ผลการวิจัยจากคนสร้างการ์ดจอ
หากพูดถึงเรื่องเฟรมเรททีไรมักจะเป็นดราม่าได้เสมอ โดยมักจะมีสองประเภทของกลุ่มคนที่เราจะเจอบ่อย ๆ คือชาวเกมเมอร์จริงจังที่เน้นความแรงของ Hardware เพื่อดึงเอาเฟรมเรทออกมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ กับเกมเมอร์ที่เน้น 30 FPS ที่เน้นเรื่องของภาพที่สวยงามและความนิ่งของเกมไว้ก่อน ทำให้มักจะเกิดการแซะกันอยู่เป็นประจำ
เว็บไซต์ pcgamer ได้เปิดเผยว่าทาง Nvidia ทำการเก็บผลสำรวจจากโปรแกรม GeForce Experience จากผู้เล่นหลายล้านคน เพื่อนำมาวิเคราะห์โดยมุ่งไปที่่สองเกมยอดนิยมอย่าง Fortnite และ PUBG โดยเน้นการศึกษาในเรื่อง K/D ซึ่งทาง Nvidia ก็ได้นำเอาเรื่องราวที่ได้จากการสำรวจมาเปิดเผยให้ทุกคนได้รับทราบ
รูปที่ 1
รูปที่ 1 แสดงให้เห็นว่ายิ่งการ์ดจอมีความแรงมากเท่าไหร่ ปริมาณของ K/D Ratio ก็จะเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น โดยเฉพาะความแตกต่างระหว่างการ์ดจอซีรีส์ GTX 10xx กับ RTX 20xx ต่างกันถึง 20% เลยทีเดียว
รูปที่ 2
รูปที่ 2 ทาง Nvidia แสดงให้เห็นถึงจำนวนชั่วโมงในการเล่นที่ยิ่งเล่นเยอะความเก่งก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่จุดที่น่าสนคือหากเล่นด้วยระยะเวลาที่เท่ากันคนใช้การ์ดจอแรง ๆ กลับสามารถเล่นได้เก่งกว่าคนที่การ์ดจอไม่แรงโดยเฉพาะหากเทียบระหว่างการ์ดจอรุ่นกลาง ๆ ของยุคอย่าง GTX 1050/Ti กับการ์ดจอระดับสูงอย่าง GTX 1080/Ti จะพบว่าคนใช้การ์ดจอระดับสูงจะเก่งกว่า 3 เท่า
รูปที่ 3
รูปที่ 3 หลายคนอาจจะมีข้อสงสัยว่าเล่นเกมในจอที่มี Hz สูง ๆ มีผลต่อเกมการเล่นมากหรือไม่ ซึ่งจากการสำรวจนั้นค่อนข้างจะให้ผลที่น่าสนใจ โดยเราจะพบว่าจอ 144 Hz จะเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นมากถึง 40 % ยิ่งใช้การ์ดจอที่สามารถขับเฟรมเรทออกมาได้สูงก็จะยิ่งเพิ่มเปอร์เซ็นต์ความเก่งขึ้นไปอีก หากใครยังมีข้อสงสัยในเรื่องนี้ทาง GamingDose มีบทความสำหรับเรื่องนี้โดยเฉพาะ
ผลจากการเก็บสติของ Nvidia ในครั้งนี้ค่อนข้างที่จะให้ผลสรุปที่ชัดเจนว่าการเล่นเกมด้วย FPS ที่สูงเก่งกว่าผู้เล่นที่มี FPS น้อย ซึ่งแน่นอนว่าการมี Hardware ที่ดีกว่าคนอื่นย่อมทำให้ได้เปรียบในการแข่งขัน ซึ่งทางผู้เขียนมองว่านอกจาก Hardware จะดีแล้ว สิ่งสำคัญก็คือการฝึกฝนและการเข้าใจเกมก็มีส่วนในการพัฒนาฝีมือของเราเช่นกัน
