน ทุกร้านที่ยังเปิดอยู่ได้มีการอัปเกรดตัวเองให้ดีขึ้นตามยุคสมัย จนปัจจุบันเกิดธุรกิจร้านเน็ตแบบ Hi-End ขึ้นมาอีกระดับ คือใช้เครื่องที่มีสเปคสูงมาก และอุปกรณ์ต่าง ๆ มักเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียง เช่น ร้าน Mine ของ JIB ที่เลือกใช้สเปคระดับสูง แม้ค่าบริการจะสูงขึ้นมาตามกัน แต่เชื่อไหมครับจากประสบการณ์ที่ได้ใช้บริการ คนก็ยังเข้าร้านนี้เป็นจำนวนมากอยู่ดี และนอกจากคุณภาพแล้วสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือกลุ่มเป้าหมาย ผู้ประกอบการควรรู้ว่าร้านเน็ตเหมาะกับใคร ควรเลือกตั้งร้านที่ไหน นั่นคือความคิดพื้นฐานของการทำธุรกิจที่จะละเลยไม่ได้จริง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่ที่ผู้เขียนสังเกตุเห็น ร้านเน็ตมักตั้งใกล้มหาวิทยาลัย ซึ่งได้ผล ช่วงเย็น ๆ นักศึกษาไปใช้บริการแน่นร้านทุกวัน

ร้านเน็ตยังไม่ตาย แค่ต้องปรับตัว เพราะแม้ทุกบ้านจะมีคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง แต่การมาพบปะพูดคุยเล่นเกมด้วยกันกับผองเพื่อนมันสนุกกว่ากันเยอะ โดยเฉพาะเมื่อเล่นเกมที่ต้องออนไลน์กันเป็นทีมจะยิ่งเพลินไปใหญ่ จากประสบการณ์ของผู้เขียน การไปเล่น Overwatch พร้อม ๆ กันหกคนที่ร้านนี่มันคือประสบการณ์ชั้นยอด ดีกว่านั่งเล่นเหงา ๆ เปิดไมค์คุยกันที่บ้านอีก และสมัยนี้ร้านเน็ตคุณภาพสูงกว่าเดิมมาก ตามร้านที่ดี ๆ ไม่มีพวกมั่วสุมของมึนเมาให้ได้เห็น แถมอุปกรณ์สะอาด ห้องน้ำสะอาด ที่นั่งสบายหลัง

อย่ารอช้า เย็นนี้ชวนเพื่อนไปเล่นเกมที่ร้านเน็ตกันดีกว่าครับ

Nattakorn Sopha

กาย - Guest Writer เจ้าของแฟนเพจ Charcoal และ GAMERGUY

Back to top