ดูเหมือนว่าการพัฒนา Metaverse อันเป็นอนาคตที่ Mark Zuckerberg วาดไว้จะต้องใช้เงินและการเดินทางกันอีกยาวไกล หลังรายงานผลประกอบการล่าสุดในแผนก VR หรือ Reality Labs ของ Meta เปิดเผยว่าในไตรมาสที่สองทางแผนกสูญเงินไปแล้ว 2.8 พันล้านเหรียญดอลลาร์หรือ 1 แสนล้านบาทแบบเบา ๆ
ก็เป็นการเปิดเผยตัวเลขให้นักลงทุนของ Meta ที่เชื่อมั่นในศักยภาพของเทคโนโลยีของ Reality Labs หรือชื่อเดิม Oculus division ของ Facebook ได้มองเห็นภาพว่าการพัฒนา Metaverse น่าจะต้องใช้เงินทุนมากขึ้นต่อไปอีกระยะยาว
ตัวเลขการขาดทุนดังกล่าวก็ถือว่าสวนกระแสรายได้จากฝั่งการจำหน่ายอุปกรณ์ Hardware และ Software VR ของ Meta ที่มียอดการจำหน่ายเติบโตเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามการขาดทุนดังกล่าวก็ถือว่าไม่เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจเพราะในไตรมาสแรกของปี 2022 แผนกนี้ของ Meta เคยขาดทุนมาแล้ว 2.9 พันล้านเหรียญดอลลาร์หรืออีกหนึ่งแสนล้านบาทเช่นกัน
Reality Labs แผนก metaverse ของบริษัท ได้รายงานผลประกอบการทำรายได้ 452 ล้านดอลลาร์สำหรับไตรมาสนี้ ลดลงจาก 695 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก
อย่างไรก็ตาม Mark Zuckerberg ก็ได้แสดงความเชื่อมั่นผ่านการประชุม โดยยืนยันว่า Metaverse จะเป็นอนาคตที่สดใสและเป็นก้าวใหม่ที่สำคัญของโลกอินเตอร์เน็ต
.
“Metaverse จะเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในหลายรูปแบบ มันจะมอบประสบการณ์ด้านสังคมที่สมจริงให้กับคุณไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนทำอะไรอยู่ คุณจะสามารถสัมผัสได้ถึงตัวตนของคนอื่น ไม่ว่าจะใช้ในการเล่นเกมหรือการประชุม”
Zuckerberg ยืนยันว่า Meta จะยังคงทุ่มเทเงินให้กับการวิจัย Metaverse ต่อไปพร้อมเชื่้อมั่นว่า Metaverse จะเป็นอนาคตที่สามารถสร้างรายได้มหาศาลถึงขั้นเป็นแสนล้านหรือล้านล้านดอลลาร์ได้
Zuckerberg ยืนยันว่าปลายปีนี้จะมีการปล่อย Horizon ซึ่งเป็น Platform social metaverse ในเวอร์ชั่น Web ออกมาให้ทดสอบใช้งาน ขณะเดียวกัน Project Cambria ซึ่งเป็น Hardware VR ตัวใหม่ของทีมก็น่าจะมีข่าวดีในตอนท้ายปีเช่นกัน