เรียกได้ว่าเป็นการ Collab ที่ไม่มีใครคาดคิด เมื่อเกมดังระดับโลกอย่าง Overwatch 2 จะโคจรมาพบกับมังงะชื่อดังอย่าง One Punch Man และเบื้องลึกเบื้องหลังการพัฒนา Event งวดนี้จะเป็นยังไง ทาง GamingDose ก็ได้มีโอกาสมานั่งพูดคุยสัมภาษณ์ทีมงานในการพัฒนา Event นี้
เริ่มต้นกันไปแล้วสำหรับ Event ใหญ่ครั้งใหม่ของเกม Overwatch 2 กับการ Collab ข้าม Brand เป็นครั้งแรกของเกมดังจากค่าย Blizzard ซึ่งผลงานที่ถูกหยิบมาก็เป็นมังงะชื่อดังระดับโลกอย่าง One Punch Man
และเนื่องจาก Event ครั้งนี้ถือเป็นการร่วมมือครั้งสำคัญที่เปิดความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ให้กับเกม Overwatch 2 รวมไปถึงมีแง่มุมน่าสำคัญในการพัฒนา GamingDose ของเราก็ได้มีโอกาสในการสัมภาษณ์ทีมงาน Overwatch 2 ในเรื่องราวการพัฒนา Event และเกล็ดที่น่าสนใจ
ซึ่งทีมงานทั้งสองคนก็ได้แก่คุณ Aimee Dennett ตำแหน่ง Associate Director และคุณ Dion Rogers ผู้เป็น Art Director ของเกม Overwatch 2
แน่นอนว่าหลายคนน่าจะสงสัยว่าทำไม One Punch Man ถึงถูกหยิบมาเป็น Collab แรกของตัวเกม
“ถึงแม้ว่าทีมงานของเราจะเป็นแฟนคอมิกและมังงะหลายเรื่องกันอยู่แล้วแทบทุกคนในทีม แต่ One Punch Man เป็นการ์ตูนที่อยู่ในใจพวกเราหลายคนเป็นอันดับหนึ่ง ดูได้จาก Voice Line ของ Doom Fist อย่าง One Punch is All I Need ในตอนที่เราเริ่มคุยกันว่าจะลงมือพัฒนา Event จากอนิเมะ ทีมงานหลายคนของเราก็พากันส่งเสียงเชียร์ผลักดันให้เรา Collab กับ One Punch Man” คุณ Aimee ตอบ
Dion “ผมเองก็ยังแปลกใจในจำนวนของแฟนเรื่อง One Punch Man ในทีม Overwatch 2 ตอนที่เราได้ไฟเขียวในโครงการนี้ทุกคนตื่นเต้นกันมาก หนึ่งใน Artist ของเราถึงกับลงมือเริ่มร่างภาพ Doomfist ในชุด Saitama ทันทีตอนที่เรารู้ข่าวว่าจะได้ทำ Event นี้”
ในแง่ของการทำงานจริงนั้นทีมงาน Overwatch 2 มีการพูดคุยยังไงกันบ้างกับผู้รับผิดชอบเนื้อหาจากฝั่ง One Punch Man
Aimee “สำหรับการ Collab ครั้งนี้เราร่วมงานกับทาง Bandai Namco เป็นหลัก ซึ่งทั้งสองทีมก็มีการพูดคุยส่งวความคิดเห็นต่าง ๆ ถึงกันตลอด”
“การทำงานของทั้งสองทีมเป็นไปอย่างราบลื่น ฉันสังเกตเห็นว่าจริง ๆ แล้วผลงานของทั้งสองทีมมันมีอารมณ์ขันแฝงอยู่ ซึ่งส่วนนี้ก็เป็นจุดที่เราหยิบจับมาขยาย”
Dion “ส่วนที่สำคัญผมคิดว่าคือการที่ทั้งสองฝั่งต้องการให้แน่ใจว่า เราใส่ตัวละครจาก One Punch Man ลงไปในเกม Overwatch โดยเราไม่ได้สูญเสียตัวตนของเหล่าตัวละครในเกมไป”
ในแง่ของความท้าทายนั้นการพัฒนา Event นี้ก็มีแง่มุมที่น่าสนใจเบื้องหลังอยู่หลายส่วน
“จุดที่น่าสนใจก็คือ Doomfist ถือเป็นตัวละครที่ตัวใหญ่เอาเรื่อง ลักษณะร่างกายกล้ามเนื้อของ Doomfist นั้นมีขนาดใหญ่มองเห็นได้ชัดเจน ในขณะที่ตัวละครเอกอย่าง Saitama นั้นมีรูปร่างภายนอกที่ดูผอม ใน Version แรกที่เราเริ่มสร้างโมเดล Skin ใหม่ของ Doomfist ขึ้นมามันไม่ค่อยลงตัวสักเท่าไหร่ สุดท้ายก็เลยต้องมีการปรับเปลี่ยนโครงร่างของ Doomfist อยู่สักพักจนในที่สุด Doomfist ก็สามารถใส่ชุดเหลืองสุดเด่นของ Saitaman ได้อย่างลงตัว”
“อีกจุดที่ท้าทายก็คือชุดใหม่ของ Doomfist นั้นมีผ้าคลุมมาด้วย ซึ่งชุดอื่น ๆ ของ Doomfist นั้นไม่ได้มีผ้าคลุมติดมา การใส่ผ้าคลุมเข้าไปในทำให้ลักษณะโครงร่างของ Doomfist เปลี่ยนไป ซึ่งมันส่งผลกระทบต่อเกมการเล่นจริงค่อนข้างมาก เราก็เลยต้องทำงานกันอย่างหนักจนออกมาเป็นผลงานที่สมดุลอย่างที่ทุกคนได้เห็นกัน”
แน่นอนว่าหลังได้เห็น Event Collab กับอนิเมะในรูปแบบนี้ แฟนเกมหลายคนก็อาจจะเกิดคำถามว่าหลังจากนี้ไปเรา “อาจจะ” ได้เห็นการ Collab กับ IP ชื่อดังอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกหรือเปล่า ซึ่งจุดนี้ทีมงานทั้งสองก็เห็นตรงกันว่าเราจะได้เห็นรูปแบบการ Collab แบบนี้เพิ่มเติมอย่างแน่นอนโดยเฉพาะในผลงานกับอนิเมะหรือการ์ตูนชื่อดังทั้งหลาย
Aimee “เพราะทีมงานของเราเป็นแฟนอนิเมะและการ์ตูนกันทั้งนั้น ทางเราเองจะแปลกใจมากกว่าถ้าเราไม่มีรูปแบบ Event แบบนี้เพิ่มมากขึ้น”
“และนอกจาก Skin หรือ Event แบบนี้แล้วเราเองก็ยังมองหาโอกาสในการร่วมมือใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ จะเห็นได้จากผลงานเกมอย่าง Overwatch Dating Sim ที่เราเพิ่งปล่อยให้เล่นกัน”
เมื่อถูกถามถึงการเปลี่ยนแปลงของแผนที่ใน Event รูปแบบนี้ คุณ Dion ก็เปิดเผยว่าใน Event นี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวฉากในเกมเหมือนกับ Event อื่น ๆ ที่ผ่านมา แต่ก็มีอะไรสนุก ๆ ให้แฟน ๆ ได้เฝ้ารอเช่นกัน
“ถึงเราจะไม่มี Make Over ในแผนที่ แต่เราก็ใส่อะไรพิเศษมาก ๆ ลงไปในฉาก Title ตอนเข้าเกม และถ้าเป็นไปได้เราก็อยากให้มีการเปลี่ยนแปลงในฉากใน Event พิเศษรูปแบบนี้ในอนาคตเช่นกัน”
ในส่วนของความท้าทายสำคัญที่ทีมงานต้องเผชิญในการพัฒนา Event นี้ ก็ดูเหมือนว่าการพัฒนา Collab ครั้งนี้จะเป็นไปได้ด้วยดีเพราะสิ่งที่เป็นปัญหาใหญ่ที่สุดที่พวกเขาได้เจอกลับเป็นแค่เรื่องการตัดสินใจว่าจะหยิบเอาไอเดียไหนมาทำ Skin
Aimee “จุดที่ยากที่สุดสำหรับเราก็คือเรามีไอเดียสนุก ๆ กันเยอะมาก จนเลือกไม่ถูกว่าจะหยิบอันไหนมาลงมือทำกันดีด้วยทรัพยากรที่เรามีจำกัด”
Dion “มันยากมากที่เราต้องเลือกตัด Skin บางตัวทิ้งไป เพราะพวกเรามีไอเดียที่อยากทำกันเยอะมาก บอกได้เลยว่าพวกเราเฝ้ารอที่จะได้กลับมาทำ Skin ใหม่ ๆ เหล่านี้กันอีก”
แน่นอนว่าการที่ Event นี้เป็นการ Collab กับ IP อื่นอย่างเป็นทางการครั้งแรก และแฟนเกมบางคนก็อาจจะเป็นกังวลว่า Event ที่จับมือกับสื่อดังอย่างอื่นจะทำให้ Overwatch สูญเสียตัวตนไปหรือไม่
Aimee “ทางทีมไม่กังวลกับจุดนี้เท่าไหร่ อิงจากเนื้อเรื่องในเกมแล้ว Overwatch มีเนื้อหาเกิดขึ้นบนโลกในอนาคต One Punch Man ก็เป็นการ์ตูนที่อยู่บนโลก Saitama ไม่ได้ถูกยัดมาใส่ไว้ในเกม Overwatch แต่เป็น Doomfist ที่ Cosplay เป็นตัวละครอย่าง Saitama และเอาจริง ๆ แล้ว Skin อื่น ๆ ในเกมของเราก็ไปไกลกันมากแล้วเหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น Cupid Hanzo เพราะ Hanzo ตัวจริงก็คงไม่มาใส่ชุดนี้จริง ๆ ฮา”
“สำหรับแฟนเกมที่เป็นกังวล เราก็อยากจะบอกว่าเราอยากให้ทุกคนได้สนุกกับความเป็นไปได้ใหม่ ๆ และก็อาจจะมี Event ใหม่ ๆ ในอนาคตที่โดนใจพวกคุณบ้างเช่นกัน”
Dion “ทุก ๆ ขั้นตอนของ Event เรามีการพูดคุยกันในทีมตลอดครับ ถ้ามันเป็นอะไรที่ทีมงานลงความเห็นว่ามันไม่เหมาะสมหรือแฟน ๆ จะไม่ชื่นชอบพวกเราก็จะไม่ฝีนทำมันออกมา อย่างที่บอกทีมงานทุกคนตื่นเต้นกันมากในการ Collab พวกเราแต่ต้องทำให้แน่ใจว่าทุกอย่างถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างตั้งใจและเหมาะสม”
และถึงแม้ว่าใน Event จาก One Punch Man เราจะไม่ได้มีโหมดหรืออะไรใหม่ ๆ นอกจาก Skin แต่ทีมงานก็สัญญาว่าจะมองหาความเป็นไปได้เพิ่มเติมในการใส่เนื้อหาส่วนอื่น ๆ เข้าไปในเกม
Aimee “อย่างที่บอกเอาไว้ เรามองหาโอกาสใหม่ ๆ อยู่เสมอในการ Collab กับสื่ออื่น ๆ ซึ่งก็ต้องให้แน่ใจว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างเหมาะสม ถ้าเป็นไปได้ในอนาคตก็อาจจะมีงาน Collab ที่มีโหมดพิเศษหรืออะไรใหม่ ๆ เพิ่มเติมเข้ามาในเกม”
และสุดท้ายใครที่ได้เห็นสุดยอดผลงาน Fan Art ที่หยิบเอาตัวละคร Sigma มาใส่ Skin ของ Tatsumaki และคาดหวังว่าจะได้เห็น Skin นี้ในเกม ความหวังของคุณก็ยังมีอยู่ถึงแม้ว่าสุดท้ายใน Season นี้ Tatsumaki จะถูกนำไปสร้างเป็น Skin ให้กับ Kiriko แทน เพราะทีมงานได้เห็นภาพ Fan Art ดังกล่าวแล้ว และก็ชื่นชอบกันเป็นอย่างมาก
“พวกเราได้เห็นภาพนั้นแล้วมันเป็นอะไรที่ตลกมาก ๆ และก็ต้องขอโทษด้วยที่เรามาเห็นภาพนั้นช้าไปเพราะ Kiriko ได้สิทธิของ Skin Tatsumaki ไปเสียก่อน”
“ถึงเราจะสัญญาอะไรไม่ได้แต่โดยรวมแล้วเราชื่นชอบภาพนั้นกันมาก ๆ และก็อยากให้มันได้กลายเป็น Skin จริง ๆ ในอนาคต”
