จากวันก่อนที่เราได้นำเสนอข่าว Faze Jarvis สตรีมเมอร์ชื่อดังที่โดน Epic Games ลงดาบแบนถาวรหลังใช้โปรแกรมช่วยเล่นใน Fortnite วันนี้ก็มีอีกประเด็นที่น่าสนใจ เพราะสตรีมเมอร์อันดับต้น ๆ ของ Fortnite อย่าง Ninja ได้ออกโรงมาปกป้องเขาด้วยตนเอง
จากกรณีที่ Jarvis Kayne หรือ Faze Jarvis สตรีมเมอร์ชื่อดังถูกแบนถาวรจาก Epic Games ข้อหาใช้โปรแกรมช่วยเล่นประเภท Aimbot ทาง Ninja หรือ Tyler Blevins สตรีมเมอร์ตัวท็อปของเกม Fortnite ได้ออกโรงมาปกป้องเขา โดยระบุชัดเจนว่า Content Creator หรือคนสร้างคอนเทนต์ไม่ควรถูกแบนจากเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ และตัว Jarvis เองยังบอกว่าการโดนแบนตลอดชีวิตนั้นมันค่อนข้างรุนแรงเกินไป
ทั้งหมดที่ผมทำลงไป ก็เพียงเพื่อความสนุกสนานและความน่าสนใจในตัวผลงาน ผมไม่เคยคิดจะใช้มันในโหมดการแข่งขันเลย ผมหวังว่า Epic Games จะรู้ว่าผมพลาดไปแล้วและผมเสียใจจริง ๆ ผมรู้ว่าผมต้องรับผิดชอบต่อการกระทำนี้ และผมก็กำลังพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อยอมรับการลงโทษนี้
- Jarvis Kayne
Ricky Bengston เพื่อนร่วมสังกัด Faze ของ Jarvis ยังออกมาทวีตว่า
What Jarvis did was obviously stupid. It was a mistake and the point has been made very clear. Fortnite is a huge part of his life and I just don’t see the punishment (destroying a 17 year old kids life) fitting of the crime. #FreeJarvis
— FaZe Banks (@Banks) November 5, 2019
สิ่งที่ Jarvis ทำ แน่นอนว่ามันโง่ และมันเป็นความผิดพลาดในชีวิตเขา Fortnite ส่วนหนึ่งในชีวิตของเขาแล้ว ผมไม่เห็นว่าการลงโทษ (ที่เป็นการทำลายชีวิตเด็กอายุ 17) นี้มันจะดูเข้าท่าตรงไหน ราวกับมันเป็นอาชญากรรมงั้นแหละ
- Ricky Bengston
และที่เป็นที่น่าสนใจที่สุดคือ Ninja ได้พูดถึงประเด็นนี้ในระหว่างที่เขาไลฟ์สตรีมบน MIXER และเอ่ยถึงเหตุการณ์นี้ ในช่วงแรกเขาพูดว่ายังไง Jarvis ก็ไม่สมควรถูกแบน แต่คอมเมนต์เริ่มคิดว่าเขาเข้าข้างมากเกินไป จนในที่สุดเขาก็เข้าโหมดจริงจังและพูดออกมาว่า
มันต้องได้รับการจัดการที่แตกต่างกัน การโกงสำหรับคนอื่น มันก็แค่คิดจะโกง จะเล่นไปวัน ๆ ไม่เหมือนกับเหล่าผู้สร้างคอนเทนต์ ตอนนี้คุณแบนเขา (Jarvis) คุณกำลังทำลายชีวิตเขาด้วย ในขณะที่ถ้าคุณแบนคนอื่น มันก็แค่สมัครบัญชีใหม่มาโกงใหม่อยู่ดีนั่นแหละ
- Tyler ‘Ninja’ Blevins
จะเห็นได้ว่า Ninja ใช้คำพูดที่ค่อนข้างมีอารมณ์เหมือนกันในการพูดถึงประเด็นนี้ ซึ่งผู้อ่านสามารถเข้าไปชมวิดีโอที่เขาพูดถึงประเด็นนี้ได้ผ่านวิดีโอด้านล่างนี้ และดูท่าเรื่องนี้จะไม่จบง่าย ๆ เสียแล้ว ในเมื่อผู้คนทั่วไปต่างก็เห็นควรว่า Jarvis สมควรถูกแบน แต่ในขณะที่เหล่าสตรีมเมอร์ร่วมอาชีพกลับมองว่า เพื่อการสร้างคอนเทนต์และการใช้โปรแกรมไม่รบกวนใคร และไม่ถ่กนำไปใช้ในการแข่งจริงนั้น ต่อให้ถูกแบน ก็ไม่สมควรถึงกับต้องโดนถาวร
และเรื่องราวนี้จะจบลงอย่างไร เราคงต้องมาติดตามกันต่อไปยาว ๆ เลยทีเดียว