BY TheStarrySky
22 Jun 20 3:14 pm

LoL: Wild Rift อาจมีคุณภาพกราฟิกไม่แพ้ PC ในวันเปิดตัว

7 Views

เหล่าผู้ทดสอบชุดแรกของ League of Legends: Wild Rift ยืนยัน ตัวเกมจะมาในกราฟิกที่เหนือชั้น, ครีเอเตอร์โชว์ผลการเปรียบเทียบกราฟิกเกมทั้งสูงและต่ำ คาดแม้มือถือเมื่อ 5 ปีที่แล้วก็สามารถเล่นได้แบบไม่มีปัญหา

LoL: Wild Rift ในขณะนี้ก็ใกล้จะสิ้นสุดช่วงทดสอบ 2 สัปดาห์แรกในประเทศบราซิลและฟิลิปปินส์แล้ว เหล่าผู้เล่นชุดแรกทั้งหลายโดยเฉพาะสื่อ ต่างก็เริ่มรายงานผลการทดสอบให้ทุกคนได้รับชม หนึ่งในนั้นคือเรื่อง “กราฟิก” ของเกม ที่ถือว่าเป็นโจทย์หลักตัวใหญ่ที่มีผลโดยตรงต่อกลุ่มคนที่จะสามารถเข้าเกมได้ รวมถึงกระทบต่อประสิทธิภาพการเล่นในท้ายที่สุดด้วย

เพื่อตอบคำถามนี้ ผู้ทดสอบรายหนึ่งได้ทำการเปรียบเทียบคุณภาพกราฟิกของเกมในแบบ Ultra High และ Performance (Lowest) ซึ่งก็ทำให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนของทั้งสองโหมด โดยไม่ได้กล่าวถึงรุ่นของมือถือที่ใช้ทดสอบแต่อย่างใดแ

แต่ที่น่าสนในก็คือ ในระดับ Ultra High นั้น ตัวเกมมีรายละเอียดที่ดีมาก ในระดับที่ notagamer.net บรรยายว่า “แทบไม่มีความแตกต่างกับแบบ PC เลย” ในขณะที่โหมด Lowest ก็ยังให้คุณภาพเกมที่พอใช้ได้ การเล่นมีความลื่นไหล แม้ว่าในส่วนของสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ จะไม่คมชัดเหมือนโหมดที่สูงกว่าก็ตาม สามารถชมการทดสอบได้ที่วิดีโอด้านล่าง

YikeZ ซึ่งเป็นผู้ทำการทดสอบกล่าวว่า ในระดับคุณภาพที่เกมแสดงออกมา เชื่อว่ามือถือที่มีอายุราว ๆ 6-7 ปี ก็น่าจะยังสามารถรันเกมได้ที่ระดับ Medium – High ได้แบบเต็มอรรถรส แต่หากเป็นมือถือที่เก่ากว่านั้น ตัวเลือกในโหมด Low ก็เป็นทางออกที่เป็นไปได้ สำหรับสเปคขั้นต่ำของเกมที่ Riot ได้แจ้งมาก่อนหน้าคือ

  • 1 GB RAM, Qualcomm Snapdragon 410 processor // Adreno 306 GPU (เทียบเท่า Samsung Galaxy A7)
  • iPhone 5s ขึ้นไปสำหรับ iOS

สำหรับ LoL: Wild Rift ถูกพัฒนามาตั้งแต่ปี 2016 ทำให้มือถือที่ผลิตในช่วงนั้นก็น่าจะเป็นพื้นฐานของเกมที่จะสามารถเล่นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นก็สามารถปรับบางอย่างในเกมตามแบบที่ตนเองพอใจได้ เช่นแสงเงา การแสดง Damage หรือการปรับ 60+ FPS เป็นต้น

ภาพในเกมแบบปิด UI

หลังจากสิ้นสุดช่วงการทดสอบแบบ Alpha ในช่วงปลายเดือนนี้แล้ว ก็คาดว่า Riot ก็น่าจะเริ่มการทดสอบตัวเกมในขั้น Close Beta ต่อไปตามลำดับ และหากทุกอย่างยังเป็นไปตามกำหนด เหล่า Summoner ทั่วโลกก็น่าจะได้สัมผัสกับตัวเกมเวอร์ชั่นเต็มได้ไม่เกินสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน

ที่มา notagamer.net

Pathiphan Tepinta

Back to top