อันที่จริง บริษัท Microsoft ได้ยุติการสนับสนุนและพัฒนาเว็บเบราว์เซอร์ดั้งเดิมของบริษัท อย่าง Internet Explorer ตั้งแต่ 4 ปีที่แล้ว และส่งไม้ต่อให้เว็บเบราว์เซอร์ตัวใหม่ หรือ Edge สำหรับระบบปฏิบัติการ Windows 10 แทน
ล่าสุด Chris Jackson ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบรักษาความปลอดภัยประจำฝ่ายพัฒนาระบบปฏิบัติการ Windows ได้กล่าวว่าการใช้งาน Internet Explorer ถือว่าเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ในยุคสมัยนี้
ถึงแม้ว่าผู้ใช้งานส่วนใหญ่ติดตั้ง Chrome, Firefox หรือ Edge ในฐานะเว็บเบราว์เซอร์ประจำเครื่อง แต่บริษัทส่วนใหญ่ยังใช้งาน Internet Explorer กันอยู่ เนื่องจากธุรกิจเหล่านี้ต้องพึ่งพาแอปพลิเคชั่นรุ่นเก่าบนเครือข่ายของบริษัทสำหรับการทำงาน และบริษัทเหล่านี้ก็ไม่ยอมปรับปรุงแอปพลิเคชั่นของพวกเขาสักที
Chris Jackson เผยว่าการทำงานของ Internet Explorer ในขณะนี้เป็นเพียงแค่โหมดความเข้ากันได้เท่านั้น (Compability Mode) เพื่อทดแทนการใช้งานสำหรับบุคคลที่ต้องพึ่งพาเว็บแอปพลิเคชั่นที่ไม่ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัย หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง Internet Explorer ได้ถูกปลดสถานะจากการเป็นเว็บเบราว์เซอร์อย่างเต็มตัวแล้ว และทีมงานของบริษัท Microsoft ก็ยกเลิกการสนับสนุนเว็บเบราว์เซอร์ดังกล่าวเป็นระยะเวลานานพอสมควร นอกจากนี้แล้ว นักพัฒนาก็ทดสอบและพัฒนาแอปพลิเคชั่นในเว็บเบราว์รุ่นใหม่ ๆ กันทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้ การใช้งาน Internet Explorer โดยทั่วไปนับว่าเป็นสิ่งที่ไม่สมควร
อย่างไรก็ตาม Chris Jackson กล่าวเพิ่มเติมว่า Edge ก็ยังไม่สามารถทดแทน Internet Explorer ได้อย่างเต็มตัวเช่นกัน หากผู้ใช้งานระดับองค์กรเหล่านั้นยังไม่ปรับปรุงวิธีการใช้งานของพวกเขา มากไปกว่านั้น เว็บเบราว์เซอร์ Edge ไม่สามารถติดตั้งในระบบปฏิบัติการ Windows 7 และ 8 ซึ่งบริษัทมากมายพัวพันกับระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นนี้อยู่ จึงเป็นผลให้จำนวนผู้ใช้งานเว็บเบราว์เซอร์ Edge เพิ่มขึ้นไม่เยอะเท่าใดนัก
ขณะนี้ บริษัท Microsoft กำลังพัฒนาเว็บเบราว์เซอร์ Edge ด้วยเครื่องมือจาก Chromium ซึ่งจะทำให้เว็บเบราว์เซอร์นี้ใช้งานผ่านระบบปฏิบัติการ Windows 7 และ 8 ได้ในอนาคต และอาจดึงผู้ใช้งานระดับองค์กรให้หันมาใช้เว็บเบราว์เซอร์ Edge ได้มากขึ้น