ศิลปินคนขยันที่อยู่ในวงแห่งตำนาน สู่การเป็นสตรีมเมอร์ที่ผู้ติดตามระดับหลักล้าน และกลายเป็นมีมครั้งสำคัญที่ทำให้คนทั้งโลกได้รู้จักเขา เรามาทำความรู้จักกับ Mike Shinoda กันให้มากกว่านี้ ผ่าน EP ชุดใหม่ที่พร้อมจะทำลายโครงสร้างของอุตสาหกรรมดนตรี
จากเหตุการณ์ปล่อยไก่ สู่การเผยตัวตนครั้งสำคัญของ Mike Shinoda
สำหรับคนรุ่นใหม่ Generation Z การได้ยินชื่อ Mike Shinoda อาจจะพาให้งวยงงไม่ต่างกับที่ Ovilee May นักข่าวสาวและเกมเมอร์ชื่อดังได้ปล่อยไก่ไปตัวเป้ง เมื่อเธอได้สัมภาษณ์ Mike ในงานเปิดตัวหนัง Arcane ที่สร้างจากเกมชื่อดัง ก่อนจะทิ้งท้ายถามเขาว่า “คุณคือใคร” จนเมื่อ Mike ตอบไปว่าเขาคือสมาชิกในวง Linkin Park เธอก็แทบอยากเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนี
อาจจะเป็นเพราะ เป็นช่วงเวลายาวนานพอสมควร ที่วง Linkin Park ได้ห่างหายไปจากการรับรู้ของผู้ฟังรุ่นใหม่ เมื่อวงได้สูญเสีย Chester Bennington จากการตัดสินใจทำอัตวินิบากกรรมเมื่อปี 2017 แต่แฟนพัมธุ์แท้ต่างก็รู้ดีว่า หาก Chester คือสมองซีกขวาของวง Mike หนุ่มลูกครึ่ง อเมริกัน-ญี่ปุ่น ก็เปรียบดั่งสมองซีกซ้ายสายสร้างสรรค์ เขารับหน้าที่ทั้งในส่วนของการแร๊พและเล่นดนตรีในส่วนของกีตาร์และซินธิ์ให้กับวงและเป็นผู้ผลักดันไอเดียแจ่มๆ จนทำให้ Linkin Park กลายเป็นวง Nu-Metal ที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาล
ซึ่งการปล่อยไก่ของ Ovilee May นั้น ก็ทำให้เป็นผลดี ไม่ใช่น้อย เมื่อเหล่าแฟนๆของ Linkin Park และ Mike ได้ช่วยกันประโคมความสามารถรอบด้านที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ ไม่ว่าจะเป็นในด้านดนตรีที่เขาเองนั้นมี Side Project ในนาม Fort Minor งาน Hip-Hop สุดดุดันที่บ่งบอกถึงตัวเขาและแรงบันดาลใจอย่างแรงกล้า
ขณะเดียวกันภายหลังจากการสูญเสีย Chester ไป Mike ก็ออกงานเดี่ยวในชื่อของเขาเองกับอัลบั้ม Post Traumatic (2018) โซโล่เดี่ยวชิ้นแรกที่เปรียบเสมือนถ้อยคำรำพันถึงเพื่อนรักที่จากไป รวมไปถึงโปรเจกต์ Dropped Frames Vol.1-3 งานไตรภาคที่นำเขาสู่การทำงานสายทดลองอันแสนท้าทาย
นอกจากงานดนตรีที่คนค่อนโลกรู้จักแล้ว Mike Shinoda ยังเป็นที่รู้จักในแวดวงศิลปะ ในฐานะอาร์ติสต์ผู้อยู่เบื้องหลังงานสตรีทอาร์ตมากมาย ทั้งงานอาร์ตเวิร์คของวงของเขาที่โดดเด่นเหนือชั้น ไปจนถึงการดีไซน์ผลงานลงในแบรนด์ Streetwear สุดเจ๋ง รวมไปถึงการสร้างสรรค์งาน NFT สุดล้ำ
และที่คนยุคนี้น่าจะรู้จักเขามากที่สุด น่าจะรู้จักเขาดีในฐาน สตรีมเมอร์ชื่อดังที่ หลังจากวิกฤต COVID-19 ที่ผ่านมา เขาค้นพบช่องทางในการติดต่อสื่อสารกับแฟนๆ จากช่องทาง Twitch ซึ่ง Mike ใช่เวลา 5 วันต่อสัปดาห์สตรีมสดกับเหล่าแฟนๆ โดยแบ่งช่วงเวลา 4 วันให้เป็นเรื่องราวของดนตรี และอีก 1 วันคือเสนอเรื่องราวของ Visual Art นอกจากนั้นเขายังพร้อมแบ่งปันเพลง รวมไปถึงแซมพลิ่ง และดนตรีเวิร์ชั่นตัดเนื้อร้องเพื่อไปสานต่อเป็นบทเพลงให้กับแฟนๆแบบฟรีๆอีกด้วย
การเป็นศิลปินสุดขยัน เชื่อมโยงทั้งแฟนเก่าและแฟนใหม่ให้รู้จักเขาไปได้พร้อมๆกัน บวกกับความถ่อมตนเป็นคนน่ารัก และที่สำคัญที่เซอร์วิสแฟนคลับอย่างมาก ทำให้ Mike Shinoda กลายเป็นศิลปินสุดเจ๋งมากความสามารถที่มีผู้ติดตามในหลายๆแพลทฟอร์มรวมกันระดับหลักล้านได้อย่างเหลือเชื่อ
เกมเมอร์ตัวยง ผู้มั่นคงในโลกแห่ง Nintendo
อีกหนึ่งข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับ Mike Shinoda นั่นคือความคลั่งไคล้ระดับแฟนตัวยงของตัวเขาเอง ตลอดชีวิตของเขานั้นผูกพันกับเกมมาตลอดชีวิต และแปรเปลี่ยนความรักความชอบให้กลายเป็นผลงานที่ที่ทรงอิทธิพลได้
โดย Mike ได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Edge ว่า ตัวละครใน Rockman (ที่อเมริกาเรียก Mega Man) คือตัวจุดประกายให้เขาลุกขึ้นมาวาดรูป
“สมัยผมเด็กๆ พ่อและแม่ชอบพาผมไปทิ้งไว้ที่ตู้เกมอาร์เขด ระหว่างที่เขาไปโยนโบว์ลิ่ง จนที่บ้านซื้อเครื่องเล่นเกม Nes (Famicom) ผมก็อยู่ติดบ้าน และลากเพื่อนฝูงมาเล่นที่บ้านเสมอ พอผ่านด่านต่างๆ ผมก็มักจะวาดรูปคาแรคเตอร์ตัวละครตัวร้ายในเลเวลต่างๆอยู่เสมอเพื่อเอาไปอวดเพื่อนที่โรงเรียน ผมคิดว่าถ้าชีวิตผมไม่หันเหไปสู่เส้นทางสายดนตรี ผมคงเป็นอาร์ติสนั่งวาดรูปและเล่นเกมอยู่กับบ้านนี่แหละ”
ความหลงใหลของเขาไม่เพียงแค่การเล่นเกมเท่านั้น แต่ยังคาบเกี่ยวไปถึงงานอาร์ต และงานดนตรีของเขา หลายต่อหลายครั้ง เขาชอบนำ Sampling จากเกมต่างๆที่เขารักมาลงในงานเพลงของเขาอยู่เสมอ
Mike Shinoda หลงไหลในวัฒนธรรม Nintendo อย่างมาก ถึงขนาดตอนวัยเด็กเขาตั้งชื่อชมรมว่า Nintendol เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลหรือขิงกันเวลาที่ผ่านด่านยากๆ จนกระทั่งเขาค้นพบ Twitch ที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนชมรม Nintendo ในวัยเด็กหวนกลับคืนมาอีกครั้ง Mike ชอบจัดกิจกรรมเพื่อคืนกำไรแฟนๆเสมอในไลฟ์ของเขา โดยเรียกมันว่าการสะสมแต้ม Shinoda Bucks โดยมีของรางวัลไม่ว่าจะเป็นการวาดรูปให้หรือทำเพลงให้ก็มี
ซึ่งเกมโปรดปรานของเขามีอยู่หลายเกม ตั้งแต่เกมยุคใหม่อย่าง HALO ที่เขาจะขน XBOX ไว้ในรถทัวร์ตอนทัวร์คอนเสิร์ตร่วมกับ Linkin Park เสมอเพื่อเล่นมันระหว่างเดินทาง หรือ Mega Man, Metroid และ Zelda ที่เขาติดงอมแงม ไปจนถึง Medal of Honor ที่เขาได้ลงมือทำดนตรีประกอบเกมให้ในภาค Warfighter แต่ที่เขารักที่สุดและเป็นขวัญใจตลอดกาลก็คือเกม Super Mario Bros 3 ที่เปิดและเติมเต็มจินตนาการของเขามากยิ่งขึ้น
จะเห็นได้ว่าวีดีโอเกมคือแรงบันดาลใจ และแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ Mike Shinoda ได้ใช้ความรักและความชอบแปรเปลี่ยนเป็นผลงานอันยิ่งใหญ่ ทั้งงานโซโลเดี่ยว / ไซด์โปรเจกต์ รวมไปถึงในนาม Linkin Park ก็ล้วนแล้วแต่ถูกนำไปใช้เป็นเพลงซาวด์แทรคประกอบเกมอันหลากหลาย เราได้รวบรวมบางส่วนของบทเพลงประกอบเกมมาเสนอดังนี้
A Place for My Head
ESPN X-Games Skateboarding (2001)
The Catalyst
Medal of Honor (2010)
Wretches and Kings
EA Sports MMA (2010)
Blackout
FIFA 11 (2010)
Castle of Glass (M. Shinoda Remix)
Need for Speed Rivals (2013
Wastelands
EA Sports UFC (2014)
All for Nothing
Pro Evolution Soccer 15 (2014)
https://youtu.be/T4kp1u_la8M
และในที่สุด ศาสตร์ทั้งหมดที่เขาชื่นชอบนั้น ถูกหลอมรวมออกมาเป็นงาน EP สุดเจ๋งในชื่อว่า ZIGGURATS งาน Old School Hip-Hop ที่รวมทุกสิ่งที่เขารักเอาไว้ใน Mixtape จำนวน 4 เพลงนี้ เราชำแหละแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ที่กลายเป็นผลงานที่ผสมผสานความรักนี้ไปด้วยกัน
“ZIGGURATS คือเพลงที่ไม่ใช่เพลง / EP ที่ไม่ใช่ EP / NFT ที่ไม่ใช่ NFT”
Mike Shinoda อธิบาย EP ชุดล่าสุดทาง Discord ด้วยคำพูดที่แสนกำกวมและเหมือนจะดูกวนส้น แต่ในความจริงมันก็เป็นอย่างที่เขาบอกทุกประการ เพราะ ZIGGURATS คือการผสานงานเพลงกับงานอาร์ตเข้าด้วยกัน โดยที่เมื่อคุณพรีออร์เดอร์ EP ชุดนี้สิ่งที่คุณจะได้รับนั่นก็คือรูปโปรไฟล์คาแรคเตอร์แบบสุ่มที่คุณจะได้ครอบครองมันในแบบที่ไม่ซ้ำแบบใคร โดยแรงบันดาลใจของเขานั้นเกิดขึ้นจากการเห็นการเติบโตของ CryptoPunks และ Bored Apes ทำให้เขาเกิดไอเดียที่จะต่อยอดงานศิลปะที่ไม่ผูกมัดกับการเรียกมันว่า “เพลง” “งานอาร์ต” หรือ “งานวิช่วลใดๆ” อีกต่อไป
โดยงานเพลงเป็นการพบกันของซาวด์ที่ดุดันในแบบ Linkin Park และ Old Shool Hip-Hop ในแบบ Fort Minor โดยมีไรห์มเจ๋งๆ ที่ซ่อนคำอันแสนคมเอาไว้อย่าง “I’m the Steve Jobs of the underdogs” ข้าคือสตีฟจ็อบส์ของพวกอันเดอร์ด็อก ซึ่งทั้ง 4 เพลง ก็สื่อถึงการประกาศแสนยานุภาพครั้งสำคัญในโลกเสมือนจริงของตัว Mike เอง แม้จะแยกออกเป็น 4 แทร็ค แต่บีทของเพลงก็กลืนกันจนเสมือนเป็นเพลงเดียวกันได้อย่างเรียบเนียน
แม้ความยาวทั้ง 4 เพลงรวมกันจะได้เพียง 6 นาที 44 วินาที แต่สำหรับคนที่พรีออร์เดอร์นั้นต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ZIGGURATS อัดแน่นไปด้วยความทะเยอทะยาน และเป็นงานที่ชาว NFT ต่างพุ่งจับจองกันอย่างล้นหลาม จากการเปิด Pre-Order อีพีชุดนี้ ผลงานอาร์ตของ Mike Shinoda ที่ออกแบบคาแรคเตอร์อาร์ต จำนวน 5,000 ชิ้น สุดพิเศษที่ไม่ซ้ำแบบกัน ก็ประกาศ Sold Out ภายในเวลาไม่กี่นาที และแน่นอนว่าราคาต้องพุ่งขึ้นเมื่อนำไปปล่อยเก็งกำไรได้อีกแน่นอน
แม้จะเป็นเพียงก้าวแรกที่ชายหนุ่มผู้คร่ำหวอดในวงการศิลปะอันหลากหลาย แต่เชื่อมั่นว่าก้าวต่อไปของ Mike Shinoda ทั้งในโลกของดนตรียุคใหม่ โลกของ NFT หรือโลกของวีดีโอเกมเองก็ตาม ต้องเป็นที่น่าจับตาอย่างแน่นอนว่า ศิลปินจอมขยันคนนี้จะสร้างโลกแห่งอนาคตของเขาอย่างไร
บทความโดย สกก์บงกช ขันทองเจ้าของเพจ โสตศึกษา เพจดนตรีที่เสมือนจุดพักรถของรถทัวร์ทั่วราชอาณาจักร ชื่นชอบเรื่องของ Pop Culture และหลงใหลในทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับบันเทิงทุกประเภท
ข้อมูลประกอบการเขียน
นิตยสาร EDGE / Rolling Stone / NME
